เทียบชัด ๆ เงินกู้ในระบบ VS นอกระบบ แตกต่างกันอย่างไร

เงินกู้ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาสภาพคล่อง สามารถนำเงินมาหมุนเวียนใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี โดยในปัจจุบันมีตัวเลือกการกู้เงินถึง 2 ประเภท นั่นก็คือ การกู้เงินในระบบ และนอกระบบ ซึ่งผู้กู้จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่าง และข้อดี-ข้อเสียของเงินกู้ทั้ง 2 ประเภทให้ดีเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้ซ้ำซ้อนจากการไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ตามเงื่อนไขได้ จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลย!

เงินกู้ในระบบคืออะไร

เงินกู้ในระบบ คือ สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้มีกฎหมายควบคุมอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมถึงเงื่อนไขให้มีความเป็นธรรมกับผู้กู้มากที่สุด โดยอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสถาบันการเงินกำหนดสูงสุดจะต้องไม่เกิน 25% ต่อปี และผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ซึ่งจะต้องมีการแจ้งให้ผู้กู้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้กู้สามารถคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนได้อย่างถี่ถ้วน

เงินกู้นอกระบบคืออะไร

เงินกู้นอกระบบ คือ การที่ผู้ให้กู้ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูง และเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากไม่มีกฎระเบียบใด ๆ มาบังคับหรือควบคุมคนเหล่านี้ได้ ซึ่งนอกจากอัตราดอกเบี้ยที่ในบางครั้งผู้กู้แทบจะต้องจ่ายสูงกว่าเงินต้นที่ได้มาแล้ว การกู้เงินนอกระบบยังขึ้นชื่อเรื่องการทวงหนี้โหด ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้กู้ได้อีกด้วย

ความแตกต่างของเงินกู้ในระบบ vs นอกระบบ

ผู้ให้กู้

เงินกู้ในระบบ: ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง

เงินกู้นอกระบบ: นายทุน, ประชาชนทั่วไป, ธุรกิจผิดกฎหมาย

กฎหมายคุ้มครอง

เงินกู้ในระบบ: มีกฎหมายคุ้มครอง

เงินกู้นอกระบบ: ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง

ความปลอดภัยทางข้อมูลของผู้กู้

เงินกู้ในระบบ: มีนโยบายที่คุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของผู้กู้

เงินกู้นอกระบบ: ไม่มีนโยบายและกฎหมายคุ้มครอง ผู้ให้กู้จึงมักจะนำข้อมูลไปใช้

เงื่อนไขสัญญา

เงินกู้ในระบบ: มีเอกสารสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงมีเนื้อหาสัญญาที่ชัดเจนและเป็นธรรม

เงินกู้นอกระบบ: ผู้ให้กู้จะกำหนดเงื่อนไขในการกู้เงิน และไม่มีเอกสารสัญญาเป็นรายลักษณ์อักษรชัดเจน

อัตราดอกเบี้ย

เงินกู้ในระบบ: มีการแจ้งอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมอย่างชัดเจน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี

เงินกู้นอกระบบ: ไม่มีการแจ้งอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม โดยอัตราดอกค่าธรรมเนียมอาจสูงถึง 20% ต่อเดือน

การชำระหนี้

เงินกู้ในระบบ: มีการออกหลักฐานการชำระหนี้เพื่อให้ลูกหนี้ใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบ และสามารถทราบยอดเงินต้นคงเหลือ รวมถึงยอดหนี้คงเหลือได้

เงินกู้นอกระบบ: ไม่มีการออกหลักฐานการชำระหนี้ ทำให้ลูกหนี้ไม่มีหลักฐานกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนี้ลูกหนี้ก็จะไม่ทราบยอดเงินต้นคงเหลือ รวมถึงยอดหนี้คงเหลือได้

แม้ว่าเงินกู้นอกระบบ จะมีความสะดวกสบายในขั้นตอนการขอสินเชื่อ เนื่องจากไม่ต้องใช้เอกสาร ไม่ต้องใช้คนค้ำ และอนุมัติได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการพิจารณา แต่หากเทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่แทบจะสูงกว่าเงินต้น รวมถึงเงื่อนไขสัญญาและการไม่มีหลักฐานเมื่อมีการชำระหนี้ ที่ทำให้คุณไม่สามารถปิดหนี้ได้และอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน ก็ถือว่าไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นหากคุณต้องการกู้เงินเพื่อนำมาใช้จริง ๆ ก็ควรจะเลือกเงินกู้ในระบบที่แม้จะมีความยุ่งยาก แต่มีกฎหมายคุ้มครองและมีความเป็นธรรมจะดีกว่า