ปิดฉาก 5 ปี “ประยุทธ์” หัวหน้า คสช. เปิดช่องรื้อกฎหมายที่ไม่พึงปรารถนา

วันนี้ 15 ก.ค. 62 เวลา 18.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แถลงสารจากนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโอกาสสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 16 กรกฎาคม ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ดังนี้

ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ผมตำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2562 นั้น และได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่10 กรกฎาคม 2562  นับเป็นพระกรุณามหาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ 

บัดนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะรัฐมนตรี คณะใหม่ ซึ่งจะเป็นคณะแรกหลักจากการเลือกตั้งทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้เข้าเฝ้าละอองธุรีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณ ตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในวันพรุ่งนี้ คือวันที่16 กรกฎาคม 2562

แม้จะเป็นการเริ่ม ปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว แต่ก็ยังจะไม่สามารถบริหาร ราชการแผ่นดิน หรือดำเนินการในเรื่องต่างๆ ตามหน้าที่และอำนาจได้อย่างเต็มที่ จนกว่าจะได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ซึ่งคาดทุกขั้นตอน จะสำเร็จเรียบร้อยลงได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

ดังนั้น การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ราคาสินค้า ราคาผลผลิตทางการเกษตร การแก้ปัญหาสังคม ความเป็นอยู่ สวัสดิการ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การแก้ปัญหาการปกครอง การรักษาความปลอดภัย ชีวิตและทรัย์สิน การออกกฏหมาย และการเร่งรัดเรื่องงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2563

ซึ่งพี่น้องในประเทศ ทุกกลุ่มรายได้ ทุกพื้นที่ ต่างรอคอย จะได้รับการสานตัวและเร่งดำเนินการ ภายได้รัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของรัฐธรรมนูญ ที่จะแถลงต่อรัฐสภา

พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า พี่น้องประชาชนทั้งหลาย ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนุญ เมื่อคณะรัฐมนตรี คณะใหม่ ได้เข้าเฝ้าถวาย สัตย์ปฏิญาณ และรับหน้าที่แล้ว คณะรัฐมนตรีที่รับราชการแผ่นดินอยู่ก่อนหน้านั้น และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จากสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ลง

ดังนั้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีคณะเดิม จะสิ้นสุดภารกิจและการปฏิบัติหน้าที่ลงในวันพรุ่งนี้

“ผมในฐานะหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรี คณะเดิม จึงขอโอกาสนี้อำลาพี่น้องประชาชนทั้งหลาย และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่คสช. ข้าราชการการเมือง ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายรวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ สมาชิกสภาชิกสภาการขับเคลื่อนปฏิรูป และคณะกรรมาธิการ ร่างรัฐธรรมนูญ  ซึ่งได้ยุติหน้าที่ไปก่อนหน้านี้

และขอบคุณพี่น้องภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ที่ให้ความร่วมมือกับคสช.และรัฐบาลด้วยดี ตลอดมาหลายเรื่องท่านได้มีการดำเนินการไปเอง กฏหมายตามหน้าที่ หรือด้วยจิตอาสา ด้วยความเรียยบร้อยหลายเรื่องได้ดำเนินเคียงภาครัฐ ในรูปแบบของการร่วมทุน หรือรูปแบบประชารัฐ

ดังนั้น ความสงบสุขและการพัฒนาประเทศ การแก้ปัญหาต่างๆ จึงสามารถเป็นไปได้ด้วยดี คสช.และรัฐบาลตระหนักดีว่า ความสำเร็จในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสงบความเรียบร้อยของบ้านเมือง การเพิ่มขีดความสารถของประเทศ เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของประชาชน ทุกอาชีพรายได้ การเรียกความเชื่อมั่นในการปฏิบัติตามในพันธสัญญาและการลงทุนจากต่างประเทศ ให้กลับคืนมา รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเดิม ๆ ที่ค้างคาหักโหมมานานปี  การแก้ปัญหาทุจริต ประพฤติมิชอบ การพิจารณา

