มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (มูลนิธิ อพ.สธ.) มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กองทัพเรือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมใจใน “โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรและวางปะการังเทียม เกาะแสมสาร เฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2566 โดยได้รับเกียรติจาก “พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์” ประธานมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นประธานในพิธีวางปะการังเทียมเป็นปฐมฤกษ์
โดยมีพลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ, พรชัย จุฑามาศ กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (มูลนิธิ อพ.สธ.) สุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์, สมพันธ์ จารุมิลินท ประธานคณะทำงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทะเลไทย มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมพิธี
ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย และร่วมกิจกรรมวางปะการังเทียม สร้างบ้านปลา ปล่อยเต่า และปลูกต้นไม้ บริเวณหน้าหาดทิศตะวันออกของเกาะแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
“พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์” ประธานมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวในพิธีเปิดงาน เมื่อ 25 ปีที่แล้วว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริแก่ผู้เกี่ยวข้องให้ดำเนินการทั้ง 9 เกาะ
คือเกาะแสมสารและเกาะข้างเคียง ศึกษาตั้งแต่ยอดเขาจนถึงใต้ทะเล รวบรวมพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งพืชบนดิน พืชน้ำ รวมถึงสัตว์ต่าง ๆ โดยเน้นระบบนิเวศวิทยาแบบภาพรวมทั้งระบบ ด้วยการสำรวจทั้งด้านภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา อุตุนิยมวิทยา แร่ธาตุ ไปพร้อม ๆ กัน
“พระราชดำรินี้คือแนวทางที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานด้านอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น กองทัพเรือ จังหวัดชลบุรี และองค์กรภาคเอกชนต่าง ๆ ที่มาร่วมกันสนับสนุนในโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรและวางปะการังเทียม เกาะแสมสาร เฉลิมพระเกียรติ
จนป่าชายเลนมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น ทั้งทิวทัศน์ หาดทรายที่สะอาดสวยงาม ผมจึงขอฝากชาวแสมสารและหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือช่วยกันดูแลธรรมชาติอันงดงามนี้ให้ดำรงอยู่เพื่อคนรุ่นหลังต่อไป”
“โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรและวางปะการังเทียม เกาะแสมสาร เฉลิมพระเกียรติ” มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี-กองทัพเรือ (อพ.สธ.-กองทัพเรือ) โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำริให้เกาะแสมสารเป็นแหล่งเรียนรู้
โดยพระราชทานให้ดำเนินงานตั้งแต่ยอดเขาถึงใต้ทะเล เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2541 ทรงเน้นเรื่องการบริหารจัดการจำนวนนักท่องเที่ยว การจัดการพื้นที่ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม สมดุลระหว่างการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ เพราะมีผลกับเศรษฐกิจของท้องถิ่นชุมชน และความเสียหายอันจะเกิดกับทรัพยากร
มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กองทัพเรือ และหน่วยงานเครือข่าย จึงร่วมกันฟื้นฟูและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในแนวปะการังบริเวณเกาะแสมสาร และมีการศึกษาวิจัยติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดฐานข้อมูลปะการังที่จะไปสนับสนุนการจัดทำผังพื้นที่ทางทะเล (Marine Spatial Planning: MSP) ประกอบการตัดสินใจในการกำหนดนโยบาย
และตัวชี้วัดด้านการบริหารจัดการปะการังในพื้นที่ดำเนินงาน อพ.สธ.-ทร. หมู่เกาะแสมสาร และเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในการยกระดับความสำคัญของพื้นที่หมู่เกาะแสมสาร อันเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเล (Marine Protected Area: MPA) เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงของระบบนิเวศของพื้นที่อ่าวไทยตะวันออก
ทั้งยังช่วยรองรับกับการวางแผนการจัดการที่เหมาะสมของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) พร้อมจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างจิตสำนึกแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไปในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ เกาะแสมสารอีกด้วย
กล่าวกันว่า โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรและวางปะการังเทียม เกาะแสมสาร เฉลิมพระเกียรติ หมู่เกาะแสมสารเป็นพื้นที่รวมความหลากหลายทางชีวภาพจากยอดเขาสู่ใต้ทะเลด้านอ่าวไทยฝั่งตะวันออกครั้งนี้ มีการจัดทำบ้านปลาบริเวณหาดเทียนซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของสาหร่ายทะเลกลุ่มต่าง ๆ และสิ่งมีชีวิตที่มีความหลากหลาย อาทิ ปลิงทะเล, ฟองน้ำทะเล, เม่นทะเล, หอยทะเล, ปลาทะเลในแอ่งน้ำขัง ฯลฯ
ที่สำคัญยังมีการร่วมปลูกต้นไม้, ปล่อยเต่า และวางปะการังเทียมต่อเนื่องเป็นแนวยาวขนานกับหาดเทียนบนพื้นที่วางรวม 200 ตารางเมตร โดยนำเทคโนโลยี CPAC 3D Printing Solution มาขึ้นรูปเป็นวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปะการังและสัตว์น้ำ อันจะนำไปสู่การอนุรักษ์ฟื้นฟูแนวปะการัง และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศปะการัง รวมถึงทรัพยากรทางท้องทะเลบริเวณเกาะแสมสารอย่างยั่งยืนต่อไป