หวั่นโควิดจ้องลดกำลังผลิต ค่ายรถยืดวันหยุดยาวปีใหม่-สั่งพนง. WFH

โควิดป่วนค่ายรถ โรงงานผลิตเตรียมยืดเวลาช่วงหยุดยาวปีใหม่เพิ่มลดกำลังผลิตไปในตัว ลุ้นโรงงานในพื้นที่สีแดง ปรับแผน “โตโยต้า-ฮอนด้า-มาสด้า” ปรับเวลาเน้น “ทำงานที่บ้าน” ลดความเสี่ยง นายใหญ่โตโยต้าเตรียมแถลงนโยบายผ่านโซเชียลแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้ค่ายรถยนต์อาจจะต้องปรับตัวครั้งใหญ่อีกระลอก โดยเฉพาะการหยุดไลน์ผลิตแบบเดียวกับช่วงเดือนเมษายนของปี 2563 ซึ่งรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ประเทศครั้งนั้นส่งผลกระทบต่อหลากหลายธุรกิจ

แหล่งข่าวจากผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการหารือกันระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนและโรงงานผลิตรถยนต์ว่า เร็ว ๆ นี้อาจจะต้องชะลอการซัพพลายชิ้นส่วนไปยังโรงงานเพื่อให้สอดรับกับดีมานด์ของตลาดที่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งผลกระทบนี้น่าจะเริ่มอย่างจริงจังราวปลายเดือนมกราคมนี้ เพราะช่วงนี้เกือบทุกโรงงานผลิตรถยนต์ยังอยู่ในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่

“เป็นไปได้ว่าหลายโรงงานอาจจะยืดระยะเวลาวันหยุดออกไปอีก และที่สำคัญ โรงงานส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งรัฐบาลยกระดับความเข้มงวดในการป้องกันโรค การเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดต้องได้รับอนุญาต การเข้าปฏิบัติงานของพนักงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก หรืออย่างช้าที่สุด หลังสิ้นสุดปีงบประมาณ 2563 ในวันที่ 31 มีนาคม เชื่อว่าค่ายรถยนต์ต่างจะต้องมีการประเมินเพื่อปรับแผนงานให้สอดรับกับสถานการณ์ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น สำหรับปีงบประมาณใหม่ 2564 โดยจะต้องมีการวางแผนงานให้ยืดหยุ่นเพื่อเตรียมรับกับการแพร่ระบาดขั้นสูงสุดเอาไว้”

ปัจจุบันในส่วนของผู้ผลิตชิ้นส่วนเองจากปกติจะสามารถมองเห็นคาดการณ์ของยอดผลิตได้ล่วงหน้า 3 เดือนนั้น ซึ่งในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม จะเป็นไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2563 เชื่อว่าบรรดาค่ายรถยนต์ต่างจะต้องพยายามรักษายอดขายและยอดผลิตให้เป็นไปตามตัวเลขที่คาดการณ์เอาไว้แต่เดิม สิ่งสำคัญวันนี้คงต้องลุ้นกันด้วยว่า ค่ายรถต่าง ๆ จะเพิ่มวันหยุดต่อเนื่องในส่วนของโรงงานผลิตที่อยู่ในพื้นที่สีแดงหรือไม่ ซึ่งแต่ละโรงงานต้องเร่งปรับแผนรับมือ

ขณะที่ บริษัท โตโยต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทได้ทำตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยได้มีการเซตระบบการทำงานเพื่อลดความแออัด และให้พนักงานทำงานที่บ้าน (WFH) ให้ได้มากที่สุด โดยมีหัวหน้างานเป็นผู้ควบคุมและบริหารจัดการให้การปฏิบัติงานของพนักงานเป็นไปตามคุณภาพ

โดยส่วนของโรงงานผลิตรถยนต์ของโตโยต้าทั้ง 3 โรงงาน ได้แก่ สำโรง, เกตเวย์ และบ้านโพธิ์ นั้นปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ตามแนวทางปฏิบัติการป้องกันของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เช่นเดียวกัน เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพและความปลอดภัยของลูกค้า บุคลากร บุคคลผู้ติดต่อ และคู่ค้าทางธุรกิจอย่างสูงสุด ทั้งนี้ บริษัทขอให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยจากการเลือกใช้สินค้าและเข้ารับบริการจากศูนย์บริการโตโยต้า และเลกซัส ทุกแห่งทั่วประเทศ

“ตอนนี้การดำเนินงานของโตโยต้านั้นเป็นไปต่อเนื่องตั้งแต่โควิดระบาดในช่วงก่อนหน้านี้ โดยให้เป็นดุลพินิจของผู้บริหารในแต่ละหน่วยงานพิจารณาไปตามความจำเป็น เพื่อลดความแออัดป้องกันโควิด โดยจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานเป็นสำคัญ” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวยังกล่าวต่อไปว่า นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 ที่ผ่านมานั้น จะมีการแถลงนโยบายแผนธุรกิจและนโยบายปี 2564 ที่โตโยต้า ไทยแลนด์ เตรียมประกาศปรับโครงสร้างองค์กรประจำปี พร้อมเดินหน้าพันธกิจในการปฏิรูปองค์กร จาก “บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์” สู่การเป็น “องค์กรแห่งการขับเคลื่อน” โดยการแถลงข่าวจะมีขึ้นในวันที่ 25 มกราคมนี้ ภายใต้รูปแบบการแถลงข่าวผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงและการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วย

ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจาก บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทยังคงใช้มาตรการในการดูแลความปลอดภัยของพนักงานอย่างเคร่งครัด และทำต่อเนื่องมาตั้งแต่การแพร่ระบาดปีที่แล้ว โดยฮอนด้าได้จัดพื้นที่การทำงาน เน้นให้มีการเว้นระยะห่าง พร้อมทั้งกระจายการทำงานของพนักงานบางส่วนออกไปยังพื้นที่ของบริษัทที่มีอยู่ 4-5 แห่ง ทั้งสำนักงานใหญ่ อาคารภิรัชทาวเวอร์, ศูนย์ฝึกอบรมฮอนด้า, ศูนย์ส่งมอบรถใหม่ ฯลฯ เพื่อให้พนักงานกระจายความหนาแน่นและลดความเสี่ยง

พนักงานบางส่วนทำงานจากที่บ้านซึ่งบริษัทอำนวยความสะดวกในส่วนของเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์การทำงานต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานฮอนด้าสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเข้มงวดให้พนักงานอยู่ในที่พักอาศัย งดเว้นการเดินทาง

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า มาสด้าเป็นห่วงความปลอดภัยพนักงาน และให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการควบคุมโรค โดยสัปดาห์หน้าพนักงานจำนวนครึ่งหนึ่งจะปฏิบัติงานที่บ้าน เพื่อลดความแออัด รวมทั้งได้ปรับรูปแบบในเรื่องของการสื่อสารไปยังลูกค้าให้ผ่านช่องทางออนไลน์

เช่นเดียวกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศที่ต้องรักษาระยะห่างทั้งในที่ทำงานและบริเวณปฏิบัติงาน ส่วนเรื่องการติดต่อลูกค้า นัดหมายลูกค้า การนำเสนอตัวรถที่บ้าน การส่งมอบรถที่บ้าน หรือที่ที่ลูกค้าต้องการ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากดีลเลอร์เป็นอย่างดี ขณะที่โรงงานผลิตรถยนต์ของมาสด้านั้นจะเริ่มเปิดดำเนินการในช่วงสัปดาห์กลางเดือนมกราคมนี้ ซึ่งบริษัทยังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด