marketthink โดย "หนุ่มเมืองจันท์" สรกล อดุลยานนท์
ใครจะไปนึกว่าขณะที่เตือนให้ประชาชนอย่าการ์ดตก
รัฐบาลกลับการ์ดตกเสียเอง
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
กรณีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากต่างประเทศ ที่เป็นทหารจากอียิปต์และลูกทูตประเทศซูดาน
สร้างผลกระทบต่อเนื่องไปไกลมาก
คำว่า “อภิสิทธิ์” และ “V.I.P.” สร้างความเจ็บปวดให้กับคนไทยมาก
เพราะผลสะเทือนที่เกิดขึ้นใหญ่กว่าที่คิด
ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลและ ศบค.กลัวว่าประชาชนจะการ์ดตก ทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกที่ 2
เขาจึงสร้าง “ความกลัว” ให้กับประชาชน
เหมือนว่าตอนนี้อยู่ในช่วงแรก ๆ ของการแพร่ระบาด
ในวันที่เราไม่รู้จักเชื้อไวรัสตัวนี้
วันที่เรายังรักษาโรคนี้ไม่ได้
มีทั้งคนเสียชีวิตและคนเจ็บหนัก
ยาก็ไม่พอ
ไม่รู้ว่าจะใช้ยาอะไรตอนไหน
ทั้งที่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
เราไม่มีคนเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน หรือประมาณ 1 เดือนกว่า
ไม่มีคนติดเชื้อในประเทศ 50 กว่าวัน หรือเกือบ 2 เดือน
ถ้าเชื้อไวรัสมีระยะฟักตัวไม่เกิน 14 วัน
แสดงว่าไม่มีต้นทางของการแพร่เชื้อในสังคมไทยแล้ว
เมื่อไม่มี “ต้นเหตุ”
“เชื้อ” ก็แพร่ไม่ได้
นอกจากนั้น เรามีคนป่วยที่อยู่โรงพยาบาลแค่ 83 ราย
รักษาหายเกือบหมด
ทั้งที่มีคนติดเชื้อจากต่างประเทศ 200 กว่าคน นับจากวันที่ไม่มีคนติดเชื้อในเมืองไทย
เรื่องนี้เป็นเรื่องสถิติและหลักวิทยาศาสตร์ทั่วไป
ไม่ใช่ “จินตนาการ”
หมอไทยเก่งมากครับ ตอนนี้รับมือคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว
แต่เรายังโดนครอบให้จินตนาการว่ายังอยู่ในช่วงวิกฤต
วิธีการรับมือทุกอย่างก็ยังยืนตามมาตรการเดิม
ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและปลอดภัย ถ้าเราคิดแค่เรื่องการหยุดยั้งไวรัสโควิด-19
แต่ถ้าเราคิดเรื่องเศรษฐกิจด้วย
เราต้องปรับวิธีการรับมือตามความเป็นจริง
โรคนี้เรารู้จักแล้ว รักษาได้
ไม่ได้อันตรายเหมือนตอนที่เราไม่รู้จัก
ระดับการติดเชื้อไวรัสตัวนี้แค่ไหนที่ระบบสาธารณสุขเรารับมือได้สบาย ๆ
ไม่ใช่การภูมิใจตัวเลขคนติดเชื้อเป็นศูนย์
แต่คนอดตาย
อย่าแปลกใจที่คนระยองจะโกรธมากในเรื่องนี้
เพราะเหตุที่เกิดขึ้น เขาไม่ได้ทำ
รัฐบาลหละหลวมเอง
เศรษฐกิจที่ระยองพึ่งพาอยู่ 3 เรื่องหลัก
คือ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สวนผลไม้ และการท่องเที่ยว
มีเพียงสวนผลไม้เท่านั้นที่ยังไปได้
โรงงานอุตสาหกรรมก็เริ่มปลดพนักงานออก
ท่องเที่ยวฟุบมาหลายเดือน เพิ่งเปิดได้วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เอง
คิดดูนะครับ รายได้เป็น 0 มา 2-3 เดือน พอเริ่มต้นมีชีวิตชีวาขึ้นก็เจอเรื่องทหารอียิปต์
“ระยอง” กลายเป็น “เมืองเชื้อโรค” ที่น่ารังเกียจ
หลายจังหวัดประกาศเลยว่าคนระยอง และคนไปเที่ยวระยอง ถ้าเข้าพื้นที่จะต้องถูกกักตัว 14 วัน
เพราะจังหวัดเหล่านั้นใช้มาตรการรับมือแบบเดิม
ป้องกันตัวเองไว้ก่อน
นอกจากคนไม่กล้าไปเที่ยวระยอง เพราะกลัวติดไวรัสโควิด-19
ทั้งที่สถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลอยู่ห่างจากพื้นที่เกิดเหตุมาก
หลายคนไม่ไปเพราะกลัวโดนกักตัว 14 วัน
ยอดการยกเลิกการจองที่พักสูงมาก
บางโรงแรมบอกว่าเจอไปวันละล้านบาท 2-3 วัน
ลองคิดแบบใจเขา-ใจเรา สิครับ
เพิ่งเดินทางผ่านทะเลทรายมานาน ดื่มน้ำได้ไม่กี่อึก
จะให้ไปวิ่งในทะเลทรายต่อ
แบบนี้จะไม่โกรธได้อย่างไร
ผลสะเทือนจากเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับระยองจังหวัดเดียว
ยังแผ่กระจายไปที่พัทยา จันทบุรี ตราด อีกด้วย
นี่คือ ความกลัวแบบไม่มีเหตุผล
ทุกคนกลัวการระบาดระลอก 2
ผมว่าวันนี้รัฐบาลคงรู้แล้วว่า ต้องให้ “ความจริง” กับประชาชน
อย่ากลัวจนเกินเหตุ