ไทยเตรียมส่งออกชิ้นส่วนเป็ดไปจีน คาดมูลค่าปีแรก 1 พันล้าน

ชัย วัชรงค์

ครม.ไฟเขียวแก้ไขพิธีสารฯ ระหว่างกระทรวงเกษตรกับจีน ส่งออกเนื้อ-ชิ้นส่วนเป็ดไปจีน คาดปีแรก มูลค่าส่งออกไม่ต่ำกว่า 1 พันล้าน

วันที่ 10 ตุลาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ การลงนามความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารฯ ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้ขอขยายขอบข่ายพิธีสารฯ โดยเพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนจากสัตว์ปีกเพื่อการบริโภค รวมถึงอวัยวะภายในที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน จำนวน 18 รายการ เพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้เป็ดแช่แข็งเพื่อการบริโภค

ได้แก่ 1.ตีนเป็ด 2.ข้อปีกเป็ด 3.ปีกกลางเป็ด 4.ปลายปีกเป็ด 5.ปีกบนเป็ด 6.ตับเป็ด 7.คอเป็ด 8.กึ๋นเป็ด 9.หัวใจเป็ด 10.ไตเป็ด 11.ลิ้นเป็ด 12.หัวเป็ด 13.ปากเป็ด 14.กระดูกเป็ด 15.กระดูกอ่อนเป็ด 16.เอ็นเป็ด 17.ไขมันเป็ด และ 18.หนังเป็ด ซึ่งสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเห็นชอบต่อการขอเพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะได้จัดทำความตกลงฯ เพื่อแก้ไขพิธีสารฯ ฉบับปี 2561 โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดภาคผนวก 2 ของพิธีสารฯ ขึ้นมาใหม่เพื่อใช้แทนภาคผนวก 2 เดิม แต่ยังคงรายการผลิตภัณฑ์ไก่แช่แข็งไว้เช่นเดิม

การจัดทำความตกลงฯ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยทำให้สามารถส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการขยายตลาด และสร้างโอกาสการลงทุนทางการค้าจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ของไทยขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ชี้แจงว่า ถ้าสามารถเปิดตลาดเป็ดในประเทศจีนได้ คาดว่าปีแรก จะมีมูลค่าส่งออกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ครม.จึงแก้ไขพิธีสารเดิม โดยให้เพิ่มรายการสินค้าเป็ดและชิ้นส่วนเป็ด

“ในปี’65 ไทยส่งออกไก่และชิ้นส่วนไก่ เป็นมูลค่า 13,000 ล้านบาท แต่ 8 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกไปแล้ว 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าจีนต้องการมาก เช่นเดียวกับตีนไก่ ที่ขณะนี้ขาดตลาด เพราะพ่อค้าจีนมากว้านซื้อ ดังนั้น จึงเชื่อว่าเป็ดจะเป็นสินค้าที่ทดแทนได้” นายชัยกล่าว

นายชัยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ครม.มีมติเห็นชอบต่อร่างพิธีสารว่าด้วยความปลอดภัยอาหารด้านการสัตวแพทย์ และการปกป้องพืช เพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์จากผึ้งจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน (ร่างพิธีสารฯ) รวมทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในพิธีสารฯ

ทั้งนี้ หากมีการปรับแก้ไขถ้อยคำในร่างพิธีสารฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญขอให้มอบหมายให้ผู้ลงนามเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามดังกล่าวตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ

นายชัยกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ (กปศ.) ได้รับแจ้งจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง (สปษ.ปักกิ่ง) ว่า สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ได้จัดทำร่างพิธีสารฯ

โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบ การกักกันความปลอดภัยอาหาร และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์จากผึ้งจากฝ่ายไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน (ฝ่ายจีน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์จากผึ้ง (น้ำผึ้ง นมผึ้ง และเกสรผึ้ง) ที่ส่งออกจากฝ่ายไทยไปยังฝ่ายจีน ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามพิธีสารดังกล่าวในเดือนตุลาคม 2566