สปส. เตือนนายจ้างแจ้งเข้า-ออกตามกำหนด ลดปัญหารับผลประโยชน์ช้า

ประกันสังคม

ประกันสังคมเตือนนายจ้างขึ้นทะเบียน-แจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ลดผลกระทบผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนล่าช้า

วันที่ 3 มีนาคม 2565 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีนายจ้างและสถานประกอบการหลายแห่งได้รับผลกระทบ ทำให้มีนายจ้าง/สถานประกอบการเป็นจำนวนมากแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนล่าช้าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

ทำให้ข้อมูลผู้ประกันตนซึ่งเป็นข้อมูลหลักในระบบฐานทะเบียนที่ใช้ปฏิบัติงานไม่ถูกต้อง และไม่เป็นปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนล่าช้า หรือได้รับประโยชน์ทดแทนเกินสิทธิ สำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลเกินจริง

โดยตัวเลขช่วงระหว่างเดือน มกราคม-กันยายน 2564 มีนายจ้างและสถานประกอบการแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนล่าช้า จำนวน 113,595 ครั้ง เป็นจำนวนผู้ประกันตนจำนวน 375,031 ราย แบ่งเป็น สถานประกอบการที่ไม่ใช่ส่วนราชการ จำนวน 106,234 ครั้ง ผู้ประกันตนจำนวน 355,842 ราย และสถานประกอบการที่เป็นส่วนราชการ จำนวน 7,361 ครั้ง ผู้ประกันตนจำนวน 19,189 ราย

ดังนั้น เพื่อเป็นการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าว สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้มีแนวทางมาตรการเข้มงวดกับนายจ้างที่ไม่ได้แจ้งขึ้นทะเบียน และแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน โดยออกหนังสือเชิญพบเพื่อชี้แจงให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด หากพบนายจ้างมีเจตนายังหลีกเลี่ยง จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Advertisment

นายบุญสงค์กล่าวย้ำว่า หน้าที่ของนายจ้างตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ได้กำหนดให้นายจ้างที่มีลูกจ้างทำงานในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03) โดยนายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นแบบได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ และสำหรับนายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นแบบขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา ที่สถานประกอบการตั้งอยู่

นายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนภายใน 30 วัน นับจากวันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน กรณีที่มีลูกจ้างลาออกจากงาน ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09) พร้อมระบุสาเหตุการออกจากงาน หรือกรณีที่ผู้ประกันตนเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน (สปส.6-10) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ นายจ้างสามารถทำธุรกรรมงานทะเบียนผู้ประกันตนผ่านระบบ e-service ได้ที่ www.sso.go.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สาขา/จังหวัด/ทั่วประเทศ หรือที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง