อสังหาริมทรัพย์

REIC เผย “สงขลา-สุราษร์-นครศรีฯ” ทาวน์เฮาส์รอด คอนโดน่าเป็นห่วง

ภาพโรงแรม การท่องเที่ยว

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. (REIC) กล่าวว่า ผลสำรวจที่อยู่อาศัยช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ในเขตภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต สงขลา สุราษร์ธานี นครศรีธรรมราช มีโครงการเสนอขายจทั้งสิ้น 17,928 หน่วย สัดส่วน 5% ใน 26 จังหวัดหลักซึ่งมีจำนวนรวม 355,145 หน่วย ถือว่ามีขนาดตลาดใหญ่อันดับ 3 รองจากกรุงเทพฯ ซึ่งมีจำนวน 209,868 หน่วย

“สงขลา” โล่งซัพพลายสะสมจิ๊บๆ

สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดสงขลามีซัพพลายเสนอขาย 127 โครงการ รวม 3,822 หน่วย มีหน่วยขายได้ใหม่ 768 หน่วย

ในด้านหน่วยเหลือขายมี 3,054 หน่วย มูลค่า 11,739 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุด 305 หน่วย บ้านเดี่ยว 1,224 หน่วย ทาวน์เฮ้าส์ 830 หน่วย บ้านแฝด 565 หน่วย และอาคารพาณิชย์ 130 หน่วย

ในด้านหน่วยสร้างเสร็จเหลือขายมีจำนวน 599 หน่วย มูลค่า 2,262 ล้านบาท เป็นสินค้าบ้านจัดสรร 511 หน่วย มูลค่า 1,953 ล้านบาท อาคารชุด 88 หน่วย มูลค่า 309 ล้านบาท

ท็อป 3 ทำเลสร้างเสร็จเหลือขาย ได้แก่ 1.บ้านพรุ 135 หน่วย 2.ควนลัง 114 หน่วย และ 3.ท่าข้าม-ควนหิน 77 หน่วย

ท็อป 3 ทำเลขายดี ได้แก่ 1.ลพบุรีราเมศวร 211 หน่วย 2.คลองแห 161 หน่วย และ 3.ท่าข้าม-ควนหิน 124 หน่วย

ในด้านอัตราดูดซับพบว่า ครึ่งปีหลัง 2562 เพิ่มขึ้น 3.3% เทียบกับครึ่งปีแรก 2562

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากภาพรวมแม้อัตราดูดซับจะอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 แต่เป็นอานิสงส์จากอัตราดูดซับบ้านเดี่ยวสูงถึง 3.5% ในขณะที่คอนโดฯ ลดต่ำเหลือ 1.9%

ทำให้ REIC มองแนวโน้มปี 2563 คาดว่าอัตราดูดซับจะลดต่ำลงทั้งคอนโดและบ้านจัดสรร อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ถือว่าไม่น่ากังวลเพราะหน่วยสร้างเสร็จพร้อมโอนหรือ Inventory มีไม่มากนัก

“สุราษฎร์” ทาวน์เฮาส์-บ้านแฝดขายแซงบ้านเดี่ยว

จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพรวมมีที่อยู่อาศัยเสนอขาย 89 โครงการ รวม 3,188 หน่วย มีหน่วยขายได้ใหม่ 237 หน่วย

ในด้านหน่วยเหลือขายมี 2,951 หน่วย มูลค่า 9,334 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 2,767 หน่วย มูลค่า 8,743 ล้านบาท อาคารชุด 184 หน่วย มูลค่า 591 ล้านบาท

ท็อป 3 ทำเลสร้างเสร็จเหลือขาย ได้แก่ 1.ทำเลเลี่ยงเมืองมะขามเตี้ย 137 หน่วย 2.ขุนทะเล 89 หน่วย และ 3.บางใบไม้ 48 หน่วย

ท็อป 3 ทำเลขายดี ได้แก่ 1.ประดู่-บางชุมโถ 57 หน่วย 2.โกเตง-เลี่ยงเมือง(พุนพิน) 49 หน่วย 3.ขุนทะเล 44 หน่วย

ในด้านอัตราดูดซับพิจารณารายสินค้าพบว่าบ้านจัดสรรทรงตัว 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก 2562 ในขณะที่อาคารชุดลดเหลือ 1.6% เทียบกับครึ่งปีแรก 2562 มีอัตราดูดซับ 5.1%

แนวโน้มปี 2563 คาดว่าอัตราดูดซับของคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรจะทรงตัว หน่วยเหลือขายเพิ่มขึ้นไม่มากนักอยู่ที่ 3,421 หน่วย เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกของปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 3,259 หน่วย

ทั้งนี้ สินค้า “ทาวน์เฮาส์-บ้านแฝด” ได้รับความสนใจและทำยอดขายได้ดีกว่า “บ้านเดี่ยว”

“นครศรีฯ” เหลือขายแค่ 1.5 พันหน่วย 6 พันกว่าล้าน

จังหวัดนครศรีธรรมราช มีซัพพลายเสนอขาย 35 โครงการ รวม 1,627 หน่วย มีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 86 หน่วย

ในด้านหน่วยเหลือขายมีจำนวน 1,541 หน่วย มูลค่า 6,164 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 1,488 หน่วย มูลค่า 6,096 ล้านบาท อาคารชุด 53 หน่วย มูลค่า 68 ล้านบาท

ท็อป 2 ทำเลสร้างเสร็จเหลือขาย ได้แก่ 1.พัฒนาการ-คูขวาง 244 หน่วย 2.อ้อมค่าย 173 หน่วย

ท็อป 3 ทำเลขายดี ได้แก่ 1.พัฒนาการ-คูขวาง 44 หน่วย 2.อ้อมค่าย 37หน่วย และ 3.ท่าวัง 5 หน่วย

ในด้านอัตราดูดซับลดลงจากครึ่งปีแรก 2562 อยู่ที่ 0.9% เท่ากับทั้งอาคารชุดและบ้านจัดสรร ทั้งนี้ เป็นแนวโน้มอัตราดูดซับลดลงตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง 2561

แนวโน้มปี 2563 คาดว่าอัตราดูดซับของทุกสินค้าจะยังคงทรงตัวที่จำนวน 1,620 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งมี 1,601 หน่วย

เทรนด์ตลาดจะสอดคล้องกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวคือ สินค้าทาวน์เฮาส์กับบ้านแฝดขายดีกว่าบ้านเดี่ยว