“นิช คาร์” ลุยขยายตลาดซูเปอร์คาร์ เฟ้นแบรนด์ใหม่ ๆ พร้อมเสิร์ฟสาวกทุกกลุ่ม ระบุพฤติกรรมใหม่ลูกค้าเริ่มมองหารถที่มีดีเอ็นเอซูเปอร์คาร์แท้ ๆ มั่นใจปีนี้ขายทะลุ 35 คัน
นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงเป้าหมายของบริษัทในปีนี้ว่า ตั้งเป้าโตขึ้น 15% จากปีที่แล้ว หรือมียอดขายมากกว่า 35 คัน สำหรับสัดส่วนของลูกค้าแมคลาเรนนั้น หากจะให้แบ่งกลุ่มลูกค้า ปัจจุบันสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าใหม่ 60-70% และกลุ่มลูกค้าเก่าของนิช คาร์อีก 30%
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“ถ้าจะแบ่งให้ละเอียดจะพบว่า 20% ของลูกค้า คือ กลุ่มผู้ที่ไม่เคยมีรถยนต์ซูเปอร์คาร์เลย และอีก 80% คือกลุ่มผู้ที่มีซูเปอร์คาร์อยู่แล้ว คำว่ากลุ่มลูกค้าใหม่ในนิยามของเรา ที่ได้สัมผัสตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา คือ กลุ่มลูกค้าใหม่จริง ๆ ซึ่งไม่เคยสัมผัสกับรถซูเปอร์คาร์มาก่อน เรียกว่าไม่เคยอยู่ในวงจรนี้ แล้วเข้ามาและตัดสินใจเลือกแมคลาเรนเป็นรถคันแรก”
นายวิทวัสกล่าวถึงสาเหตุที่แมคลาเรนได้กลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามาเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างมากนั้น เป็นผลมาจากความสำเร็จหลังจากบริษัทได้มีนโยบายในการทำตลาด โดยเน้นความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ลูกค้าจะไม่ค่อยรู้จักแบรนด์แมคลาเรนมากนัก แต่ปรากฏว่าปัจจุบันนี้ลูกค้าให้ความสนใจและตัดสินใจเลือกแบรนด์มาเป็นอันดับต้น ๆ
“เราปรับวิธีการสื่อสารกับลูกค้าใหม่ ทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้มาก่อนได้ข้อมูลอย่างถูกต้อง และกลุ่มนี้ชื่นชอบความแตกต่างไม่เหมือนใคร”
ส่วนแผนแนะนำโปรดักต์ใหม่ออกสู่ตลาดนั้นแน่นอนว่า บริษัทมีแผนจะแนะนำรถยนต์คลาสใหม่เข้ามาอีก 1 รุ่น เป็นรถ 2 ที่นั่ง ภายใต้รหัส P22 ซึ่งเชื่อว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจากบริษัทแม่ในต่างประเทศและหลังจากนั้นก็จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยทันที ซึ่งรถรุ่นนี้จะเข้ามาอยู่ระหว่างกลางของรถซูเปอร์คาร์ และรถสปอร์ต เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีราคาจำหน่ายไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท
นายวิทวัสกล่าวว่า มีการศึกษามาก่อนหน้านี้ว่า ตลาดรถซูเปอร์คาร์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คนที่ขับปอร์เช่ก็มีความต้องการอยากขยับขึ้นมามากขึ้น ทำให้ตลาดโตขึ้นมาก และแมคลาเรน มีความแข็งแรง และมีดีเอ็นเอความเป็นซูเปอร์คาร์ที่ชัดเจน
“ถ้าสังเกตเราเป็นแบรนด์เดียวที่ยังคงความเป็นซูเปอร์คาร์เอาไว้ เราไม่มีการทำรถให้ราคาถูกลง เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น เพราะบริษัทแม่เรามองเรื่องของแฟชั่น และดีเอ็นเอความเป็นซูเปอร์คาร์ เป็นสำคัญ”
ล่าสุดบริษัทได้แนะนำ แมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ ครั้งแรกในประเทศไทย ในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ด้วยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 28.5 ล้านบาท
