ตีตั๋วมาบึ้ม! คืบหน้า “ประยุทธ์” สั่งจับเพิ่ม 9 ผู้ต้องสงสัย

“ประยุทธ์” เผยความคืบหน้าเหตุบึ้มกรุง จับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่ม 9 ราย ขณะที่ปมถวายสัตย์ พยายามหาทางแก้ปัญหา ย้ำคำเดิม ทำครบตามรัฐธรรมนูญ เด้งเชือกไม่ตอบแก้ รธน.เพราะเรื่องปากท้องชาวบ้านสำคัญกว่า ส่วนปม “เอ๋-ปารีณา” อาจไม่ได้เขียนเอง แนะประชาชนระวัง fake news

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดใน กทม.ว่า มีความคืบหน้าไปมาก แต่อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้มากขึ้นถึง 9 คน กำลังสืบหาต่อไปเพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ ด้วยวิธีการของกระบวนการยุติธรรมทั้งพยานวัตถุและตัวบุคคล ทั้งนี้ ต้องทำให้รอบคอบ และทำให้ดีที่สุด ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ประชาชนที่ร่วมกันเป็นหูเป็นตา จะรักษาความปลอดภัยเริ่มต้นจากตัวเอง ชุมชน ประชาชนทั่วไปช่วยทางรัฐได้มากขึ้น

@ พยายามแก้ปมถวายสัตย์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงปัญหาการถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า พยายามแก้ปัญหาอยู่ แต่ยืนยันว่าตนทำครบถ้วน ต้องว่ากันต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า จะหาทางแก้ไขอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “กำลังหาทาง ไม่รู้จักคำว่าหาทางเหรอ” เมื่อถามว่า จะตอบกระทู้ฝ่ายค้านในสภาด้วยตนเองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เขาให้ชี้แจงพรุ่งนี้แต่ชี้แจงไม่ได้ ผมไป จ.ยะลา เดี๋ยวรอไปก่อน เรื่องบางเรื่องต้องฟังเหตุผลกันบ้าง ถ้าเอาทุกอย่างมาผูกกันหมด แก้ไม่ได้ ไว้ใจผมเถอะ ผมทำได้ ผมต้องทำให้ได้”

@ มีเรื่องด่วนกว่าแก้ รธน.

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องศึกษาประเด็นที่จะแก้ไข ได้กำหนดในนโยบายแล้ว จะดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ต้องดูการแก้รัฐธรรมนูญเพื่ออะไร เพื่อใคร ประชาชนได้ประโยชน์หรือไม่ ต้องดูประเด็นสำคัญก่อน ส่วนประเด็นอื่นต้องหารือกันต่อไป เพราะวันนี้มีปัญหาเร่งด่วนอื่นมากกว่าเรื่องนี้ คือการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ปัญหาเศรษฐกิจที่นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้น จากเหตุของสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ และความมั่นคงในภูมิภาคอื่นๆ ส่งผลต่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ และต้องแก้ปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากปริมาณน้ำเก็บสะสมได้น้อยมากทั้งในเขื่อน อ่างเก็บน้ำ จึงต้องเตรียมการขุดลอกคูคลองเพิ่มเติม

@ เผย “ปารีณา” ไม่ได้เขียนเอง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ จะฟ้องนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีโพสต์เฟซบุ๊กเชื่อมโยงภาพนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กับเหตุระเบิดใน กทม.ว่า ตนสอบถามนักการเมือง ส.ส.ที่เกี่ยวข้อง บอกว่า นางสาวปารีณาจะคลี่คลายในเฟซบุ๊กต่างๆ ของเขา มีการกล่าวอ้าง กล่าวเท็จพอสมควร บางทีนางสาวปารีณาก็ไม่ได้เขียน เป็นเรื่องที่เขาต้องพิสูจน์ต่อไป ต้องช่วยกันระวัง fake news ข่าวมั่ว ข่าวเท็จทั้งหมด หลายครั้งโพสต์โดยไม่มีความจริง ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ทุกคนต้องรับผิดชอบ ถ้าเกิดผลกระทบต้องมีการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการกฎหมาย ถ้าใช้ในเชิงสร้างสรรค์ก็เป็นประโยชน์มหาศาล แต่บางอย่างก็มีโทษในการใช้โซเชียล ถ้าไม่มีข้อเท็จจริง ความเป็นจริง

“หลายเรื่องโพสต์ในตามผมก็มี ลุงตู่ ประยุทธ์เยอะไปหมด ทั้งที่ผมก็ไม่ได้ตั้งมากมายขนาดนั้น แต่เป็นเรืองคณะทำงานตั้ง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

@ ไม่ส่งคนไปทำร้าย “ปวิน”

