“นิสสัน ครอสโมชัน” ต้นแบบเอสยูวีแห่งอนาคต

ค่ายนิสสันได้นำรถยนต์ต้นแบบ ครอสโมชัน (Xmotion)ออกมาเผยโฉมเพื่อที่จะสะท้อนแนวคิดของการออกแบบในอนาคตของรถยนต์อเนกประสงค์ ครอสโอเวอร์ของนิสสันในอนาคต มาโชว์บนเวทีดีทรอยต์ ออโต้โชว์ ครอสโมชัน (Xmotion) ผสมผสานวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น และความประณีตศิลป์แบบดั้งเดิม กับการออกแบบสไตล์อเมริกัน และเทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้

อัลฟองโซ อัลไบซา รองประธานอาวุโส ฝ่ายการออกแบบของนิสสัน เปิดเผยถึงแนวคิดของ “ครอสโมชัน” ว่า “เราเน้นการแสดงพลังและความแข็งแรงของนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ ซึ่งความดุดันและทรงพลังนี้เป็นองค์ประกอบที่รวมอยู่กับความประณีตและนุ่มนวลแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว”

ด้วยการออกแบบภายนอกซึ่งผสานแนวคิดแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน สะท้อนให้เห็นผ่านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ และเทคโนโลยีเชื่อมต่ออัจฉริยะ รวมถึงศิลปะยุคดิจิทัล และประณีตศิลป์แบบดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น

รถคันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะแสดงถึงทิศทางการออกแบบรถยนต์ของนิสสันในอนาคต รถยนต์ต้นแบบ “ครอสโมชัน” ได้มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ดูสวยงามและปราดเปรียว ด้วยด้านหน้ารูปทรงตัวยู (U-shaped highlights) และการปรับปรุงรูปแบบของกระจังหน้าแบบ V-motion ที่ดูบึกบึนและทรงพลัง

รูปลักษณ์ภายนอกที่เรียบง่ายสง่างามของ “ครอสโมชัน” จะตัดกับซุ้มล้อเหล็กและยางที่สามารถได้กับทุกสภาพถนน ภายใต้การออกแบบมาอย่างดีให้เป็นชิ้นเดียวกัน อัลลอยขนาด 21 นิ้ว

Nissan Xmotion concept

โดดเด่นด้วยที่เก็บสัมภาระบนหลังคา หรือ rooftop box ที่มีดีไซน์อันโดดเด่นรวมถึงไฟท้ายที่ได้แรงบันดาลใจจากงานไม้ของญี่ปุ่น

รถคันนี้มีทั้งหมด 6 ที่นั่ง จัดแบ่งเป็นแบบ 3 แถว หรือ “4+2” เหมาะสำหรับครอบครัว หรือคู่รักที่มีลูก 2 คน หรือแม้กระทั่งสำหรับสัตว์เลี้ยง

ภายในได้รับอิทธิพลจากรูปแบบภูมิทัศน์ของญี่ปุ่น ที่ตอกย้ำรากฐานของความเป็นนิสสัน ในขณะที่มีการใช้กราฟิกล้ำสมัย รวมถึงเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ ห้องโดยสารภายในได้รับแรงบันดาลใจมาจากแม่น้ำ

โดยมีคอนโซลกลางเป็นเสมือนสะพานพาดวางตั้งแต่ส่วนหน้าไปจนถึงส่วนท้ายของรถ โดยใช้เทคนิคการเชื่อมไม้แบบตัวต่อ “kanawa tsugi” ซึ่งมักพบในการสร้างวัดและศาลเจ้าของชาวญี่ปุ่น

แผงหน้าปัดใช้เทคนิคการเชื่อมไม้แบบ kigumi สะท้อนให้เห็นความแข็งแรงของโครงสร้าง ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือรถคันนี้ยังมาพร้อมหน้าจอดิจิทัลถึง 7 จุด ได้แก่ หน้าจอขนาดยาวบริเวณหน้ารถ ซึ่งประกอบด้วย หน้าจอหลักทั้งหมด 3 จอ พร้อมจอซ้ายและขวา รวมถึง digital room mirror บริเวณเพดานและแผงคอนโซลกลาง

ระบบแสดงผลและข้อมูลสามารถควบคุมได้โดยใช้ท่าทางและการเคลื่อนไหวของดวงตา และการสั่งงานด้วยเสียง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมีสมาธิในการขับรถ และเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

ทั้งนี้ นิสสันมองว่ารถยนต์ต้นแบบ “ครอสโมชัน” จะเป็นรถยนต์เอสยูวีเพื่อการใช้งาน ซึ่งสามารถขับขี่ได้ในชีวิตประจำวัน และตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ การออกแบบและเทคโนโลยีนี้จะทำให้นิสสันสามารถบรรลุพันธกิจในการสร้างโลกที่ดีกว่าให้ผู้คน