มีเรา ไม่มีภัย “LIV 24” อัพเกรดระบบป้องกัน ดูแลทุกความปลอดภัย

นิรมล ดิเรกมหามงคล
นิรมล ดิเรกมหามงคล

ไฮไลต์ปี 2567 ของค่ายแสนสิริ ในโอกาสเป็นปีแห่งการพลิกฟื้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ นำเสนอเรื่องใหม่ ๆ ทางธุรกิจ ด้วยการแตกบริษัทลูก “LIV 24”

โดยมีผู้บริหารลูกหม้อ “นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล” ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย LIV-24 Living Technology บริษัท ลิฟ-24 จำกัด ดีกรีสาวไฟแนนซ์ แต่รู้จักทุกรูขุมขนของธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ จึงได้รับความไว้วางใจรับผิดชอบภารกิจในการ Spin off บริษัท ลิฟ-24 อย่างเต็มตัว

มอนิเตอร์วิศวกรรมอาคาร

ทั้งนี้ LIV-24 พัฒนาเทคโนโลยีต่อเนื่อง 2 ส่วนหลักคือ 1.Security Tech ระบบอัจฉริยะ AI CCTV Analytics ที่ผ่านมาสามารถตรวจจับความผิดปกติ (Incident Detection) มากถึง 500,000 ครั้ง และ LIV-24 ช่วยป้องกันการเกิดเหตุจากการทำงานผิดปกติของระบบวิศวกรรมในอาคารมากกว่า 100,000 ครั้ง

อาทิ ไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเหตุลุกลามเป็นไฟไหม้ ลิฟต์ค้าง รวมถึงป้องกันความปลอดภัยจากสัตว์มีพิษเข้ามาในโครงการ การบุกรุกจากบุคคลต้องสงสัย และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่เสี่ยง

ล่าสุดได้อัพเกรดระบบ VMS-Visitor Management System ที่ใช้ในการตรวจสอบยานพาหนะ โดยนำ AI มาใช้อ่านป้ายทะเบียน (License Plate Recognition) เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์ในการสแกนเข้าออกได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบเดิมอย่างระบบ Keycard, RFID ทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

รวมถึงเปิดช่องทางการลงทะเบียนเข้าโครงการล่วงหน้า e-Stamp และชำระค่าที่จอดรถได้ผ่านแอปไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

2.ด้าน BAS-Building Automation System เพื่อตอบโจทย์การใช้อาคารสูง จากข้อมูลของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ มีอาคารในไทยที่ติดตั้งระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm System) ตามกฎหมาย ส่วนใหญ่ติดตั้งระบบ Conventional System ที่มีการแจ้งเตือนแต่ไม่สามารถระบุจุดเกิดเหตุได้ จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุด ใช้เวลาในการค้นหาจุดเกิดเหตุจริงและประสานงานระงับเหตุ

รองลงมาเป็นระบบ Addressable System ที่สามารถระบุจุดเกิดเหตุได้ แต่ยังต้องมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุดตลอดเวลา เพื่อประสานงานระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที และมีอาคารเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีการติดตั้งระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ระบบ Wireless System ที่สามารถ Monitor เหตุการณ์ได้แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง โดยเชื่อมต่อการทำงานเข้าศูนย์ Command Center ทำให้รับรู้และแจ้งระงับเหตุเพลิงไหม้ได้รวดเร็วมากที่สุด ทำให้ลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

เผชิญเหตุฉุกเฉิน 3 นาที

ฝ่าย IoT ของ LIV-24 มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในการควบคุมดูแลระบบต่าง ๆ ภายในอาคารแบบ Centralise Monitoring จึงวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “IoT Edge Series” โดยนำ IoT เข้ามาดูแลและบริหารจัดการระบบต่าง ๆ เช่น Fire Alarm และ Building Management ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์ ลดขนาดและพื้นที่ รวมถึงลดเวลาในการติดตั้ง ทำให้สามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาของระบบด้วยการทำงานระยะไกล

โดย LIV-24 นำเสนอโซลูชั่นครบวงจร เพื่อดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุอัคคีภัย แบ่งเป็น 3 หัวข้อหลัก ดังนี้

