เปิดแผน “TQMalpha” พร้อมดันมูลค่าบริษัท จาก 30,000 สู่ 50,000 ล้านใน 5 ปี

การประกาศทรานสฟอร์มบริษัทจาก TQM Corporation สู่  TQMalpha นั้น ไม่เพียงแต่จะเป็นการทลายข้อจำกัดของโบรกเกอร์ประกันภัยรายนี้ที่อยู่ในตลาดบ้านเรามาเกือบ 70 ปี จากแค่ธุรกิจนายหน้าประกันภัย มาสู่การมีธุรกิจในเครือที่หลากหลายมากขึ้นเท่านั้น

แต่ยังเป็นการประกาศความพร้อมในการผลักดันบริษัทให้เติบโตจากการมีฐานลูกค้าอยู่ในมือกว่า 4 ล้านราย มาเป็น 10 ล้านราย พร้อมผลักดันให้มาร์เก็ตแคป หรือมูลค่าของบริษัทพุ่งจาก 30,000 ล้านบาท เป็น 50,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี ซึ่งถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของ ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท อย่างมาก

ภายใต้โครงสร้างใหม่ที่ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มธุรกิจคือ ธุรกิจประกัน การเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม จะเข้ามาช่วยเกื้อกูลในการทำธุรกิจให้แก่กันและกันได้เป็นอย่างดี

ดร.นภัสนันท์  พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บอกว่า การดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทโฮลดิ้ง “TQMalpha” นั้น กลุ่มธุรกิจประกัน จะยังขยายงานอย่างแข็งแกร่งและครบวงจร โดยล่าสุดได้ขยายเข้าลงทุนในบริษัท TQR โบรกเกอร์รับประกันภัยต่อ True life  โบรกเกอร์ประกันชีวิตแบบกลุ่ม True Extra โบรกเกอร์ประกันภัยแบบกลุ่ม และ TQD ผู้พัฒนาระบบแพลตฟอร์มสนับสนุนงานประกันครบวงจร

ขณะที่กลุ่มธุรกิจการเงิน ได้ตั้งบริษัท EASY Lending เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล หลังจากเริ่มดำเนินงานก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มคือบริษัท ชัวร์ครับ.คอม จำกัด ดำเนินธุรกิจการจัดการแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้บริการนายหน้าประกันให้กับลูกค้า โดยการถือหุ้นผ่าน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเข้าไปลงทุนในเทคสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมที่สามารถนำเข้ามาช่วยสนับสนุนธุรกิจหลักที่ทำอยู่คือประกันภัย

ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็คือการการลงนามในสัญญาเพื่อเตรียมเข้าลงทุน 40% ในบริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด (Builk One Group) ทั้งนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนกฎระเบียบของหน่วยงานที่กำกับต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายใน 2 เดือน

บริษัท Builk One Group นี้ ดำเนินธุรกิจให้บริการและพัฒนาซอฟต์แวร์บริหารธุรกิจสำเร็จรูป รวมถึงบริการอีคอมเมิร์ซสําหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Construction) และอุตสาหกรรมอื่น (Non-construction) และเป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนาบริการซอฟต์แวร์บริหารธุรกิจ ซึ่งครอบคลุมระบบบริหารทรัพยากรองค์กร (ERP) ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และบริการซอฟต์แวร์กลุ่ม Construction Technology เพื่อบริหารต้นทุน ระยะเวลา และคุณภาพสำหรับโครงการก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Construction) และโครงการในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น (Non-construction) รวมทั้งการทำ Digital Transformation เชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุตสาหกรรม การลงทุนครั้งนี้ สามารถนำมาต่อยอดธุรกิจทางด้านประกันและการเงินบนแพลตฟอร์มของ Builk One Group รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีโดยใช้ความเชี่ยวชาญของ Builk One Group

ดร.นภัสนันท์  ยกตัวอย่างให้เห็นภาพถึงการต่อยอดจากการเข้าถือหันในครั้งนี้ว่า เป็นการเปิดโอกาสเข้าไปยังธุรกิจใหม่ๆ อย่างการรับประกันที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยซึ่งมีธุรกิจที่เปิดกว้างค่อนข้างมาก