นายกฯ กล่าวถึง กรณีที่นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการผู้ต้องคดี ม.112 ถูกทำร้ายร่างกายที่ประเทศญี่ปุ่น ว่า ตนก็เห็นใจเขานะ แต่เขาถูกทำร้ายร่างกายที่ญี่ปุ่น ถ้ากล่าวหาว่ารัฐบาลส่งคนไปทำแล้วใครจะกล้าไปทำ เพราะกฎหมายบ้านเขาก็มีอยู่ รัฐบาลคงไม่ทำอย่างนั้น และไม่ทำอยู่แล้ว แต่ละประเทศมีสัญญากันอยู่ว่า จะพยายามไม่ให้คนที่ทำร้ายประเทศของตัวเองมาอยู่ในประเทศของเขา เหมือนกับเราที่พยายามดูแลไม่ให้คนที่พยายามต่อต้านประเทศของเขามาอยู่ในไทย แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับที่พูดมาหรือเปล่า” นายกฯ กล่าว

@ ย้ำ ครม.ปฏิบัติตามกฎหมาย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ว่า มีการแต่งตั้งผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ปรึกษาบางกระทรวง จะมีการทยอยแต่งตั้งมาเรื่อยๆ แต่ขอให้ตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมาย บัญชีทรัพย์สิน เรื่องการแต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ มีอยู่ 2-3 คณะ ชี้แจงใน ครม.การปรับเปลี่ยนต้องเป็นไปตามกฎหมาย มีการปฏิรูปเรื่องรัฐวิสาหกิจ มีคณะกรรมการกลั่นกรอง 50 แห่ง บางแห่งมีผลกำไร ทำอย่างไรมากขึ้นและโปร่งใส ส่วนที่ขาดทุนมาจากรัฐสวัสดิการด้วย ต้องดูว่าทำอย่างไรให้มีผลกำไรมากขึ้น ปัญหาอยู่ที่หนี้สะสมรัฐบาลพยายามจะลดลงให้เรื่อยๆ ต้องแก้กันต่อไปโทษใครไม่ได้ จะทำอย่างไรให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

“ทุกอย่างฝากให้มีเหตุมีผลในการพิจารณา มีข้อเท็จจริงไปประกอบบ้างถ้าใช้ความรู้สึกวิพากษ์วิจารณ์อย่างเดียวก็ไม่ได้ ย้ำ ครม.ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ ได้เตือนให้ระมัดระวังทุกอย่างในการทำงาน และได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจาก ครม.ที่มาจากหลายพรรคการเมือง ตอนนี้งานต่างๆ ก็ได้มีการแบ่งมอบไปแล้วว่าใครรับผิดชอบคณะกรรมการคณะไหน ซึ่งมีเป็นร้อยๆ คณะ ทั้งตนเอง รองนายกฯและรัฐมนตรีก็แบ่งกันไป พื้นที่ส่วนราชการก็กำหนดแล้ว เรื่องกติกาการแต่งตั้งรัฐวิสาหกิจก็มีการชี้แจงไปแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

@ ไฟเขียวงบ 63 วงเงิน 3.2 ล้านล้าน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าว่า ที่ประชุม ครม.ยังได้เห็นชอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2563 โดยยังตั้งอยู่ในวงเงินเดิม 3.2 ล้านล้านบาท มีการตั้งในลักษณะการขาดดุลเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม การทำงบแต่ละปีไม่ใช่ขาดดุลทุกปีมารวมกันแล้วมาสรุปว่าเราเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่ แล้วต้องหารแบ่งกัน ใช้หนี้กี่ปี แต่เป็นการบริหารในภาพรวม แบ่งเป็นการใช้หนี้สาธารณะ ใช้หนี้ระยะสั้น ระยะยาว ชำระดอกเบี้ย ชำระเงินต้น อยู่ในกรอบงบประมาณ โดยเฉพาะมี พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ 2561 คุมไว้ทุกตัว

“ให้แนวทางแต่ละกระทรวงว่า ตั้งงบประมาณใกล้เคียงกับงบปีที่ผ่านมา แม้กำหนดเงินงบประมาณเพิ่มขึ้นได้กี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม ดังนั้น อย่าไปดูเฉพาะโครงการต้องดูเม็ดเงินรวมของแต่ละกระทรวงได้เท่าไหร่ เพิ่มขึ้น หรือ ลดลงอย่างไร มีรายละเอียดงบประมาณจำนวนมากอยู่ข้างในงบประมาณ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

@ ใช้งบให้เกิดความคุ้มค่า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นรัฐบาลใหม่ จึงจำเป็นต้องทบทวนแผนงานไว้เดิมที่เคยทำไว้ และกำลังปรับแก้กันอยู่เพื่อทำประโยชนให้ประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะงบที่ยังไม่ได้ผูกพันสัญญา หรือผูกพันสัญญามานานแล้ว แต่ได้รับการคัดค้านจากประชาชนจะทำอย่างไร กำลังคลี่คลาย รัฐบาลยืนยันเต็มที่ว่าจะใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าตามความต้องการของประชาชนที่เดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ขอให้คำนึงถึงกรอบกฎหมาย เราต้องปลอดภัยในการทำงาน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว