โฆษกเพื่อไทย ซัด รัฐลอกการบ้านเดิม เพิ่มเติมคือความจน

ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก อรุณี กาสยานนท์

“อรุณี” โฆษกพรรคเพื่อไทย วิจารณ์มาตรการเยียวยาประชาชน 3,500 บาท 2 เดือน ของรัฐบาล ชี้รัฐลอกการบ้านเดิม เพิ่มเติมคือความจน

วันที่ 12 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ระบุว่า มีการอนุมัติเงินเยียวยาประชาชน จำนวน 3,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งมีรูปแบบเยียวยาในอาชีพ คือ แรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด มติชน รายงานว่า น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ข่าวการระบาดของยาเคนมผง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 13 ราย ซึ่งยาเสพติดชนิดนี้ประกอบไปด้วยยาเสพติดหลายประเภท หาซื้อง่ายขายคล่อง สะท้อนให้เห็นว่าแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะเข้ามาบริหารประเทศเข้าสู่ปีที่ 7 มีอำนาจมากล้น แต่ยาเสพติดยังทวีความรุนแรงมากขึ้น วาระแห่งชาติในการปฏิรูปประเทศและปฏิรูปตำรวจเงียบหาย เข้าตำราหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก เหมือนรัฐไทยไร้ตำรวจ

นอกจากปัญหายาเสพติดแล้วยังไม่สามารถสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังบ่อนผิดกฎหมายในหลายพื้นที่ และใครคือตัวการที่ปล่อยให้มีการเดินทางข้ามพรมแดนมาอย่างผิดกฎหมายได้ สิ่งเหล่านี้ประชาชนล้วนสงสัยและต้องการให้รัฐสืบสาวไปถึงต้นตอตัวจริง

น.ส.อรุณี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในภาพรวมการแก้ปัญหาประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด-19 และการออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจยังเป็นไปอย่างล่าช้าและอยู่ในกรอบมาตรการเดิม ๆ อย่างโครงการเราชนะ แจกเงินเยียวยา 3,500 บาท ในระยะเวลา 2 เดือน เป็นเพียงการลอกการบ้านเก่า แถมน้อยกว่าเดิมเพิ่มเติมคือความจน ควรดำเนินการอย่างรวดเร็วกว่านี้

แต่ขณะนี้คนไทยมองไม่เห็นอนาคตผ่านวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศแต่อย่างใด เพราะเป็นผู้นำที่มาจากเผด็จการ ใช้ความกลัวเป็นเครื่องควบคุมคน การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 จึงดูน่ากลัว ตรงข้ามกับข้อมูลของการระบาดในครั้งนี้ แม้เชื้อโรคมีการแพร่ระบาดเร็ว แต่อัตราการตายต่ำเมื่อเทียบกับครั้งก่อน แต่รัฐกลับไม่พยายามสื่อสารให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องเหล่านี้

ทั้งนี้ พรรคพท.เห็นว่า ในช่วงของการระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศไทยควรปรับรื้อโครงสร้างการผลิตใหม่ โดยเน้นเพิ่มทักษะแรงงาน และการเรียนรู้เทคโนโลยี โดยเสนอให้รัฐใช้มาตรจูงใจลดภาษีให้กับผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าปลอดเชื้อโรคโควิด-19 ผ่าน Product Coronavirus-Free เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมการส่งออกได้ ภายใต้การทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาหารโลกที่มีมาตรฐาน

ขณะเดียวกันการเยียวยาในภาพรวมจะต้องครอบคลุมไปถึงกลุ่มเปราะบาง ไม่ใช่สุ่มชิงโชคด้วยการลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพราะคนที่ขาดการเข้าถึงเทคโนโลยียังมีอีกมากในประเทศไทย ความยุติธรรมในยามวิกฤติ คือ การเยียวยาคนที่อ่อนแอให้ได้รับสิทธิทุกคน เช่น คนแก่ คนตกงาน หรือผู้ที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ซึ่งรัฐมีข้อมูลจำนวนคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว ต้องได้รับสิทธิ์การเยียวยา