“ถาวร” เรียก “ดีดี-บอร์ดบินไทย” คุยซื้อฝูงบินเซ็ตแผนธุรกิจใหม่

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้รับทราบมติของคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ให้ฝ่ายบริหารกลับไปทบทวนโครงการจัดหาเครื่องบินจำนวน 38 ลำ มูลค่ารวม 156,169 ล้านบาท อย่างไม่เป็นทางการแล้ว

หลังจากนี้ ประมาณเดือนหน้า (ต.ค.) จะนัดบอร์ดและนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) รับประทานอาหารร่วมกันและร่วมกันหารือเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว รวมถึงแผนงานอื่นๆของการบินไทยด้วย เพราะทั้งดีดีและบอร์ดเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงกับกรณีนี้ เพราะมีหน้าที่เป็นผู้กำหนดกลยุทธ์และการบริหาร ส่วนถ้าไม่สามารถทำให้การบินไทยพ้นจากสภาวะขาดทุน จะถึงกับต้องให้นายสุเมธหรือบอร์ดทั้งชุดลาออกเลยหรือไม่ ขอไม่ตอบ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคน และรัฐมนตรีไม่สามารถไปฉีกสัญญาว่าจ้างดีดีได้

นายถาวร ยอมรับว่า แผนเสนอจัดหาเครื่องบินใหม่ของการบินไทย เสนอไม่ทันปีนี้แน่นอน เพราะมติบอร์ดก็ให้กลับไปปรับปรุงและให้กรอบเวลามา 6 เดือน แต่ถ้าสามารถทำข้อมูลได้เร็ว ก็อาจจะไม่ต้องใช้เวลาถึง 6 เดือน

”การจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2554 จากนั้นในปี 2561 ครม.ให้ชะลอไปก่อน เพื่อรอครม.ชุดปัจจุบันเข้ามาบริหาร ซึ่งเมื่อได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลการบินไทยก็มีคำถามไปถึงฝ่ายบริหารเกี่ยวกับการจัดหาเครื่องบินใหม่ 6 ข้อ เช่น มีการวางกลยุทธ์ด้านการตลาดสอดคล้องกับเส้นทางการบินที่มีแล้วหรือไม่, สามารถแข่งขันกับสายการบินอื่นและสายการบินโลว์คอสได้หรือไม่, การจัดหาเครื่องบินมีแหล่งเงินทุนชัดเจนแล้วหรือยัง และมีวิธีการจัดหาอย่างไร”

และก่อนจัดซื้อต้องทำแผนธุรกิจแสดงว่าให้ชัดทั้งก่อนจัดซื้อ ก่อนรับมอบ 2 ปี และหลังรับมอบแล้ว แต่ละช่วงมีแผนธุรกิจรองรับอย่างไร และสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์การตลาด รวมถึงการให้บริการจะใช้ในเส้นทางเก่าหรือเส้นทางใหม่ เป็นต้น และที่ผ่านมาบอร์ดยังไม่ได้ให้คำตอบที่เป็นทางการกลับมาแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ได้ถามไป น่าจะทำให้บอร์ดมีความระมัดระวังมากขึ้น จึงมีการเลื่อนการเสนอเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน

นายถาวร ย้ำว่า ไม่ได้มีเจตนาขัดขวางการจัดหาเครื่องบินของการบินไทย และเข้าใจดีว่ามีความจำเป็น ตนเข้าใจดีว่าโลกธุรกิจการบินมีการแข่งขันดุเดือด ทั้งสายการบินโลว์คอส ที่มีการบริหารองค์กรคล่องตัวกว่า หรือสายการบินบางแห่งที่มีศักยภาพสูงกว่า เพียงแต่ว่าเมื่อสถานการณ์ต่างๆเปลี่ยนแปลงไป ฝ่ายแผนก็ต้องปรับปรุงแผนงานให้สอดคล้องกับปัจจุบัน