“ศรีสุวรรณ” จี้ กสม.ปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองสิทธิกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง

แฟ้มภาพ

วันที่ 24 พฤษภาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. ให้ความสนใจปฏิบัติหน้าที่กรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งถูกลิดรอนสิทธิ หลังจากออกมาจัดกิจกรรมเมื่อวันที่ 21-22 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อสะท้อนถึงอำนาจรัฐให้ตระหนักถึงสิทธิ เสรีภาพและการมีส่วนร่วมตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ 2560 แต่ถูกปิดกั้น ขัดขวาง และเข้าจับกุมแกนนำไปคุมขังที่ สน.ชนะสงคราม และสน.พญาไท รวม 15 คน พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหาจนเกินเหตุหลายข้อกล่าวหา เช่น ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มาตรา 215 มาตรา 216 ขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 มาตรา.108 แห่ง พรบ.จราจรทางบก 2522 รวมทั้งใช้สิทธิในการกักขัง หน่วงเหนี่ยวเพื่อดำเนินการสอบสวนเป็นระยะเวลายาวนานยามวิกาล ผิดปกติวิสัยในการสอบสวน และไม่ยอมให้ประกันตัวออกมาสู้คดีตาม ม.29 ของรัฐธรรมนูญ 2560

“พฤติการณ์และการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยร่วมเป็นภาคีสนธิสัญญาในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ กสม.จะต้องเร่งรีบออกมาส่งสัญญาณหรือแถลงการณ์ และต้องดำเนินการตรวจสอบ พร้อมรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกกรณีโดยไม่ล่าช้า พร้อมเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมต่อผู้ถืออำนาจรัฐในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้ง การเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 247(1)(3) ของรัฐธรรมนูญ 2560“

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การที่คณะกรรมการ กสม.ไม่ได้กระทำการใดๆโดยเปิดเผยเพื่อสะท้อนให้สังคมได้เห็นว่ายังคงมีองค์กรนี้อยู่นั้น เป็นเรื่องที่น่าละอายอย่างยิ่งต่อสังคมไทย และต่อนานาอารยะประเทศที่ให้ความสำคัญและมุ่งหมายในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนในชาติตนเองที่ถูกละเมิดหรือลิดรอนสิทธิ เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า กสม.มีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ถูกครอบงำโดยผู้ถืออำนาจรัฐในยุคนี้จริงหรือไม่ด้วย เพื่อรักษาภาพลักษณ์และธำรงไว้ซึ่งบทบาทของ กสม.ต่อสังคมไทยและประชาคมโลก สมาคมขอเรียกร้องให้ กสม.รีบตื่นขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่กรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งถูกลิดรอนสิทธิในครั้งนี้เป็นการด่วน หรือเพียงแค่โผล่ไปเยี่ยมเยือนผู้ถูกคุมขังบ้างก็ถือว่ามีอานิสงส์แล้ว และเป็นการยืนยันว่ายังมีองค์กรหรือหน่วยงานนี้อยู่ในประเทศไทย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์