วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ ตำนานคนเคยรวย ล้างหนี้ 15 ปีหลังต้มยำกุ้ง

วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ ตำนานคนเคยรวย และอาณาจักร เบนซ์ทองหล่อ

รู้จัก วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ ตำนานคนเคยรวย การฝ่าฟันสร้างอาณาจักร เบนซ์ทองหล่อ และวลีภาพจำ “ผมอยู่ทุกวันแหละครับ”

วันที่ 8 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดข่าวเศร้าในวงการรถยนต์ขึ้น เมื่อ “วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ” นักธุรกิจผู้ปลุกปั้น “เบนซ์ทองหล่อ กรุ๊ป” ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รายใหญ่ของไทย เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งตับ ในวัย 76 ปี เมื่อวานนี้ (7 ก.ย.)

หากย้อนกลับไปดูชีวิตของ “วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ” นับว่าเป็นนักธุรกิจคนหนึ่งที่มีเลือดนักสู้ และฝ่าฟันวิกฤตต้มยำกุ้ง หนึ่งในวิกฤตเศรษฐกิจที่หนักที่สุดของไทย กระทั่งกลับมายืนได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง

วัยเด็กของวสันต์ เบนซ์ทองหล่อ

วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ (ชื่อเดิม วสันต์ โพธิพิมพานนท์) เป็นลูกคนที่ 6 ของตระกูล จากทั้งหมด 8 คน จบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และปริญญาโทบริหารธุรกิจจากสหรัฐอเมริกา

ชีวิตในวัยเด็กของวสันต์ค่อนข้างลำบากพอสมควร พ่อและแม่มีอาชีพค้าขาย ต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 8 คน และเริ่มหาเงินใช้เองตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความสงสารพ่อและแม่ที่ต้องทำงานหาเงินอย่างหนักเพื่อมาเลี้ยงลูกทุกคน

สิ่งใดที่สามารถทำแล้วหาเงินได้ วสันต์ในวัยเด็กทำมาหมดแล้ว ตั้งแต่การคุ้ยขยะหาเงิน ทำว่าวขาย จนถึงขายไอศกรีม

ในช่วงมัธยมศึกษา วสันต์พยายามประหยัดค่าใช้จ่ายและใช้เงินคุ้มค่ามากที่สุด ภายใต้เงินที่ได้มาเดือนละ 150 บาท

เมื่อถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเรียนมหาวิทยาลัย วสันต์พยายามที่จะสอบเอนทรานซ์เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐให้ได้ เพื่อลดภาระด้านค่าใช้จ่ายการศึกษาให้กับครอบครัว แต่สอบไม่ติด ทำให้เขาตัดสินใจเข้าสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน และได้เข้าเรียนเพราะการ “ขอ”

เมื่อสมัยสอบเข้าปริญญาตรี วสันต์ตัดสินใจนั่งรอหน้าห้องทำงานอธิการบดี เพื่อขอเข้าพบหลังจากสอบสัมภาษณ์ไม่ผ่าน เพื่อขอโอกาสได้ศึกษาต่อที่นี่ ด้วยคำตอบที่ว่า “เพราะไม่ดีเลยอยากมาเรียน เพราะไม่รู้ถึงอยากเรียนให้ฉลาดบ้าง”

เช่นเดียวกับสมัยที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท วสันต์ขอเข้าพบคณบดีและแสดงความตั้งใจที่อยากจะไปศึกษาต่อด้าน MBA และได้รับการช่วยเหลือด้านการศึกษาเช่นเดิม

ชีวิตแห่งการเรียนไป ทำงานไป

นอกจากการพยายามหาเงินในช่วงวัยเด็กแล้ว เมื่อวสันต์เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ก็เริ่มทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองอีกครั้ง ด้วยการเป็นผู้รับจ้างขายที่ดินจัดสรร ด้วยรายได้เริ่มต้น 1,000 บาท กระทั่งสมัยเรียนปริญญาโทที่สหรัฐ

