“ดูคาติ” ทุบราคาลง 5-10% ลั่น 6 เดือน ตั้งเป้าขาย 250 คัน

“ดูคาติ” ตั้ง “โมโตเร อิตาเลียโน” ในเครือออดี้คุมตลาดในประเทศ ผุดเน็ตเวิร์กเพิ่ม 10 แห่งทั่วประเทศ พร้อมปรับโครงสร้างราคาใหม่ลดลง 5-10% ลั่นขายปีนี้ 250 คัน

วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นายกฤษณะกร เศวตนันนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ เปิดเผย ว่าได้รับแต่งตั้งจากดูคาติให้เป็นผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ดูคาติอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ต่อจากรายเก่าตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

โดยตั้งเป้าขายปีนี้ 250 คัน (ช่วงระยะ 6 เดือนจากนี้) และปี 2565 จะมียอดขายไม่น้อยกว่า 500 คัน มีอัตราเติบโตปีละ10-15% ภายใต้นโยบายในการทำตลาดและดูแลลูกค้าดูคาติ 4 ด้าน 1.การให้บริการหลังการขาย และสร้างความพึงพอใจของลุกค้าเป็นสำคัญ

ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทต้องการเรียกและสร้างความมั่นใจกับลูกค้า โดยได้ตัดสินใจเพิ่มการรับประกันคุณภาพรถจักรยานยนต์จาก 2 ปี เป็น 3 ปี ไม่จำกัดระยะทางและมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินไว้ค่อยให้บริการลูกค้า 2.ขยายเครือข่ายจัดจำหน่าย โดยปีนี้มีแผนเพิ่ม 10 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 4 แห่ง ซึ่งกระจายอยู่ 4 มุมเมือง ได้แก่ สาขาแฟลกชิปโชว์รูม (สุวรรณภูมิ) ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย 2.เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา 3.ถ.เพชรบุรี 4.ถ.กาญจนาภิเศษ ส่วนของต่างจังหวัดพิษณุโลก, ลพบุรี, หาดใหญ่ และภูเก็ต ก่อน จากนั้นจะขยายไป ขอนแก่นและบุรีรัมย์ ส่วนปีหน้าจะเน้น โซนภาคเหนือและตะวันออก, ตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มเติม

3.ผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าอยู่ 8 กลุ่ม มีจำนวนถึง 18 รุ่น ซึ่งบริษัทจะพยายามนำเสนอสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก รวมทั้งพยายามปรับโครงสร้างราคาจำหน่ายให้สอดคล้อง อย่างที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างราคาลง 5-10% มีจำหน่ายตั้งแต่ระดับราคา 349,000 บาทไปจนถึงกว่า 1 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทต้องการให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงแบรนด์ดูคาติได้มากขึ้น

และ 4 การตลาด ที่ปัจจุบันมีทีมการตลาดที่มีความแข็งแกร่ง มีความรู้ความเข้าใจในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างคอมมิวนิตี้ของดูคาติให้มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายดอม เหตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด กล่าวเพิ่มว่า ดูคาติเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เป็นเวลา 10 ปี และมีฐานลูกค้าไม่น้อยนกว่า 15,000 ราย และบริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ และเชื่อว่าจะเรียกความมั่นใจจากลูกค้ากลับมาได้อย่างแน่นอน และน่าจะเป็นแบรนด์ที่สร้างสีสัน ให้กับตลาดรถบิ๊กไบก์เมืองไทย