ก.แรงงาน ชวนเอกชนจ้างงานผู้พิการ ม.35 แทนการส่งเงินเข้ากองทุน

ภาพประกอบข่าว : Kim Hong-Ji/Reuters

กระทรวงแรงงานชวนนายจ้างเปลี่ยนมาให้สิทธิตามมาตรา 35 จ้างผู้พิการแทนการส่งเงินเข้ากองทุน โดยปี 2565 มีภาคเอกชนร่วมโครงการ 181 บริษัท จ้างผู้พิการแล้ว 1,400 คน

วันที่ 21 มกราคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมการจัดหางาน (กกจ.) จัดทำโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ประเภทจ้างเหมาบริการ เพื่อเชิญชวนนายจ้าง/สถานประกอบการที่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 ให้สิทธิแก่คนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35

โดยจ้างงานคนพิการเป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุน ในหน่วยบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ใกล้บ้าน มีเป้าหมายการจ้างงานคนพิการเชิงสังคมปี 2565 จำนวน 1,000 คน และเตรียมขยายการมีงานทำให้คนพิการ มีงานและรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 20% ภายใน 4 ปี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศอย่าง “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

กระทรวงแรงงานพร้อมสนองต่อนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม จึงเน้นสร้างโอกาสแก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง/คนพิการ เพื่อให้มีหลักประกันทางสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

“การจ้างงานคนพิการเป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนในหน่วยบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนใกล้บ้าน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการ ศูนย์บริการคนพิการของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล จะช่วยให้คนพิการในพื้นที่ห่างไกล ได้รับโอกาสมีอาชีพ มีงานทำอย่างทั่วถึง สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป

มีภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 181 แห่ง อาทิ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ บมจ.แคล – คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) สาขาเพชรบุรีและสาขาสมุทรสาคร กลุ่มบริษัท อเด็กโก้ ประเทศไทย และบริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ (ประเทศไทย) จำกัด โดยได้ให้สิทธิคนพิการตามโครงการส่งเสริมจ้างงานคนพิการเชิงสังคมในปีนี้ถึง 1,400 คน เพิ่มจากเป้าหมายร้อยละ 40 ก่อให้เกิดรายได้ 159,943,425 บาทต่อปี”

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานมีภารกิจในการส่งเสริมการมีงานทำให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มที่ต้องการมีงานทำทั้งนักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ และคนพิการ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การส่งเสริมให้กลุ่มคนพิการที่มีทั้งศักยภาพ และความต้องการที่จะทำงานเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ

“กรมการจัดหางานรับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานลงพื้นที่ชักชวนนายจ้างหรือสถานประกอบการ ที่ใช้สิทธิตามมาตรา 34 ในการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เปลี่ยนมาให้สิทธิตามมาตรา 35 ประเภทจ้างเหมาบริการ เพื่อสร้างโอกาสให้คนพิการมีงานทำ และได้รับรายได้จากการทำงานโดยตรง

โดยมีผู้พิการที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 1,400 คน ส่วนใหญ่ เป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว หรือทางร่างกาย การได้ยินหรือสื่อความหมาย ทางสติปัญญา ทางการมองเห็น และทางการเรียนรู้ ตามลำดับ ได้ทำงานในตำแหน่ง พนักงานธุรการทั่วไป พนักงานทำความสะอาด คนสวน เป็นต้น ทั้งนี้ หน่วยบริการสาธารณะ 3 อันดับแรกที่มีความพร้อมรับคนพิการเข้าปฏิบัติงาน ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล และโรงเรียน ตามลำดับ”