การเรียกความเชื่อมั่นในการปฏิบัติตามพันธสัญญาและการลงทุนจากต่างประเทศให้กลับคืนมา รวมทั้งการแก้ปัญหาเดิมๆ ที่ค้างคาหมักหมมมานานปี การแก้ปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ การพิจารณาคดีต่าง ๆ ที่ค้างคาในกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องเป็นธรรม การออกกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาเก่าและเดินหน้าไปสู่การพัฒนาใหม่อย่างยั่งยืน การดำเนินการเพื่อการปฏิรูปประเทศและการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ ล้วนเป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนัก ความเสียสละ ความอดทน และความร่วมมือร่วมใจของท่านทั้งหลายโดยแท้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแม้ในยามวิกฤติที่บ้านเมืองมีความรุนแรง ความขัดแย้งและความเห็นต่าง การบริหารราชการ รวมถึงการบริหารจัดการด้านงบประมาณมีปัญหาอุปสรรคด้วยข้อกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับ

จนครั้งหนึ่งเมื่อ 6 – 7 ปีที่ผ่านมาต่างชาติเคยมองว่าเราแทบจะเป็นประเทศที่ล้มเหลวอยู่แล้ว แต่เมื่อเราตั้งใจแน่วแน่ว่าจะฟื้นฟูชื่อเสียงเกียรติคุณ ความสงบเรียบร้อยและสิ่งดีงามของประเทศให้กลับคืนมาให้จงได้ เราก็สามารถดำเนินการได้อย่างดี

เช่น เรียกเอาความเป็นเมืองน่าอยู่ น่าลงทุน น่าท่องเที่ยวกลับมา การจัดลำดับความยากง่ายในการทำธุรกิจเริ่มดีขึ้น การกำหนดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส การกำหนดขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ การแก้ปัญหาการบินพลเรือน การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว การประมงผิดกฎหมาย ล้วนได้ผลดีขึ้นเป็นลำดับจนเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ

แม้แต่การแสดงออกซึ่งเมตตาธรรม มนุษยธรรม ความรอบรู้รอบคอบ และความรู้รักสามัคคีในการช่วยเหลือทีมเยาวชนหมูป่าออกมาจากถ้ำหลวง เชียงรายเมื่อปีที่แล้วและอื่น ๆ อีก นับเป็นการแสดงออกที่ประทับใจผู้คนไปทั่วโลก ล่าสุดคือการที่ไทยได้ทำหน้าที่ประธานการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 34 เมื่อปลายเดือนที่แล้วซึ่งต่างชาติชื่นชมว่าเราสามารถจัดได้เรียบร้อยน่าประทับใจและบรรลุตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า มาถึงบัดนี้ ผมใคร่ขอให้พี่น้องประชาชนได้นึกทบทวนว่า บ้านเมืองของท่านในวันนี้มีอะไรดีขึ้นบ้าง เปลี่ยนแปลงบ้าง หากมีส่วนที่ดีขึ้นกรุณาภาคภูมิใจเถิดว่านั่นคือผลจากความตั้งใจและความร่วมมือของเราทุกคนภายใต้พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งรัชกาลที่ 9 และรัชกาลปัจจุบัน สิ่งใดที่ยังไม่สำเร็จก็ต้องดำเนินการในรัฐบาลต่อไป ด้วยความรักความสามัคคีของคนในชาติ

ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เราได้แสดงออกถึงพลังแห่งความสามัคคีและการมีวัฒนธรรมอันวิจิตรอลังการให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลกเมื่อประเทศไทยประสบกับความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ คือการเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 แม้พี่น้องประชาชนทั้งหลายจะอยู่ในความวิปโยคอาลัยก็ได้ร่วมใจในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับรัฐบาลในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างน่าประทับใจด้วยความจงรักภักดี

