Market-think : สรกล อดุลยานนท์
และแล้วเมืองไทยก็หนีไม่พ้น
เมื่อโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ตามสำนวนของ น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าการระบาดรอบ 2
เฮ้อ…ไม่รู้จะหลบคำไปทำไม
คงกลัวว่าถ้าใช้คำว่า “ระลอก 2” จะทำให้คนคิดว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้ชนะเหมือนที่รัฐบาลคุยไว้
แต่ระบาด “รอบใหม่” หมายความว่าครั้งก่อนเราชนะไปแล้ว
ครั้งนี้เป็นสงครามครั้งใหม่ กับศัตรูใหม่
ไม่ใช่คู่ต่อสู้เก่า
เหมือนกับตอนที่สลายม็อบ “เสื้อแดง” ปี 2553
ทหารก็นำศิลปะการประดิษฐ์ถ้อยคำมาใช้ในการแถลงข่าว
ศัพท์ปกติที่เข้าใจง่าย ๆ ว่า “การสลายม็อบ”
เขาเปลี่ยนใหม่เป็น “การขอคืนพื้นที่”
ทำให้ “ความรุนแรง” นุ่มนวลลง
โฟกัสไปที่ “พื้นที่” ที่ไม่มีชีวิต
แทนที่จะเป็นการสลาย “ม็อบ”
ที่หมายถึง “คน” ที่มีลมหายใจ
ล่าสุด การประชุม ศบค. ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ประชุมได้พักหนึ่งก็เริ่มมีข่าวแว่วออกมาแล้วว่าจะแบ่งจังหวัดให้เป็นตามโซนต่าง ๆ
ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ถูกต้อง
เพราะแม้จะเกิดในเมืองไทยเหมือนกัน แต่ความรุนแรงแตกต่างกัน
เหมือนในจังหวัดก็เช่นกัน
เกิดที่พื้นที่ไหนก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นทั้งจังหวัด
บทเรียนจากครั้งก่อนที่แม้ว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ “โควิด-19” เอาไว้ได้
แต่ต้องแลกกับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัสมาก
เหมือนกับการให้ “คีโม” คนที่เป็นมะเร็ง
เพราะไม่ใช่แค่จัดการ “มะเร็ง” เท่านั้น
แต่ยังเล่นงานเม็ดเลือดขาวทั่วทั้งร่างกายด้วย
ครั้งนี้จึงมีการแบ่ง “โซน”
จุดไหนที่ไม่มีปัญหาก็ให้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้
เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปีใหม่ ที่คนจะเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย
เป็นช่วงที่เงินจะสะพัดครั้งใหญ่
ถ้าให้หยุดกิจกรรมทั้งหมดทั่วประเทศ รับรองได้ว่าเศรษฐกิจกระตุกครั้งใหญ่แน่นอน
ตอนที่ประชุมกันนั้นมีการแบ่งโซนโดยใช้ “สี” เพื่อให้เข้าใจง่าย
แดง-ส้ม-เหลือง-เขียว
ถ้าใช้ “สี” แบบนี้ เราฟังครั้งเดียว จะเข้าใจเลย
เห็นระดับความรุนแรงชัดเจน
แต่นายกฯกลับเปลี่ยนคำใหม่ เหมือนจะให้ดูนุ่มนวลและงง ๆ
พื้นที่มีการควบคุมสูงสุด-ควบคุม-เฝ้าระวังสูง-เฝ้าระวัง
สังเกตไหมครับว่าพอใช้คำแบบนี้
ทำให้สถานการณ์ “โควิด-19” กลายเป็น “โรคกระจอก” ที่เราควบคุมได้
เพียงแต่จะควบคุมเข้มแค่ไหนเท่านั้นเอง
เป็น “วิธีคิด” เหมือนกับตอนสลายม็อบเมื่อปี 2553
เปลี่ยน “โฟกัส” ด้วย “คำ”
ถ้าใช้ “สี” คนจะเห็นระดับความรุนแรงของโรค
โฟกัสที่ “โรค”
แต่ใช้คำว่า “ควบคุม” มุมจะเปลี่ยนไป
คนจะโฟกัสที่การจัดการของ “รัฐ”
ถ้าใครดูการาแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัส จะเห็นว่าทั้งนายกฯ และหมอทวีศิลป์ เรียกแต่ละพื้นที่ผิด ๆ ถูก ๆ
เพราะคงเพิ่งคิดคำได้
ผมเข้าใจเรื่องศิลปะการใช้คำ เพื่อลดความตื่นตระหนกของคน
แต่อย่าลืมว่ามันเป็น “ดาบสองคม”
เพราะถ้าใช้กลยุทธ์นี้มากไป
คนจะรู้สึกว่าไม่จริงใจ
และจะนำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นในคำแถลงด้วยซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก
ถ้าแถลงจบแล้วคนหันมามองหน้ากันว่า “จริงหรือเปล่า”
แบบนี้ต้องระวัง
ฝากเตือนไว้ด้วยความเคารพครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเตือนเป็นพิเศษ คือ การแถลงข่าวของนายกฯ ในเรื่องสำคัญแบบนี้ต้องพูดให้รู้เรื่อง
อย่านอกประเด็น
และอย่า “นะจ๊ะ” มากเกินไป
“ความน่าเชื่อถือ” สำคัญมากในสถานการณ์แบบนี้ครับ