ธุรกิจรับสร้างบ้านปรับตัว ลุยตลาดทั้งออนไลน์-ออฟไลน์

สมาคมรับสร้างบ้านซบจากพิษโควิด-19 จนต้องเร่งปรับตัว และงัดสารพัดกลยุทธ์สู้ ทั้งการขายแบบเดิมและการปรับตัวสู่การขายแบบออนไลน์ รวมทั้งการนำเทรนด์แบบบ้านตอบโจทย์ WFH หวังดันยอดขายในปีนี้
#ธุรกิจรับสร้างบ้าน #workfromhome #bangkokbank #bangkokbanksme #sme

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 400,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดบ้านจัดสรร 200,000 ล้านบาท ตลาดรับสร้างบ้าน 200,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ตลาดใหญ่เป็นของผู้รับเหมาทั่วไป 185,000 ล้านบาท และเป็นของผู้ประกอบการรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑลเป็นหลักราว 12,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ตลาดรวมหดตัวลง โดยธุรกิจรับสร้างบ้านก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ซึ่งประเมินว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ตลาดจะหดตัวไม่น้อยกว่า 20-30% เนื่องจากรัฐบาลประกาศปิดเมือง (Lockdown) ทำให้ธุรกิจต่างๆ หยุดชะงัก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง แต่ถ้าไม่มีการระบาดรอบสอง รวมถึงแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายใต้วงเงิน 400,000 ล้านบาท เห็นเป็นรูปธรรมจะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม และหนุนทุกภาคธุรกิจให้มีแรงขับเคลื่อนต่อไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านด้วย

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme

“ยอมรับว่าตลาดชะลอตัวมาก จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังมั่นใจว่าความต้องการสร้างบ้านไม่ได้หายไป แค่ชะลอการตัดสินใจสร้างออกไปเท่านั้น จึงเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังกำลังซื้อจะกลับมาจากการฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจ ประกอบกับผู้ประกอบการจะปรับตัวเข้ากับยุค “New Normal” ด้วยการออกแบบบ้านรองรับกับการทำงานที่บ้าน (Work From Home : WFH ) รวมถึงขยายช่องทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ จึงมั่นใจว่าปีนี้ตลาดรวมจะเท่ากับปีก่อน จำนวน 12,500 ล้านบาท หรือติดลบน้อยลงจากที่ในช่วงครึ่งปีแรกยอดขายลดลงเฉลี่ย 20-30%” นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านกล่าว ทั้งระบุอีกว่า

สำหรับแนวทางรอดของผู้ประกอบการรับสร้างบ้านนั้น ธุรกิจรับสร้างบ้านจะต้องปรับตัวทุกรูปแบบ ทั้งรูปแบบและช่องทางการตลาด ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ แบบบ้านที่ตอบโจทย์การทำงานที่บ้าน นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น รวมถึงจัดโปรโมชั่นให้โดนใจตรงกับความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญจะต้องเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

ทั้งนี้ในวันที่ 20-31 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้จัดงานรับสร้างบ้านออนไลน์ 2020 ซึ่งเป็น Online Exhibition ครั้งแรก ปรากฏว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มียอดจองสร้างบ้านประมาณ 125 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของยอดขายที่จัดงานมหกรรมรับสร้างบ้าน

ดังนั้นสมาคมฯ จึงมีแผนที่จะให้ผู้ประกอบการเพิ่มช่องทางการตลาดทางออนไลน์มากขึ้นควบคู่กับออฟไลน์ โดยจะจัดงานมหหกรรมรับสร้างและวัสดุ Expo 2020 ในวันที่ 1-4 ตุลาคม 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี

ส่วนสภาพการแข่งขันของตลาดธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น มีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง ผู้ประกอบการจะให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาททางด้านการตลาด เพราะนอกจากจะช่วยลดต้นทุนจากการขยายสาขาแล้ว ยังเข้าถึงลูกค้าได้เร็วและง่ายขึ้นด้วย

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<

5 สิ่งที่ต้องมีเพื่อเปลี่ยนบ้านให้เป็น Virtual Office
8 วิธีปรับสมดุลชีวิตและทำงาน Work From Home