เช่นเดียวกับการเปิดตัว บริษัท อีซี่ เลนดิ้ง จำกัด ที่ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย นั้น สามารถช่วยต่อยอดมาสู่การทำธุรกิจประกันได้ อย่างสินเชื่อตัวแรกคือ สินเชื่อเบี้ยประกัน ที่จะใช้กับลูกค้าที่ซื้อประกันกับ TQM แต่ไม่อยากจ่ายเงินก้อน หรือยังไม่มีเงินก้อน ก็สามารถขอสินเชื่อเพื่อนำมาจ่ายเบี้ยประกันได้ ซึ่งสินเชื่อตัวนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เพราะจะปล่อยสินเชื่อภายใต้ฐานข้อมูลที่ TQM มีอยู่

อีซี่ เลนดิ้ง มีเป้าหมายในการเติบโตของตัวเลขการปล่อยสินเชื่อเบี้ยประกันไว้ค่อนข้างหน้าสนใจ โดยใน 2 ปีแรกมีเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อที่ 2,000 ล้านบาท และภายใน 5 ปี จะต้องสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 10,000 ล้านบาท ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ออกมาจะต้องมีหนี้เสียในตัวเลขที่น้อยมาก

“เดิมทีเราทำธุรกิจประกัน ซึ่งก็คือการบริหาร Wealth Protection ให้กับลูกค้า เราจะต่อยอดไปสู่การบริหาร Wealth Creation ที่จะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบต่างๆ ทยอยออกมาให้บริการลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่า จะเชื่อมโยงไปสู่การทำงานร่วมกันของ 3 ธุรกิจในเครือได้เป็นอย่างดี”

ดร.นภัสนันท์  TQMalpha บอกว่า การดำเนินงานทั้งหมด จะใช้นโยบายเชิงรุกในการขยายธุรกิจและประสานการให้บริการเป็นหนึ่งเดียว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้รวดเร็วและตรงความต้องการให้มากที่สุด

ขณะที่กลยุทธ์การบริหารธุรกิจจะเป็นการเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาว โดยเน้นการป้องกันความเสี่ยง พร้อมใช้จุดแข็งที่เป็นผู้นำในตลาดนายหน้าประกัน ที่มีฐานลูกค้ากว่า 4 ล้านคน เพื่อขยายไปยังธุรกิจการเงิน และธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่ช่วยเสริมให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นอีก ประกอบกับ TQMalpha มีพันธมิตรที่เข้าไปร่วมธุรกิจด้วย โดยจะเน้นพันธมิตรที่สามารถเติบโตไปด้วยกัน

ตามแผนงาน 5 ปี (ปี 2022-2026) ของ TQMalpha  ที่วางไว้นั้น การสร้างมูลค่าของบริษัทจากธุรกิจใหม่ให้มีขนาดทัดเทียมกับธุรกิจประกันเดิมที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างฐานลูกค้าในระบบให้ได้ถึง 10 ล้านราย ผ่าน 3 ธุรกิจข้างต้น โ รวมถึงขยายฐานสู่ต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยวางเป้าหมายสร้างสัดส่วนรายได้จากธุรกิจประกันที่เป็นธุรกิจหลักอยู่ที่ 50% ของรายได้รวม จากเดิมที่รายได้หลักๆ ถึงกว่า  90% จะมาจากธุรกิจประกัน

หลังจากนี้ ธุรกิจการเงินและธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มจะสร้างรายได้รวมกันในสัดส่วน 50% ของรายได้รวม ซึ่งเชื่อว่าโอกาสการเติบโตของทั้ง 3 ธุรกิจยังมีอยู่สูงมาก แม้แต่ธุรกิจประกันก็ยังเติบโตได้ เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ TQMalpha เติบโตต่อเนื่อง จากเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมสูงถึง 3,427 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 892 ล้านบาท

“เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจแบบครบวงจร ตอบโจทย์ของกลุ่มนักลงทุนและผู้ใช้บริการ TQM ที่ไม่จำกัดตัวเองอยู่ที่ธุรกิจประกันเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป หากแต่จะนำศักยภาพทางด้านฐานลูกค้า โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่เตรียมไว้ และความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน มุ่งทำธุรกิจเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงิน เพื่อเป็นเครื่องมือเพิ่มเติมในการลดความเสี่ยงให้กับลูกค้าในอนาคต และธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในโลกยุคใหม่ ซึ่งธุรกิจประกันดั้งเดิมไม่อาจตอบสนองได้ครบถ้วน โดยกลุ่มธุรกิจภายใต้โครงสร้างใหม่ของ TQMalpha จะเกิดการทำงานที่ synergy กัน นับเป็นการช่วยปลดล็อกศักยภาพให้เกิดการเติบโตเป็นอย่างมาก” ดร.นภัสนันท์ กล่าวสรุป