“หมวดเจี๊ยบ” เข้า ปอท.รับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม โพสต์เฟซผิด พ.ร.บ.คอมพ์-เป็นภัยความมั่นคง

แฟ้มภาพ

วันนี้ (24 ม.ค.) ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากการแสดงความคิดเห็นวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ที่ บก.ปอท. ในครั้งนี้ มีผู้แทนจากสถานทูตเยอรมนี เบลเยียม และสวิตเซอร์แลนด์ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้ ตนเองถูกดำเนินคดีจากการแสดงความเห็นแล้ว 7 โพสต์ รวม 13 กระทง โดยมีทั้งข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง ตาม ม.116 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งรวมแล้วอาจมีอัตราโทษสูงสุดถึง 77 ปี

ร.ท.หญิง สุณิสายืนยันว่า การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และถึงเวลาแล้วที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนคิดต่าง สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวจะถูกดำเนินคดี ไม่งั้นใครจะกล้าพูดเรื่องจริง ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยอมรับเองว่า จะช้าหรือเร็ว ก็ต้องมีการเลือกตั้งอยู่ดี แล้วจะมัวรีรออะไรอยู่ ทำไมไม่รีบสร้างบรรยากาศการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อให้เกิดการระดมสมองในประเด็นสาธารณะต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมประชาชนให้มีความแข็งแรงทางความคิด รัฐบาลต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตของประเทศ อย่าคิดเองเออเองฝ่ายเดียว แล้วสั่งให้ประชาชนทำตาม แบบนั้นมันไม่ใช่การปฏิรูป แต่มันเป็นวิถีของเผด็จการ และขอเตือน พล.อ.ประยุทธ์ว่า ไม่ควรมีการดำเนินคดี 8 แกนนำเครือข่าย We Walk หรือเดินสันติภาพ หากคำสั่ง คสช.เป็นอุปสรรคต่อการแสดงออกของประชาชน ก็ควรยกเลิกคำสั่ง คสช.ไปเสีย เพราะไม่สอดคล้องกับความต้องการของคนส่วนใหญ่ในประเทศอันที่จริง พล.อ.ประยุทธ์ควรเปิดใจรับฟังเสียงสะท้อนจากเครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนเหล่านั้น เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา ไม่อย่างนั้นจะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลตกต่ำลงในด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน และจะสวนทางกับที่รัฐบาลได้เคยประกาศให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ แต่กลับทำตัวตรงกันข้าม ซึ่งจะยิ่งทำลายความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและทำให้สถานการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

 

ที่มา : มติชนออนไลน์