เอ็มจีซีลั่นกวาดรายได้ 3 หมื่นล้าน เพิ่มศักยภาพแข่งขันแตกธุรกิจคาร์แชริ่ง

เอ็มจีซี-เอเชีย เทอีกพันล้านเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ทะยานสู่ทศวรรษใหม่ด้วยเอาต์เลตเฉียด 100 แห่ง กอดแชมป์ธุรกิจค้าปลีกรถยนต์เมืองไทยแน่น ลั่นปี 2563 แตกธุรกิจคาร์แชริ่ง รองรับพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน ดันรายได้รวมแตะ 30,000 ล้านบาท โตกว่า 15%

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือเอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2563 ซึ่งบริษัทจะก้าวสู่ทศวรรษใหม่และรักษาการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ของเมืองไทย ด้วยการเพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และการทำตลาดแบบใหม่ ผ่านหลายช่องทาง เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งทุ่มเม็ดเงินลงทุนอีกกว่าพันล้านบาทขยายเอาต์เลตขายรถยนต์อีก 15 แห่ง ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ทำให้ปัจจุบันเอ็มจีซี-เอเชีย มีเอาต์เลตทั่วประเทศถึง 96 แห่ง นอกจากนี้บริษัทจะขยายธุรกิจเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ 6 กลุ่มธุรกิจ โดยจะเพิ่มธุรกิจคาร์แชริ่งรองรับพฤติกรรมยุคดิจิทัล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเซตอัพรายละเอียดทั้งหมด มั่นใจว่าการรุกตลาดอย่างเป็นระบบ รู้จริง มีความต่อเนื่องและเข้าถึงความต้องการของลูกค้า จะผลักดันให้ปี 2563 เอ็มจีซี-เอเชีย มีรายได้รวมราว 30,000 ล้านบาท เติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งทำรายได้ทั้งสิ้น 25,576 ล้านบาท

สำหรับเอาต์เลตที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ประกอบด้วย 1.เอ็มจีซี-เอเชีย ออโตเพล็กซ์ สุราษฎร์ธานี ศูนย์รวมรถหลากหลายแบรนด์ในเครือ ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู, เปอโยต์, มาสเตอร์เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ ฯลฯ 2.ซัมมิทฮอนด้า สาขาบางนา 3.มิลเลนเนียมออโต้ กรุ๊ป สาขาสวนหลวง ขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 4.เปอโยต์ พระรามห้า 5.อาคารสำนักงานใหญ่ ลาดพร้าว 112 ซึ่งจะมีทั้งโชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดและบีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเล็กชั่น

“เราสั่งสมประสบการณ์มาตลอด 20 ปี เรามีฐานลูกค้ากว่า 580,000 รายดังนั้นในปี 2563 เราจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มประเภทธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจรทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ตั้งแต่โชว์รูม-ศูนย์บริการ-ศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง รวมถึงการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น M Performance ที่มุ่งเน้นความแรงและสปอร์ต”

ดร.สัณหวุฒิกล่าวอีกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดการทำธุรกิจเอ็มจีซี-เอเชีย จะเดินหน้าสร้างความมั่นใจในการให้บริการลูกค้า ด้วยแนวคิดหลอมรวมการทำงานของแต่ละหน่วยธุรกิจในเครือ โดยมองถึงความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งเอ็มจีซี-เอเชีย มีความหลากหลายในธุรกิจยานยนต์ ส่งผลให้สามารถเอื้อประโยชน์ต่อกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้าได้สูงสุด นำประสบการณ์พิเศษผ่านการทำตลาดแบบ omnichannel เน้นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหลากหลายช่องทาง โดยผสมผสานช่องทางการสื่อสารแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าแบบไร้รอยต่อ โดยปัจจุบันมีช่องทางการสื่อสารแบบออฟไลน์ ผ่านโครงข่ายผู้แทนจำหน่าย และธุรกิจการบริการต่าง ๆ ที่ครอบคลุมทั่วประเทศแบบออนไลน์ อาทิ เว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย พร้อมเพิ่มช่องทางการติดต่อที่สะดวกผ่านเบอร์โทร. 4 หลักในธุรกิจหลักต่าง ๆ ที่จะเชื่อมต่อกับดิจิทัลแพลตฟอร์มและอื่น ๆ ในอนาคต

“หลายปีมานี้ดิจิทัลดิสรัปต์ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว เพื่อให้ทันกับรูปแบบของธุรกิจที่เปลี่ยนไป เราได้มีการจัดองคาพยพ นำบุคลากรมืออาชีพเสริมทัพ พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มศักยภาพบุคลากร ขณะเดียวกันก็ได้พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน เราเชื่อว่าการที่องค์กรจะสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ต้องอาศัยบุคลากรที่มีคุณภาพ จึงได้ให้ความสำคัญด้านการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผ่านมาสเตอร์ ออโตโมทีฟ เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกทักษะบุคลากร เกี่ยวกับยานยนต์ครบวงจร ส่งผลให้เอ็มจีซี-เอเชีย สามารถขับเคลื่อนอย่างมืออาชีพ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

และในปีนี้บริษัทเตรียมฉลองครบรอบ 20 ปีแห่งความสำเร็จ โดยจะให้ความสำคัญกับ 3 องค์ประกอบหลัก คือ ลูกค้า คู่ค้า และบุคลากร อาทิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย คืนกำไรให้กับลูกค้า การดูแลลูกค้า โดยการเพิ่มประสิทธิภาพบริการหลังการขายและขยายศูนย์บริการ, การร่วมมือกับคู่ค้าและพนักงานในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคม ผ่านมูลนิธิ “ธรรมชวนวิริยะ” ด้วย

อนึ่ง ธุรกิจของเอ็มจีซี-เอเชีย แบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ อาทิ โรลส์-รอยซ์, แอสตัน มาร์ติน, มาเซราติ บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด, ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน, เปอโยต์, ซัมมิท ฮอนด้า, บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเล็กชั่น, มินิ เน็กซ์, ฮอนด้า เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์, มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ และยัวร์ไบค์, มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล และซิกท์, มาสเตอร์ ไดรฟ์เวอร์ แอนด์ เซอร์วิสเซส, เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์ เซอร์วิส แอนด์ ไทร์

2.กลุ่มธุรกิจนำเข้ายานยนต์-เปอโยต์ ประเทศไทย (เบลฟอร์ท ออโตโมบิล) 3.กลุ่มธุรกิจการเงินและประกันภัย-ฮาวเด้น แม็กซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ 4.กลุ่มธุรกิจครีเอทีฟโซลูชั่น-i24, iMX (Innovative Mobility Experience) และ MAT (Master Automotive Training Center) 5.กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ-อะซิมุท ยอชท์