เมื่อเร็วๆ นี้เรายังได้ร่วมใจกันทั้งชาติอีกครั้งด้วยการร่วมกิจกรรมยิ่งใหญ่กับรัฐบาลในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติยศและสง่างาม เหตุการณ์สำคัญทั้งสองที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 5 ปีนี้จะจารึกอยู่ในความทรงจำของเราทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศตลอดไป

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า บัดนี้ ประเทศไทยได้เข้าสู่ขั้นตอนของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ มีสภาผู้แทนราษฎรซึ่งสมาชิกมาจากการเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มาจากความเห็นชอบของรัฐสภา สิทธิเสรีภาพต่าง ๆ ได้รับหลักประกันคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญตามแบบอย่างนานาอารยประเทศ ปัญหาทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขตามกฎเกณฑ์ปกติในระบอบประชาธิปไตยโดยไม่มีอำนาจพิเศษใด ๆ อีกต่อไป

แม้การปกครองเช่นนี้อาจล่าช้าไม่ทันต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนบางกลุ่มบ้าง อาจติดขัดที่ขั้นตอนข้อจำกัดทางกฎหมาย การเมือง และงบประมาณบ้าง ต้องรับฟังความคิดเห็นโต้แย้งที่แตกต่างกันบ้าง แต่ก็เป็นไปตามครรลองของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยซึ่งทุกคนทุกฝ่ายต้องเรียนรู้เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ อดทน อดกลั้น ไม่ขัดแย้งรุนแรง มีเหตุผล มีวินัย เคารพเสียงข้างมาก ยึดมั่นในธรรมาภิบาลและหลักนิติธรรมโดยคำนึงถึงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีและวิถีชีวิตของไทย

ผมได้เคยกราบเรียนพี่น้องทั้งหลายแล้ว ว่าการปกครองของประเทศเราจะอยู่ได้ก็ด้วยสามเสาหลักทำงานประสานกัน คือ ภาคการเมือง ภาคข้าราชการ และภาคประชาชน ซึ่งต้องร่วมมือร่วมใจกัน สิ่งที่ คสช. รัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ดำเนินการสอดประสานกันในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมานั้นหลายเรื่องน่าจะเป็นรากฐานให้รัฐบาลใหม่ ซึ่งจะเป็นรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเป็นรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ของประชาชนชาวไทยทุกคน ที่ไม่มีการแบ่งแยกภาคหรือจังหวัดหรือแบ่งพื้นที่ตามฐานเสียงพรรคการเมืองใดๆ โดยจะต้องสามารถทำงานต่อไปได้อย่างมั่นคงเพื่อสร้างความมั่งคั่ง และความยั่งยืนวัฒนาสถาพร

พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า แต่หากเรื่องใด โครงการใด กฎหมายใดไม่เป็นที่พึงปรารถนาหรือไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ก็สามารถปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิกเพิกถอนได้อยู่แล้ว สิ่งใดที่เกิดขึ้นหรือหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านเข้ามา วันหนึ่งย่อมจากไปหรือผ่านพ้นไปได้เป็นธรรมดา แต่ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเรา เป็นที่เกิด ที่อยู่อาศัยของลูกหลานเราจะต้องอยู่ต่อไป

ทุกคนมีหน้าที่ต้องสนองพระบรมราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในอันที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด และปกป้องรักษาแผ่นดินไทยนี้เพื่อประโยชน์สุขแก่เราทั้งหลายร่วมกัน ด้วยความรักความสามัคคี เผื่อแผ่แบ่งปัน มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบ เคารพกฎหมาย มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนอันเป็นที่รักยิ่งตลอดไป

พลเอกประยุทธ์ กล่าวตอนท้ายว่า ขอทุกท่านได้รับความขอบพระคุณและความปรารถนาดีอย่างจริงใจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของรัฐให้ความร่วมมือกับรัฐบาลใหม่ ฝ่ายนิติบัญญัติใหม่ ในอันที่จะรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และรักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบไทยให้คงไว้ รวมทั้งสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์ จิตอาสา เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศชาติสืบไป” พลเอกประยุทธ์ กล่าว