ครั้งแรก! เกาหลีรับคนไทยทำงานยาว ผ่านวีซ่า E-8 ไม่ต้องสอบภาษา

ไทย-เกาหลี MOU วีซ่า E8

ไทย-เกาหลี  MOU รับคนไทยอย่างน้อยปีละ 5,000 คน ทำงานภาคเกษตรและประมงตามฤดูกาล ผ่านวีซ่า E-8 ไม่ต้องสอบภาษา ไปซ้ำได้ ค่าแรงไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท

วันที่ 27 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า E-8 ประเภทวีซ่าทำงานภาคเกษตรและประมงตามฤดูกาล เริ่มใช่กับคนไทยได้แล้ว หลังจากที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ราชอาณาจักรไทย และอำเภอจินอัน จังหวัดซอลลาบุก สาธารณรัฐเกาหลี ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านการจัดส่งแรงงานภาคเกษตรตามฤดูกาล ณ โรงแรม LOTTE Seoul สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อวานนี้ (26 มิถุนายน 2566) ขณะที่ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน และนายชุนซอง จอน นายอําเภอจินอัน ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของสาธารณรัฐเกาหลี เป็นผู้จรดปากกาลงนาม

โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน

เบื้องต้นทางการเกาหลีมีความต้องการจ้างแรงงาน ปีละไม่น้อยกว่า 5,000 คน เพื่อทำงานเพาะปลูก ปศุสัตว์ และประมง มีสัญญาจ้างไม่เกิน 5 เดือน รายได้มากกว่า 50,000 บาทต่อเดือน ซึ่งคาดว่าแรงงานไทยชุดแรกจะสามารถเดินทางไปทำงานได้ ภายใน 1 เดือน

ไทย-เกาหลี MOU วีซ่า E8

ไปทำงานเกาหลีใต้ มีวีซ่าอะไรบ้าง

แรงงานต่างชาติ หมายถึง บุคคลที่ไม่มีสัญชาติเกาหลี ซึ่งจะทำงานหรือกำลังทำงานอยู่โดยใช้กำลังกายและความรู้ เพื่อประสงค์ค่าจ้างในสถานประกอบการหรือกิจการต่าง ๆ ที่อยู่ในเกาหลีใต้

ซึ่งวีซ่าทำงานในประเทศเกาหลี มีอยู่หลายประเภท อาจแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ได้แก่

1. วีซ่าสำหรับแรงงานทักษะสูง (professional visa)

1.1) สำหรับทำงานระยะสั้น ไม่เกิน 90 วัน: วีซ่า C-4 ออกให้กับผู้ที่เข้ามาเพื่อทำงานระยะสั้นโดยประสงค์ผลกำไร เช่น งานแสดงชั่วคราว การถ่ายโฆษณา นางแบบหรือนายแบบแฟชั่น งานบรรยาย ปาฐากถา งานวิจัย งานอบรบทางเทคนิค ฯลฯ

1.2) สำหรับทำงานระยะยาว มากกว่า 90 วัน: วีซ่า E-1 ถึง E-7 รายละเอียดดังนี้

  • E-1 คือ วีซ่าสำหรับอาจารย์ หรือผู้สอนระดับอุดมศึกษา
  • E-2 คือ วีซ่าสำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพสอนภาษาต่างประเทศในสถาบันกวดวิชาเฉพาะด้าน สถาบันการศึกษา หรือสถาบันวิจัยร่วมที่สูงกว่าระดับประถมศึกษาขึ้นไป
  • E-3 คือ วีซ่าสำหรับนักวิจัย เกี่ยวกับเทคโนโลยีระดับสูงทางด้านอุตสาหกรรม หรือวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ สังคมศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ ศิลปะและพลศึกษาของสถาบันวิจัยต่าง ๆ
  • E-4 คือ วีซ่าสำหรับผู้ที่ได้รับการเชื้อเชิญโดยสถาบันรัฐ หรือองค์กรประชาชนของสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อจัดหาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความชำนาญพิเศษ เฉพาะด้านอุตสาหกรรมหรือความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
  • E-5 วีซ่าสำหรับผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับงานเชี่ยวชาญ ทางด้านการแพทย์ การบัญชี กฏหมาย (ทนาย)
  • E-6 วีซ่าสำหรับผู้ที่ทำหน้าเกี่ยวข้องกับศิลปะการแสดง ดนตรี วรรณกรรมโดยประสงค์ผลกำไร เช่น นางแบบหรือนายแบบแฟชั่น โฆษณา การแข่งขันกีฬา ละคร การแสดงดนตรี งานบันเทิงต่าง ๆ
  • E-7 วีซ่าสำหรับผู้ที่เข้ามาทำงาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กำหนดไว้อย่างเป็นพิเศษ

2. วีซ่าสำหรับแรงงานทักษะต่ำ (non-professional visa)

  • E-8 คือ วีซ่าสำหรับผู้ที่ทำงานด้านการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยวพืชผล การแปรรูป การแปรรูปอาหารทะเล โดยได้รับการรับรองจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
  • E-9 คือ วีซ่าสำหรับผู้ที่ทำงานภาคการผลิต ภาคการก่อสร้าง ภาคการเกษตร ภาคการประมง และภาคการบริการ
  • E-10 คือ วีซ่าสำหรับแรงงานคนประจำเรือ/กะลาสีเรือ

เกาหลีขาดแรงงาน – วีซ่าอะไรที่รับคนไทยจำนวนมาก ?

เกาหลีใต้กำลังกลายเป็น “สังคมผู้สูงอายุ” ทำให้สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของเกาหลีใต้ขาดแคลนแรงงานฝีมือและแรงงานไร้ฝีมือ นอกจากนั้น ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในกิจการเหล่านี้เกิดจากค่านิยมของคนเกาหลีใต้ ที่นิยมทำงานในกิจการขนาดใหญ่ หรือกิจการที่มีเทคโนโลยีสูง และไม่อยากทำงานประเภท 3D คือ งานยากลำบาก (difficult) งานเกี่ยวข้องกับความสกปรก (dirty) และงานเสี่ยงอันตราย (dangerous)

อีกทั้งค่าจ้างแรงงานในเกาหลีใต้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุจูงใจให้แรงงานต่างชาติหลั่งไหลเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้วีซ่าสำหรับแรงงานทักษะต่ำ (E7 ถึง E 10) เป็นช่องทางสำคัญที่คนไทยจำนวนมากจะใช้เพื่อไปทำงานในเกาหลีใต้ได้

ที่ผ่านมาเกาหลีมีความต้องการแรงงานต่างชาติ เพื่อทำงานประเภท 3D จำนวนมาก ประมาณ 360,000 คน สำหรับแรงงานไทยได้รับอนุมัติผ่านวีซ่า 2 ประเภท คือ วีซ่า E-7 สำหรับแรงงานทักษะพวกช่างเชื่อมที่มีประสบการณ์และมีประกาศนียบัตรรับรองด้านการศึกษา โดยกำหนดให้จัดส่งโดยบริษัทจัดหางานภาคเอกชน

และวีซ่า E-9 สำหรับแรงงานภาคการผลิต ภาคการก่อสร้าง ภาคการเกษตร และภาคการประมง ผ่านระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) ซึ่งกำหนดให้กรมการจัดหางานเป็นหน่วยงานผู้ทำหน้าที่รับสมัคร คัดเลือก และจัดส่งคนหางานไทยไปทำงาน ปี 2566 ได้ได้โควตาการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ ผ่านวีซ่า E-9 เพิ่มจากปีละ 2,500 คน เป็น 5,000 คน

ทั้งนี้ ทั้ง 2 วีซ่า ให้เฉพาะคนที่ผ่านการสอบ EPS-TOPIK ซึ่งเป็นข้อสอบวัดระดับภาษาเกาหลีสำหรับคนที่จะไปทำงานในเกาหลีโดยเฉพาะ

ไทย-เกาหลี MOU วีซ่า E8

ครั้งแรก ไทยได้วีซ่า E-8

นายสุชาติ กล่าวว่า เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานและพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรในเกาหลี และเป็นการเปิดตลาดอีกประเภทให้กับแรงงานไทย จึงได้เกิดการลงนามบันทึกความเข้าใจ ด้านการจัดส่งแรงงานภาคเกษตรตามฤดูกาล ผ่านวีซ่า E-8 ซึ่งดำเนินการภายใต้กระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐเกาหลี

“สืบเนื่องจากช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2565 ที่ผมได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานเยือนสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อเจรจาขยายตลาดแรงงานไทย ซึ่งบรรยากาศระหว่างกันเต็มไปด้วยไมตรีจิต ทางการเกาหลีตอบรับเป็นอย่างดี จึงหารือร่วมกันมาโดยตลอด เพื่อขจัดปัญหาและอุปสรรคจนนำมาสู่ความสำเร็จในการบรรลุข้อตกร่วมกันในวันนี้”

สำหรับสาระสำคัญของการลงนาม MOU มีดังนี้

  • ไทยและเกาหลีใต้จะร่วมกันขับเคลื่อนกระบวนการจัดส่งและรับแรงงานไทย เพื่อไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาล ณ อำเภอจินอัน จังหวัดซอลลาบุก สาธารณรัฐเกาหลี
  • มีการว่าจ้างบนหลักการพื้นฐานของความไว้วางใจและความเท่าเทียม และกำหนดมาตรการคุ้มครองแรงงานที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าแรงงานตามฤดูกาลได้รับสิทธิและผลประโยชน์ตามความเหมาะสม
  • สร้างการป้องกันและดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อต่อต้านการจัดส่งและรับแรงงานตามฤดูกาลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการจ้างแรงงานตามฤดูกาลอย่างผิดกฎหมาย
  • แก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตร ในอำเภอจินอัน จังหวัดซอลลาบุก สาธารณรัฐเกาหลี

“ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้เกาหลีใต้แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวได้ ส่วนฝ่ายไทยแรงงานเกษตรที่ว่างเว้นจากฤดูกาล หรือว่างงานในระหว่างรอถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวในแต่ละปี จะสามารถเคลื่อนย้ายไปประกอบอาชีพอื่น ๆ ชั่วคราว ช่วยให้เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเกิดประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่าย” นายสุชาติ กล่าว

ไทย-เกาหลี MOU วีซ่า E8

E-8 ไม่ต้องสอบภาษาเกาหลี – ไปซ้ำได้

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ข้อดีของแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานด้วยวีซ่า E-8 คือ ไม่ต้องทดสอบทักษะภาษาเกาหลี ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของแรงงานไทย และผู้ที่เคยเดินทางไปทำงานแล้วยังสามารถไปซ้ำได้ในปีถัดไป

หลังจากนี้อำเภอจินอันจะรวบรวมความต้องการจ้างแรงงานจากนายจ้าง ตรวจสอบเอกสาร เพื่ออนุญาตการจ้างแรงงานไทย ก่อนส่งหนังสือแจ้งความต้องการแรงงาน (demand letter) และสัญญาจ้าง (employment contract) ให้กรมการจัดหางาน (ฝ่ายไทย) เพื่อประกาศรับสมัครคนหางานต่อไป

ด้านนายชุนซอง จอน นายอําเภอจินอัน กล่าวว่า ขอขอบคุณฝ่ายไทย โดยกระทรวงแรงงาน ที่มาลงนาม MOU เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในเมืองจินอัน ทางเกาหลีใต้จะดูแลและให้ความคุ้มครองแรงงานไทยเป็นอย่างดี หากแรงงานคนใดอยู่ในระบบ “แรงงานซื่อสัตย์” จะให้เดินทางเข้ามาทำงาน แบบ re-entry ได้

ไทย-เกาหลี MOU วีซ่า E8

รับ 5 พันคนต่อปี รายได้ 5 หมื่นบาทขึ้นไป

เบื้องต้นทางการเกาหลีมีความต้องการจ้างแรงงาน ปีละไม่น้อยกว่า 5,000 คน เพื่อทำงานเพาะปลูก ปศุสัตว์ และประมง มีสัญญาจ้างไม่เกิน 5 เดือน รายได้มากกว่า 50,000 บาทต่อเดือน ซึ่งคาดว่าแรงงานไทยชุดแรกจะสามารถเดินทางไปทำงานได้ภายใน 1 เดือน

สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้น ต้องอายุ 25-45 ปี มีการขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรหรือมีประสบการณ์งานเกษตร 1 ปีขึ้นไป ไม่มีประวัติอาชญากรรม หรือประวัติพำนักผิดกฎหมายในสาธารณรัฐเกาหลี หรือถูกห้ามเดินทางเข้าสาธารณรัฐเกาหลี ไม่เป็นโรคติดต่อรวมไปถึงวัณโรค ไม่ติดยาเสพติด ไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้กำเนิดบุตรไม่เกินหนึ่งปีนับจากวันสมัคร