CLS 300 d AMG สปอร์ตพรีเมี่ยม

ใครที่ชื่นชอบสปอร์ตพรีเมี่ยมแบบ 4 ประตู รับรองตัวนี้ได้ใจมากครับ The new CLS 300 d AMG Premium กว้างขวางใหญ่โต ขึ้นลงสะดวกสบาย

ดีไซน์ภายนอกเด่นเน้นสปอร์ต สวยงามกระจังหน้ามีเส้นตัดแบ่งเส้นเดียว ใครเห็นก็รู้ว่า เพราะเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์แบบคูเป้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์

สเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ฝั่งสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรก ล้ออัลลอยสปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ชุดไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติก

ภายในห้องโดยสารหรูหราเรียบง่าย มีไฟประดับที่ช่องลมของเครื่องปรับอากาศ เพื่อเสริมรูปลักษณ์ของช่องลมที่ดูคล้ายเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ต พร้อมลูกเล่นด้วยการเปลี่ยนสีเมื่อมีการปรับอุณหภูมิ รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดสำหรับผู้ขับขี่แบบดิจิทัล ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 แบบเพื่อให้เหมาะกับความรู้สึกขณะขับขี่

CLS ออกแบบเบาะที่นั่ง 5 ที่นั่งเป็นครั้งแรก โดยวัสดุหุ้มเบาะและฝีเข็มอย่างดี เบาะที่นั่งตอนหลังยังสามารถพับลงแบบ 40/20/40 ได้เพื่อขยายความจุของกระโปรงหลังที่มีความจุสูงถึง 520 ลิตร มาพร้อมหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

พวงมาลัยพาวเวอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัดที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถด้วยระบบไฟฟ้า หุ้มหนัง nappa มีปุ่มควบคุมแบบ touch control และหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้วต่อกัน 2 จอ, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต อีกทั้งยังสามารถเลือกสีของไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารได้ถึง 64 สี

ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีมาครบ ตั้งระบบ dynamic select ที่มีโหมดการขับขี่อันหลากหลาย

ระบบกุญแจ keyless-go พร้อม hand-free access, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า,ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย,ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ, ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า, ระบบนำทาง

เครื่องเสียงชุดใหญ่ burmester surround sound system มาพร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ apple carplay & android auto และระบบบลูทูท

CLS 300 d มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร 245 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC มีระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม. แค่ 6.4 วินาที ท็อปสปีดไปถึง 250 กม./ชม. สนนราคาค่าตัว 4,980,000 บาท