เปิดตัวทีมเพื่อไทย “สุดารัตน์” ลั่นพร้อมกอบกู้เอาบ้านเมืองที่ศก.ดี-สงบสุขแบบมีคุณภาพคืนมา

“หญิงหน่อย” โชว์แนวคิด “เพื่อไทย” เพิ่ม 5 พลัง 3 ความแข็งแกร่ง ด้าน “ชัชชาติ” ย้ำจะแก้ปัญหาศก.ได้ ต้องทำ 6 ยุทธศาสตร์ ลั่น หมดเวลาของรถถังแล้วได้เวลาของผู้บริหารมืออาชีพ

วันนี้ (28 มกราคม) เวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการจัดสัมมนาพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ส.ส. โดยมีแกนนำพรรค กรรมการบริหารพรรค ตลอดถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศร่วมประชุมกันพร้อมเพรียง

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคพท. ขึ้นกล่าวทิศทาง และยุทธศาสตร์ของพรรคพท. ว่ากว่า 2 เดือนที่มีโอกาสลงพื้นที่ พบว่าประชาชนต่างสะท้อนปัญหาเหมือนกัน คือ เศรษฐกิจแย่ และหนี้สินเพิ่มขึ้น 4 ปีที่พี่น้องประชาชนต้องทนกับความทุกข์อย่างมาก 28 ปี ที่ตนทำการเมืองมา ไม่มีครั้งไหนที่ประชาชนรู้สึกว่าขาดที่พึ่งขนาดนี้ พวกเขารอคอยที่จะให้พวกเราไปช่วยเขาออกจากความทุกข์ ดังนั้นวันที่ 24 มีนาคมนี้ นอกจากจะเป็นวันสำคัญของพวกเราแล้ว ยังเป็นวันที่ประชาชนได้ก้าวออกจากทุกข์ครั้งนี้ ขอเรียนพี่น้องขาวพท. ตลอดเวลาที่บอกประชาชนเศรษฐกิจไม่ดี ปีนี้เศรษฐกิจจะไม่ดียิ่งกว่าเดิม ดังนั้น เราต้องแข็งแรงไปสู้งานหนักให้ประชาชน วันนี้พรรคการเมืองเกิดขึ้นหลายพรรค แต่สุดท้ายคือ 2 ขั้วเท่านั้น คือขั้วที่ตั้งขึ้นสืบทอดอำนาจเผด็จการ และขั้วตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาธิปไตย วันนี้เราไม่ได้อยู่สงครามโลกที่ใช้รถถังไปสู้กัน แต่เราอยู่สงครามการค้าเราจึงต้องออกไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ปีนี้เศรษฐกิจจะแย่มาก ธนาคารโลกยืนยันเศรษฐกิจโลกอยู่ในข่วงขาลง ถ้าเราได้ผู้เป็นรัฐบาลไม่เชี่ยวชาญเศรษฐกิจคนไทยจะทุกข์มากขึ้น อยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกรัฐบาลที่เชี่ยวชาญด้านการทหาร หรือรัฐบาลเชี่ยวชาญการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคพท.ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย (ทรท.) ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เคยทำสำเร็จมาทุกครั้ง ทุกครั้งเราทำเศรษฐกิจดีขึ้นทุกครั้งมีความสุข และกระเป๋าที่ตุงทุกครั้ง

ทั้งนี้ แม้วันนี้เราจะประสบกับปัญหาหนัก แต่เชื่อว่าทีมพท. เราจะใช้เวลาไม่นาน เพราะไม่ยากสำหรับพรรคพท. เราจะเร่งสร้างรายได้ให้ประชาชนกลับมากระเป๋าตุง โดยเราเพิ่มพลังให้คนไทย 5 ด้าน 1.เพิ่มพลังเกษตรกรไทย ด้วยการขายราคาสินค้าเกษตรกรราคาดี ถึงเวลาเกษตรกรจะกำหนดราคาพืชผลด้วยตัวเอง 2.พลังเอสเอ็มอี ที่พรรคได้เริ่มขึ้น แต่วันนี้พลังเอสเอ็มอีกำลังหมดแรงเหมือนพลังเกษตรกร เราจะเพิ่มพลังเอสเอ็มอีให้มีความพร้อมบุกตลาดโลกด้วยเทคโนโลยี 3.เพิ่มพลังการส่งออกด้วยความเชี่ยวชาญเวทีโลก เราเป็นหนึ่งไม่รองใครความสามารถการเจรจาเอฟทีเอเริ่มต้นในยุคคนทำงานพรรคพท. 4.พลังรายได้จากการท่องเที่ยว เราต้องดึงเงินทั่วโลกกระจายรายได้ทุกจังหวัด โดยไม่ต้องรอโครงสร้างพื้นฐาน การเข้ามาจะกระจายสู่ชุมชนทุกจังหวัด ให้เรือล่มเพียงลำเดียวนักท่องเที่ยวหายหมดทั้งประเทศ โดยเหตุการณ์สึนามิเราทำให้ประชาชนเชื่อมั่นมาแล้ว เราจะสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา แและ 5.เพิ่มพลังคนรุ่นใหม่ สร้างเถ้าแก่ใหม่ทั่วประเทศ ซึ่ง 5 พลังจะขับเคลื่อนกำลังซื้อประเทศ ตนเคยบอกว่าเศรษฐกิจไทยต้องเพิ่มกำลังซื้อ โดยให้กับคนตัวเล็กทุกคนให้ได้ และต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้ประเทศไทย 4-5 ปีเกิดการถดถอย เราจะไม่ปล่อยให้ประเทศไทยล้าหลัง ล้มเหลว ถดถอย และสิ้นหวังต่อไป