1.“การวางระบบป้องกันอัคคีภัย” ทุกโรงงานที่มีมาตรฐานต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงานปี 2552 เกี่ยวกับระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้เครื่องดับเพลิง ระบบน้ำดับเพลิง ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ การตรวจสอบ ทดสอบ บำรุงรักษาระบบและอุปกรณ์ตามรอบของการดูแล การฝึกอบรมเรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยเป็นประจำทุกปี

รวมถึงการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง LIV-24 ที่มีโซลูชั่นครบวงจรในการเพิ่มประสิทธิภาพ ประกอบด้วย AI CCTV Analytics ช่วยวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ ตรวจจับความผิดปกติ ด้วยการสั่งสมประสบการณ์มากว่า 5 ปีจากโครงการที่พลัส พร็อพเพอร์ตี้ บริหารมากกว่า 400 โครงการ กว่า 500,000 เคส

จน AI ถูกพัฒนาให้เรียนรู้จากเคส เพิ่มศักยภาพความฉลาดมากขึ้น ตรวจจับตั้งแต่ควัน ประกายไฟ บุคคลต้องสงสัย มีการใช้ Fire Protection System ตรวจจับสัญญาณอัคคีภัยได้อย่างรวดเร็ว และแจ้งเหตุผิดปกติแบบเรียลไทม์ ให้กับผู้ใช้งานเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ทำให้ระบุจุดเกิดเหตุได้แม่นยำ ระบบดับเพลิงอัตโนมัติจะทำงานควบคุมเพลิงไหม้ในเบื้องต้น เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินอันมีค่า

โดยมีทีมสนับสนุนจากศูนย์ LIV-24 Command Centre ผ่านการมอนิเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถรับรู้เหตุที่เกิดขึ้น ตรวจสอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ภายใน 3 นาที

จุดเน้น “ดูแลป้องกัน”

2.“การจัดการความเสี่ยง” LIV-24 ควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ต่าง ๆ ในโรงงานด้วย Visitor Management System และ Access Control ช่วยป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่อันตราย และมี Real-Time Guard Tour คอยมอนิเตอร์รอบการเดินตรวจโครงการของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพราะนอกจากระบบป้องกันอัคคีภัยแล้ว การดูแลป้องกันก็เป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัย

รวมทั้งโรงงานควรมีระบบตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องจักรกล อุปกรณ์ ไฟฟ้า และสารเคมีสม่ำเสมอ พนักงานควรได้รับการอบรมให้เข้าใจวิธีการทำงานอย่างปลอดภัย สวมใส่ชุดป้องกันอันตราย และปฏิบัติตามกฎระเบียบความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

กฎปลอดภัย 3 ประสาน

3.“การเตรียมพร้อมรับมือ” นอกจากนี้ การจัดทำแผนฉุกเฉิน ซ้อมหนีไฟสำหรับเตรียมการอพยพและระงับเหตุ กำหนดจุดรวมพล บทบาทหน้าที่ของพนักงาน เป็นอีกมาตรการที่สำคัญ

โดยทาง LIV-24 จะมีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง มอนิเตอร์การทำงานแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง คอยประสานงานกับหน่วยงานภายนอก เช่น หน่วยดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายนอก เพื่อให้ได้รับการติดต่อและแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างฉับไวขึ้น

ทุกความปลอดภัยภายในโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นอัคคีภัย การบุกรุกจากคนภายนอก หรือการป้องกันการทำผิดกฎระเบียบของโรงงานล้วนเป็นภัยร้ายแรงที่ไม่สามารถป้องกันได้ การเตรียมตัวให้พร้อมรับมือเป็นสิ่งสำคัญ ตั้งแต่การวางระบบป้องกันอัคคีภัย การจัดการความเสี่ยง การเตรียมพร้อมรับมือ

โดยอาศัยกฎ 3 ประสาน ทั้ง “กฎหมาย เทคโนโลยีล้ำสมัย และการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัย” เป็นหัวใจสำคัญของการดูแลทุกความปลอดภัย by LIV 24