สมเด็จพระสังฆราช ถวายพระพรชัยมงคล พระราชินีสุทิดา

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2563 สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เผยแพร่ประกาศ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร แด่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาพัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2563 ความว่า

“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพ รรษาของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ 3 มิถุนายน 2563 ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงช นชาวไทย ถวายพระพรชัยให้มีพระกำลังเข้มแข็ง ในการประกอบพระราชกรณียกิจ ประสิทธิ์ประสาทความวัฒนาสถ าพรมาสู่ประชาชาติไทยสืบไป ด้วยอานุภาพแห่งพระราชธรรมจ ริยา

สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ทรงเปี่ยมด้วยน้ำพระราชหฤทั ยซื่อสัตย์กตเวทีต่อสมเด็จพ ระราชสวามี และทรงบริบูรณ์ด้วยพระมหากร ุณาต่ออาณาประชาราษฎร ตลอดหนึ่งปีนับแต่เสด็จสถิต ในที่สมเด็จพระอัครมเหสี ได้ทรงสำแดงให้เห็นประจักษ์ ว่า ทรงพร้อมอุทิศพระองค์ สนองพระราชประสงค์ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อสัมฤทธิผลเป็นประโยชน์ สุขของปวงประชา อีกทั้งทรงอธิษฐานพระราชหฤท ัยว่า จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของสม เด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ตลอดจนบูรพราชนารีแห่งมหาจั กรีบรมราชวงศ์ ประหนึ่งทรงมุ่งจะปิดทองหลั งพระ โดยหมายจะให้พระพุทธปฏิมางด งามบริบูรณ์อย่างเต็มองค์

การที่ทรงดำรงมั่นในพระราชจ ริยาฉะนี้ แสดงถึงพระปรีชาญาณ ที่ทรงสามารถข่มพระจิต อันมีธรรมชาติเป็นของดิ้นรน กวัดแกว่ง ให้กลับสงบ นิ่ง ไม่หวั่นไหว และมั่นคงแน่วแน่ต่อความดี ด้วย ‘สัจจะ’ คือความซื่อตรง ด้วย ‘ทมะ’ คือความฝึกตน ด้วย ‘ขันติ’ คือความอดทน และด้วย ‘จาคะ’ คือความเสียสละ เป็นธรรมะประจำพระราชหฤทัย

เพราะฉะนั้น พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจึงพึงต ั้งดวงจิตไว้ด้วยความจงรักภ ักดี น้อมถวายกำลังพระราชหฤทัย ให้ทรงบริบูรณ์ด้วยพระคุณสม บัติของขัตติยนารี เสด็จสถิตเป็นศรีสง่าแห่งพร ะบรมราชจักรีวงศ์ ตลอดกาลนาน

ณ มงคลวารคล้ายวันพระราชสมภพม าบรรจบถึง จึงขออัญเชิญพระพุทธภาษิต มากล่าวอ้างเป็นสัจจวาจา ว่า

ผนฺทนํ จปลํ จิตฺตํ ทุรกฺขํ ทุนฺนิวารยํ

อุชุํ กโรติ เมธาวี อุสุกาโรว เตชนํ.

แปลความว่า “คนมีปัญญา ทำจิตที่ดิ้นรน กวัดแกว่ง รักษายาก ห้ามยาก ให้ตรงได้ เหมือนช่างศรทำลูกศรให้ตรงได้ฉะนั้น.”

ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจานี้ ขอประชาราษฎร์ทั้งปวง จงสมัครสมานสามัคคีพร้อมเพรียงกัน ทำนุบำรุงราชอาณาจักรไทยให้รุ่งเรือง เพื่อสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ จักได้ทรงพระเกษมสำราญ ปลอดโปร่งทั้งพระวรกายและพระราชหฤทัย ทรงนำพาประชานิกรให้ประสบความเกษมสโมสรยิ่งๆ ขึ้นไป สมดังพระราชประสงค์จำนงหมาย

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญของอาณาประชาชนสืบไป เป็นนิตยกาล เทอญ.”