“เอไอเอส” บิ๊กเดย์ “กรีน พหลโยธิน” จับมือพันธมิตรรณรงค์ทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี

เอไอเอส สานต่อภารกิจ “ถ้าเราทุกคน คือเครือข่าย” จับมือพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน จัดกิจกรรม “กรีน พหลโยธิน” รณรงค์รับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) จากหน่วยงานและประชาชนตลอดเส้นถนนพหลโยธิน สร้างโมเดลต้นแบบเมืองสีเขียวที่สามารถคัดแยก และกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างถูกวิธี พร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทั่วไปสามารถนำโทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่มือถือ พาวเวอร์แบงก์ สายชาร์จ หูฟังที่ไม่ใช้แล้ว มาทิ้งได้ที่ถังขยะ E-Waste ที่เอไอเอสช็อป และศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลทั่วประเทศ

สำหรับกิจกรรม “กรีน พหลโยธิน” เป็นโครงการที่จัดขึ้นโดยการทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายกับองค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน บนถนนเส้นพหลโยธิน เพื่อจะร่วมกันรณรงค์ ผลักดันให้เกิดการคัดแยก และการทิ้งขยะ E-Waste อย่างถูกวิธีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยมี ผู้บริหารระดับสูง และพนักงาน นำโดย “สมชัย เลิศสุทธิวงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอส พร้อมด้วย 2 พรีเซนเตอร์สุดฮอตอย่าง “มิว นิษฐา” และ “ทอม อิศรา” ร่วมเดินรณรงค์ให้ความรู้ และรับขยะ E-Waste จากประชาชน โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเขตพญาไทที่เป็นกำลังสำคัญในเครือข่ายความร่วมมือครั้งนี้

“นัฐิยา พัวพงศกร” หัวหน้าส่วนงานพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสในฐานะ Digital Life Service Provider ที่นอกจากจะนำเอาเทคโนโลยีมาสร้างประโยชน์ให้แก่คนไทยทุกเจเนอเรชั่นแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่างๆ รวมถึงการร่วมดูแลรับผิดชอบสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อให้พัฒนาและเติบโตไปพร้อมๆ กัน

และในปีนี้เอไอเอสจึงได้ประกาศภารกิจ Mission Green 2020 ที่มีเป้าหมายในการดูแลและเอาใจใส่สิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ E-Waste จากทั่วประเทศจำนวนกว่า 1 แสนชิ้น เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จำนวน 1 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนสมมูลย์

ทั้งนั้น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่คนทั่วทั้งโลกตระหนักถึง และพยายามหาทางแก้ไข เพราะขยะประเภทนี้หากไม่ได้กำจัด หรือทำลายอย่างถูกวิธีจะก่อให้เกิดมลภาวะ และส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ด้วยเหตุนี้เอง เอไอเอส ที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมดิจิทัลโดยตรง

เราจึงมุ่งมั่นในการสร้างองค์ความรู้เรื่องขยะ E-Waste แก่คนไทย พร้อมอาสาเป็นตัวกลางในการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ E-Waste ไปกำจัดอย่างถูกวิธี ด้วยกระบวนการ Zero landfill (กระบวนการจัดการขยะ ทำให้นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ให้เกิดมูลค่าได้อีกครั้ง) โดยเอไอเอสได้ตั้งจุดรับขยะ E-Waste ให้บริการประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อาทิ AIS Shop ทั่วประเทศ และศูนย์การค้า CPN สามารถดูพื้นที่จุดรับขยะ E-Waste ซึ่งสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ewastethailand.com

ด้าน “สินธุ์ชัย บุญปักษ์” ผู้อำนวยการเขตพญาไท กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานที่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเมืองให้สดใส ประชาชนปลอดภัย ซึ่งเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดจากขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นอันดับต้นๆ และปัจจุบันถือได้ว่าเป็นภัยใกล้ตัว และทุกคนต่างผลิตขยะอันตรายเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากรายงานในปี 2561 ของกรมควบคุมมลพิษระบุว่า คนไทยทิ้งขยะอันตรายมากกว่า 638,000 ตัน ซึ่งขยะส่วนใหญ่เป็นซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์สูงถึง 65% ขณะที่ขยะทั้งหมดได้รับการจัดการอย่างถูกวิธีเพียงไม่กี่ตันเท่านั้น ดังนั้นทางสำนักงานเขตจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่จะร่วมมือกับเอไอเอส และทุกภาคส่วนในการลุกขึ้นจัดการกับปัญหานี้ เพื่อจะพัฒนาเขตพญาไทให้เป็นต้นแบบเมืองสีเขียวที่สามารถจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างถูกวิธี ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”

ถึงตรงนี้ “นัฐิยา” บอกว่า กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากองค์กร ประชาชน ในการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนมาก ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างพลังจากเครือข่ายในการบริหารจัดการปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตส่วนรวมของสังคม

เอไอเอสยินดีที่จะเป็นตัวกลางสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ดีๆ แบบนี้ขึ้นทั่วประเทศ เพื่อจะร่วมสร้างไทยให้เป็นประเทศที่สามารถกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างถูกวิธีและยั่งยืนต่อไป