การเมือง

‘ไพบูลย์’ลั่นหนุน’บิ๊กตู่’นั่งนายกฯต่อ นำปท.สู่สังคมปชต.ที่เจริญแล้ว

เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่พลาซ่า The Coast บางนา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป(ปชช.) ในฐานะประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป กล่าวภายหลังการประชุมสมาชิกเครือข่ายฯ เพื่อประชุมจัดตั้ง “สภาประชาชนปฏิรูปจังหวัดพิษณุโลก” และ “สภาประชาชนปฏิรูปจังหวัดอุตรดิตถ์” ว่า การประชุมดังกล่าว เพื่อต้องการเปลี่ยนให้การเมืองของประเทศเป็นประชาธิปไตยทางตรง ที่เพิ่มอำนาจบทบาทของประชาชนอย่างแท้จริง ในการตรวจสอบการเมืองเจ้าหน้าที่รัฐโดยผ่านอย่างกฎหมายให้สังคมเกิดความเป็นธรรม ทำให้ประชาชนเกิดความเข้มแข็ง มีจิตสาธารณะ เสียสละช่วยเหลือประชาชนด้วยกัน ปรับบทบาทพลเมืองทุกจังหวัดเดินหน้าแนวทางปฎิรูปได้ผลทั่วประเทศ โดยจะไม่กลับสู่ระบบประชาธิปไตยที่ผ่านมาล้มเหลว เพราะประชาชนมีสิทธิแค่หย่อนบัตรเลือกตั้งเท่านั้นทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซี่งต่อไปจะเดินหน้าจัดตั้งสภาประชาชนปฎิรูปให้ครบ77 จังหวัดภายในปีนี้ เพื่อเป็นโครงสร้างหลักของพรรคประชาชนปฎิรูป

“ยืนยันว่าทางพรรคไม่สนับสนุนคนนอกรัฐธรรมนูญเป็นนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงบุคคลที่อยู่ต่างประเทศที่ถือเป็นคนนอกรัฐธรรมนูญ และไม่สนับสนุนให้คนนอกรัฐธรรมนูญที่อยู่ต่างประเทศนำนอมินีเข้ามารับตำแหน่งทางการเมือง โดยมองว่าผู้ที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทางพรรคพร้อมสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี” นายไพบูลย์ กล่าว

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับท่าทีทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นอย่างไรนั้น มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงประกาศถึงความห่วงใยของพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีต่อบ้านเมือง ส่วนความชัดเจนในเรื่องทางการเมือง ไม่จำเป็นเพราะหน้าที่รัฐบาลนี้ปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารประเทศไปตามแบบที่ควรจะเป็น ส่วนบทบาทของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะมาเป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งนั้น เชื่อว่าสามารถเป็นนายกฯได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทั้งการเป็นนายกฯคนนอก และผ่านการเสนอชื่อจากพรรคการเมือง หรือได้รับการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตามในส่วนของวันเลือกตั้งนั้น ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นวันที่ 24 ก.พ.62 หากพรรคการเมืองยอมรับว่าการหาเสียงเพียง 60 วันนั้นเพียงพอ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่มากกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา และเชื่อว่า คสช. ก็ไม่ได้อยากให้วันเลือกตั้งเลื่อนออกไป แต่หากพรรคการเมืองมีเวลาหาเสียงเพิ่มขึ้น วันเลือกตั้งอาจเลื่อนไปตามมติที่พรรคการเมืองขอก็เป็นได้ ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคประชาชนปฏิรูปพร้อมเลือกตั้งตลอดเวลา ซึ่งพรรคประชาชนปฏิรูปนั้นใช้เวลาหาเสียง 15 วันก็เพียงพอ เพราะมีผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันที่ต้องการนำให้ประเทศไปสู่ประชาธิปไตยร่วมกันอยู่แล้ว

“บ้านเมืองหลังการเลือกตั้งเชื่อมั่นว่าได้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศจะก้าวหน้า เป็นสังคมนิติรัฐ อยู่ด้วยกฎหมาย เป็นสังคมประชาธิปไตยเช่นประเทศเจริญแล้ว การที่มีบางพรรคบอกว่าจะฉีกรัฐธรรมนูญนั้นถือว่าไม่ใช่การอยู่ด้วยกฎหมาย สังคมไทยต้องการสังคมที่สงบแต่ต้องมีการเลือกตั้ง ซึ่งมั่นใจว่าหลังเลือกตั้งประเทศจะสงบสุขอยู่ภายใต้กฎหมายและเศรษฐกิจดีขึ้น ไม่มีใครอยากกลับให้ประเทศไปสู่ความวุ่นวายช่วงปี 2551-2557 และรัฐธรรมนูญปัจจุบันเอาผิดทั้งนักการเมือง ผู้หนุนหลังให้เกิดการชุมนุมทุกกลุ่ม โดนจำคุก10ปี ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต ซี่งรัฐบาลหน้าจะไม่มีอิทธิพลคนนอกประเทศมาวุ่นวายอย่างแน่นอน การตั้งเครือข่ายนอกประเทศส่งนอมินีมาเป็นแทนภายใต้รัฐธรรมนูญนี้ไม่ทางเกิดขึ้นได้”นายไพบูลย์ กล่าว

 

ที่มา  มติชนออนไลน์