วสันต์ทำงานหาเงินด้วยการเป็นกรรมการที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน แต่ด้วยความที่งานหนักเกินไป จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาทำงานในร้านสะดวกซื้อแทน

เมื่อเรียนจบปริญญาโท วสันต์ได้รับการทาบทามจากพี่ชายของเขา ให้มาช่วยขายรถยนต์เก่าที่บ้านเกิด จ.กาญจนบุรี และเริ่มเห็นโอกาสในการขายรถ จึงเริ่มซื้อรถยนต์ใหม่มาขายต่อ และขยับขยายสู่การเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น ด้วยยอดขายเดือนละ 20 คัน กับพื้นที่ขายเพียงแค่เพิงหมาแหงนเล็ก ๆ เท่านั้น

จุดเริ่มต้นการขายรถเบนซ์

จุดเริ่มต้นของการขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ของวสันต์ เริ่มต้นจากการได้ทดลองขับรถเบนซ์ที่เพื่อนขายต่อให้ แล้วรู้สึกชื่นชอบ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากรถคันอื่น ๆ นำไปสู่การเป็นดีลเลอร์ขายรถเบนซ์ จนมาเป็น “เบนซ์ทองหล่อ” เช่นทุกวันนี้

เบนซ์ทองหล่อ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2521 มีกลยุทธ์การขายที่ชัดเจน คือมุ่งเป้าไปที่ผู้สนใจรถเบนซ์เท่านั้น และหาวิธีการดึงดูดลูกค้าผ่านโปรโมชั่น และบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือก เบนซ์ทองหล่อ มากขึ้น และเป้าหมายสำคัญด้านการขายของที่นี่ คือ ขายรถให้ได้ ต่อให้ขาดทุนแต่ขายได้ก็ขาย รวมถึงสโลแกนที่เป็นภาพจำสำคัญ คือ

“นึกถึง Mercedes Benz คิดถึงเบนซ์ทองหล่อ ผมอยู่ทุกวันแหละครับ”

ทั้งตัว วสันต์ และ เบนซ์ทองหล่อ เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วตั้งแต่การจัดโปรโมชั่น Mercedes-Benz 190E เมื่อ 2531 ด้วยการหั่นราคาค่าตัวรถจาก 1.8 ล้านบาท เหลือเพียง 1.2 ล้านบาท ดาวน์เพียง 10% ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 17,000 บาท ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และมียอดขายมากถึง 7,000 คัน

เมื่อครั้งวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” ปี 2540 เบนซ์ทองหล่อประสบปัญหาขายรถไม่ออก มีหนี้สินคงค้างมากถึง 4,000 ล้านบาท แต่วสันต์ก็ต่อสู้ด้วยการแบ่งพื้นที่โชว์รูมเพื่อขายส้มตำ จนถึงการเปิดตลาดนัดคนเคยรวย ตลาดสำหรับการขายสินค้าต่าง ๆ ทั้งของแบรนด์เนม และเครื่องใช้ราคาแพง กลายเป็นตำนานของสังคมในสมัยนั้น

วสันต์ใช้เวลายาวนานถึง 15 ปี ในการจัดการหนี้หลักพันล้าน กระทั่งสามารถกลับมายืนได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยเบนซ์ทองหล่อในปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของ “พลอยกาญจน์ โพธิพิมพานนท์” ลูกสาวของวสันต์ เบนซ์ทองหล่อ

นอกจากนี้ วสันต์ยังได้เปิด Thonglor Car Sales เพื่อดำเนินการขายรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง รถยนต์ดัดแปลง และให้บริการรถลิมูซีน รวมถึงมีเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัว ชื่อ “วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ” ซึ่งขายสินค้าหลากหลาย ทั้งรถยนต์ ของกิน และของใช้ต่าง ๆ ผสมกับการพูดคุยในเรื่องต่าง ๆ

นับเป็นการเดินทาง 76 ปี ของชีวิตผู้ชายที่ชื่อ “วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ” ที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้ การเติบโต การต่อสู้ เปี่ยมไปด้วยบทเรียนสำคัญที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตทุก ๆ วันของแต่ละคนได้