พีระพันธุ์ไม่รับตำแหน่งนายกฯรัฐบาลเสียงข้างน้อย

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

พีระพันธุ์ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มาจากรัฐบาลเสียงข้างน้อย ธนกรหนุนวันมูหะมัดนอร์ มะทา นั่งเก้าอี้ประธานสภา

วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกจาก ส.ส.ว่า ตามกฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องไปลาออกต่อสภาผู้แทนราษฎร การรายงานตัวของ ส.ส.เป็นขั้นตอนของสภา ความจริงจะรายงานตัวเมื่อไรก็ได้ แต่ตนไม่ได้รายงานตัว เพราะจะทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวถามว่า การไม่ได้เป็น ส.ส.จะทำให้การบริหารงานในพรรคมีปัญหาหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ก่อนหน้านี้พรรคไม่มี ส.ส.ตนก็บริหารงานในพรรคได้ โชคดีที่พรรคมีส.ส.ที่มีประสบการณ์สูงหลายคน งานในสภาจึงไม่ห่วง วันประชุมสภาตนก็จะไปสภาด้วย แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม จะอยู่ด้านนอกห้องประชุมเพื่อดูแลการทำงานของ ส.ส.ในสภาอีกต่อหนึ่ง

เมื่อถามถึงการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติเป็นประธานสภา นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่ทราบเป็นเรื่องที่เขาเจรจาตกลงกัน ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติยังไม่ได้หารือกัน ต้องรอให้ชัดเจนก่อน ตอนนี้ไม่ขอออกความเห็น

เมื่อถามว่า จะมีการเสนอชื่อนายพีระพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ลำดับ 2 เป็นนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่มี คิดกันมากไปเอง เป็นไปไม่ได้ และพรรคก็ไม่มีนโยบายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย

Advertisment

เมื่อถามว่า วางแนวทางในการโหวตเลือกนายกฯไว้อย่างไรบ้าง นายพีระพันธุ์กล่าวว่า โหวตตามนโยบายและอุดมการณ์พรรค เรามีแนวทางอยู่แล้ว ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ รวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการเลือกประธานสภาว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องรอมติพรรค ในส่วนของผู้ที่พรรคก้าวไกลเสนอชื่อมา ก็สามารถตอบได้ชัดเจนว่า พรรคจะไม่โหวตอย่างแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนพรรคอื่น ๆ ก็จะต้องดูและคุยกันในพรรค

“เช่นกรณีที่วันนี้มีทางเลือกใหม่ว่า จะมีการเสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ต้องมีการคุยกันในพรรคว่า คิดเห็นอย่างไร เพราะจริง ๆ แล้วทุกคนอยากให้สภาเดินหน้าต่อไป สมกับที่ประชาชนรอคอย พรรครวมไทยสร้างชาติอยากจะให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว” นายธนกรกล่าว

นายธนกรกล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่านายวันมูหะมัดนอร์ เป็นผู้อาวุโสและมีความรู้ความสามารถ ที่ผ่านมานายวันมูหะมัดนอร์ก็ทำหน้าที่ได้ดี ตนมองว่าเหมาะกับตำแหน่งประธานสภา ส่วนกรณีคนของพรรคก้าวไกล ถึงแม้จะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แต่คิดว่าจะต้องสะสมประสบการณ์มากกว่านี้

Advertisment

“การเป็นประธานสภา จะต้องเป็นกลาง มีวุฒิภาวะ และสามารถควบคุม ส.ส.ในสภาได้ ไม่ใช่ว่า ส.ส.ทุกคนจะทำได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีบารมีพอสมควร จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมาสภาจะเรียบร้อยหรือไม่ก็อยู่ที่ประธานสภาด้วย” นายธนกรกล่าว

นายธนกรกล่าวว่า ในส่วนของพรรคก็ต้องอยู่ที่มติพรรคว่า จะตัดสินใจโหวตหรือไม่อย่างไร และคิดว่า วันนี้สามารถพูดคุยกันได้จบ ส.ส.ของพรรคเองเป็น ส.ส.ที่เรียบร้อย และพร้อมตั้งใจทำงานในสภา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรืออะไรก็ตาม พร้อมที่จะทำงานในทุกหน้าที่อยู่แล้ว