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เราจะทำ 3 ด้านความแข็งแกร่ง 1.การพัฒนาคนต้องเป็นวาระแห่งชาติเป็นพลเมืองโลก เด็กไทยต้องเป็นพลังขับเคลื่อนให้ได้ 2.พัฒนาสุขภาพดีถ้วนหน้า วันนี้เรากำลังเข้าสู่เฟสสองการทำโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อให้คนไทยเป็นกำลังผลิตของประเทศ และ 3.พัฒนาสร้างโครงข่ายคมนาคมและระบบน้ำ เราได้รัฐมนตรีแข็งแกร่งมาทำเรื่องนี้คือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคพท.

“พรรคพท.จะนำพาประเทศไทยสู่ความสวบสุข ไม่ใช่ความสงบสุขแบบ 4-5 ปีที่ไม่มีเสรีภาพ ความสงบสุขไร้คุณภาพกระเป๋าแฟบ แต่พท.จะสร้างความสงบสุขบนเศรษฐกิจที่ดี มีบางพรรคการเมืองหรือผู้มีอำนาจบอกปล่อยเลือกตั้งเลือกพรรคการเมืองเดี๋ยวบ้านเมืองไม่สงบ ความไม่สงบที่เต็มด้วยความทุกข์กระเป๋าแฟบเป็นทุกข์ พท.จะสร้างความสุขให้อนาคตประเทศ ทั้งนี้ ชัยชนะของพรรคพท.จะเกิดขึ้นได้ด้วยขุนพลของเราที่ช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อเป็นที่พึ่งที่หวัง เชื่อว่าทุกท่านจะทำให้เกิดความสำเร็จ นำชัยชนะมาสู่ประชาชน ขอให้อดีตส.ส.มีกำลังขวัญกำลังใจ และส.ส.ใหม่ขอให้ร่วมกันสู้ ชัยชนะจะไม่ไกลเกินเอื้อม วันที่ 24 มีนาคม คือวันแห่งชัยชนะของประชาชน หมดเวลาแล้วสำหรับรถถัง ได้เวลาแล้วของผู้บริหารมืออาชีพ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า

จากนั้นมีการเปิดตัวขุนพลเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยนำ โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า เราต้องทำ 6 ยุทธศาสตร์ 1.ไทยทำ คือต้องสร้างแบรนด์ไทยแลนด์ให้เข้มแข็ง สร้างแบรนด์เมดอินไทยแลนด์ 2.ไทยทันสมัยวันนี้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีมาก แต่ต้องลดขั้นตอนติดขัดของระบบราชการ 3.ไทยเท่าเทียม ต้องกระจายอำนาจท้องถิ่นโดยเฉพาะการศึกษา การสาธารณสุขต้องมี จะทำให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี 4.ไทยเชื่อมไทย พัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงทั่วประเทศ 5.ไทยเชื่อมโลก ต้องเชื่อมความสัมพันธ์ การเจรจาการค้าที่ประเทศหยุดหายไป ต้องเจรจาทั่วโลก กระทรวงการต่างประเทศต้องเก่งเจรจาการค้า เอาคนเก่งคนไทยกลับมาที่ประเทศไทย สร้างงานที่มีคุณภาพสูงให้คนไทย และ 6.ไทยยั่งยืน ให้เกิดความโปร่งใสในระบบราชการบริหารประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตรักษาสิ่งแวดล้อม จัดการมลพิษ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์