มติบอร์ดค่าจ้าง ยืนยันค่าแรงขั้นต่ำอัตราเดิม ไฟเขียวขึ้น 2 รอบปีหน้า

แรงงาน ค่าแรงขั้นต่ำ

ด่วน! บอร์ดค่าจ้าง เคาะใช้มติค่าแรงขั้นต่ำเดิม ปลัดกระทรวงแรงงานเผย ไฟเขียวรื้อสูตรคำนวณใหม่ พร้อมใช้ปีหน้า ขึ้นค่าแรง 2 ครั้ง

วันที่ 20 ธันวาคม 2566 มติชน รายงานว่า นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 แถลงผลการประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 10/2566 หลังจากที่มีการประชุมครั้งที่ 9/2565 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยึดตามมติเดิมในวันที่ 8 ธันวาคม 2566

ส่วนข้อสังเกตจากท่าน รมว.แรงงาน นั้น ทางคณะกรรมการค่าจ้าง เห็นชอบเรื่องนี้โดยจะนำไปพิจารณาปรับสูตรค่าจ้างใหม่ เป็นการปรับสูตรในรอบ 6 ปี ซึ่งวันที่ 17 มกราคม 2567 ตนจะลงนามแต่งตั้งอนุกรรมการปรับสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ส่วนการปรับค่าจ้างครั้งที่ 2 นั้นจะเป็นช่วงใดก็จะต้องดูตามเวลาดำเนินงาน พร้อมกับดูว่าจะมีไตรภาคีเสนอเรื่องนี้มาหรือไม่ด้วย

ก่อนหน้านั้น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ระหว่างที่คณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 กำลังประชุมหารือถึงมติค่าจ้างขั้นต่ำว่า ตามที่ตนได้ตั้งข้อสังเกตถึงการคำนวณอัตราการปรับค่าจ้างขั้นต่ำที่มีการเอาค่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2563-2564 ที่มีการระบาดของโควิด-19 มารวมอยู่ในการคำนวณค่าเฉลี่ย

ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงปีดังกล่าวนั้น เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำมาก ดังนั้น การเอา 2 ปีนั้นมาคำนวณก็ทำให้อัตราค่าเฉลี่ยต่ำลง ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้าง วันนี้จึงมีการประชุมหารือของไตรภาคีอีกครั้ง ซึ่งจะต้องหารือกันถึงรายละเอียดมากยิ่งขึ้น

“โดยเฉพาะที่ผ่านมามีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในภาพรวมรายจังหวัด แต่การพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำในรายจังหวัดให้ถึงวันละ 400 บาท คงจะมีผลกระทบกับบางภาคธุรกิจ ผมจึงได้ให้นโยบายผ่านปลัดกระทรวงว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า จะมีช่องทางลงไปในรายละเอียดถึงระดับอาชีพ ที่สามารถแยกออกไปและสามารถขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้สูงขึ้น

ผมมองว่าส่วนนี้ควรนำมาพิจารณา ไม่ใช่การพิจารณาขึ้นรายจังหวัด แต่ให้พิจารณาเป็นรายอำเภอ หรือรายเทศบาล ซึ่งจะเป็นการลงรายละเอียดมากขึ้น เพราะในบางธุรกิจในบางพื้นที่อาจจะไม่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้นการประกาศค่าจ้างภาพรวม อาจไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการ

ดังนั้น ถ้าจะยุติธรรมที่สุดคือ อาจเลือกประกาศรายอาชีพ ฉะนั้นวันนี้ ผมได้ให้ข้อคิดกับปลัดกระทรวง ในฐานะประธานบอร์ดค่าจ้าง แต่ผมในฐานะการเมืองไม่มีสิทธิแทรกแซงหรือชี้นำไตรภาคี แต่สามารถแนะนำฝ่ายข้าราชการได้ ว่าให้คงหลักการในอดีตไว้ แต่ให้ลงในรายละเอียด แต่ทั้งหมดนั้นก็อยู่ที่ข้อสรุปของไตรภาคี” นายพิพัฒน์กล่าว

เมื่อถามว่าเป็นการรื้อโครงสร้างของคณะกรรมการค่าจ้าง เพื่อให้มีการพิจารณาเป็นรายอาชีพหรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า วันนี้เรามีเวลาน้อย ฉะนั้นอาจจะยกมาเป็นบางจังหวัด เช่น จังหวัดที่มีเศรษฐกิจดี หรือรายอำเภอ ไปจนถึงรายอาชีพ

“เป็นอีกมิติหนึ่งของกระทรวงแรงงานในยุคที่ผมเข้ามาทำงาน และยุคของท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่ได้ให้นโยบายมา เราก็คงต้องมารื้อระบบว่า ต่อไปเราคงไม่ประกาศเหมาทั้งจังหวัด แต่อาจจะลงลึกในรายอำเภอ เทศบาลหรือรายอาชีพ เช่นวันนี้ประเทศไทยอัดฉีดการท่องเที่ยว

ฉะนั้นสาขาการท่องเที่ยวและบันเทิง ค่าแรงก็ควรจะขึ้นเป็นกรณีพิเศษได้หรือไม่ และตามที่กระทรวงมหาดไทย ประกาศเปิดสถานบริการได้ถึงเวลา ตี 4 ใน 4 จังหวัด ดังนั้น ภาคบริการท่องเที่ยวควรจะขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำได้มากกว่าสาขาอื่นหรือไม่ เราจะต้องหาข้อมูลและทำการศึกษาว่าเป็นไปได้อย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นการประกาศปรับในกลางปีหรือปี 2568 ต่อไปได้” นายพิพัฒน์กล่าว