หมอค้านแผน คนไทยใช้สิทธิ์บัตรทองได้ทุก รพ.ของ “อนุทิน”

บัตรทอง

กรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในงาน BREC MEETING ร่วมตอกย้ำความสำคัญ หลักประกันสุขภาพคนไทย วานนี้ (17 ส.ค.63) ระบุว่า กำลังดำเนินการเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล ไม่ใช่เฉพาะโรงพยาบาลที่จดทะเบียนใช้สิทธิ์ ดังนี้

“สิ่งที่อยากเห็น คือ เมื่อผู้ป่วยไปรักษาที่ไหน ก็ต้องได้รับบริการตรงนั้นเลย ไม่ต้องมาแยกว่า จดทะเบียนโรงพยาบาลแถวบ้านต้องใช้สิทธิ์ตามนั้น ไม่ใช่อีกต่อไป ซึ่งต้องพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ โดยต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรมด้วยความรวดเร็ว เพราะเรื่องสุขภาพประชาชน จะรอไม่ได้ มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ และเชื่อว่า สปสช. ก็พยายามดำเนินการเรื่องนี้อยู่ แต่ผมทำให้เป็นนโยบาย จะได้มีความชัดเจนขึ้น นอกจากนั้น ผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทอง จะต้องไม่มีคำว่าอนาถา คนไทย ต้องได้รับการดูแลอย่างดีในระบบสาธารณสุขของไทย” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกรอบเวลาหรือไม่ที่ประชาชนจะได้ใช้สิทธิ์บัตรทองได้ทุก รพ. นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องทำให้รวดเร็ว สิ่งสำคัญ คือ ข้อมูล การเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ซึ่งเรื่องอื่นๆ อย่างเครือข่าย รพ.ต่างๆ ก็พร้อมหมดแล้ว ซึ่ง ท่านเลขาธิการ สปสช.ได้รับเรื่องไปแล้ว

เมื่อถามย้ำกรณีจากนี้ไปจะไม่มีผู้ป่วยอนาถาใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไม่มี คำว่าผู้ป่วยอนาถา ต้องไม่มี ความเหลื่อมล้ำไม่มี คนไทยจะอนาถาไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะยากดีมีจน

อนุทินพูดเรื่องบัตรทอง
แฟ้มภาพ

ความคืบหน้าล่าสุด ที่เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ซึ่งมีแอดมินเพจคือ นายแพทย์วิทวัส ศิริประชัย อดีตแพทย์ประจำโรงพยาบาลเกาะลันตา จ.กระบี่ ได้โพสต์ข้อความแสดงความไม่เห็นด้วย ดังนี้

อันนี้ไม่เห็นด้วย เพราะถ้าเราให้สิทธิคนไข้รักษาที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องรักษาที่ รพ. ที่ขึ้นทะเบียนบัตรทอง ที่เรากลัวคือพอให้รักษาที่ไหนก็ได้ คนจะแห่กันไป รพ ใหญ่ๆ กันหมด เพราะคนไข้เชื่อว่ารักษาที่ รพ. ใหญ่ๆ จะได้มาตรฐานการรักษาดีกว่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี เพราะคนไข้จะไปกระจุกกันที่ รพ. จังหวัด รพ. ศูนย์ แล้วงานมันจะโหลดหนักมาก จนหมอตรวจไม่ไหว

ระบบของเดิมที่ให้รักษาที่ รพ. ที่ขึ้นทะเบียน อันนั้นคือเพื่อกระจายๆ คนไข้ไปยัง รพ. ที่รักษาโรคนั้นไหวตามศักยภาพของ รพ. ที่ต้องทำ ไม่ใช่ให้รักษาที่ไหนก็ได้ (ยกเว้นสิทธิฉุกเฉิน UCEP อันนั้นรักษาที่ไหนก็ได้) แต่ให้ขั้นตอนการย้ายสิทธิมันง่ายขึ้น แบบที่ตอนนี้ สปสช ให้ย้ายสิทธิผ่านแอปมือถือได้ง่ายขึ้น แต่การให้รักษาใน รพ. ที่ขึ้นทะเบียนไว้ยังมีความจำเป็นอยู่ ไม่งั้นมั่วซั่วแน่

ยังไม่รวมถึงกรณีคนไข้ตระเวนเปลี่ยนหมอไปเรื่อยๆ มันเคยมีมาแล้ว แบบคนไข้ไปรักษาหมอที่นึง แล้วปรกติถ้าไม่หาย มันมีลำดับขึ้นว่าจะส่งตรวจหาโรคต่อไปยังไง ปรากฏคนไข้พอไม่หายก็คิดว่าหมอไม่เก่ง ย้ายไปรักษาที่อื่น พอไม่หายอีก ก็วนลูปไปเรื่อยๆ สุดท้ายกว่าจะรู้ว่าเป็นมะเร็งก็สายไปแล้ว

ระบบนี้ที่มากับสามสิบบาทแต่แรกเริ่ม คิดมารอบคอบดีแล้ว เราทำให้คนไข้ย้ายสิทธิได้สะดวกขึ้น แต่เรื่องการรักษาเขตที่ขึ้นทะเบียนไว้ ยังมีความจำเป็นอยู่ ที่สำคัญคือการพัฒนาระบบส่งต่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นมากกว่า และการทำฐานข้อมูลเวชระเบียนคนไข้ให้เชื่อมต่อกันได้ในเครือข่าย รพ. รัฐทั่วประเทศ ถ้าสามารถทำได้ ตอนนั้นเราจะทำให้คนไข้สะดวกขึ้นแบบมหาศาล โดยที่จะไม่เกิดเหตุคนไข้มากระจุกตัวกันใน รพ. ใหญ่ ๆจน

จ่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายอนุทิน
จากเพจ Drama-addict

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า ถ้าเข้าได้ทุก รพ. ต่อไปคนไข้ก็จะไม่ต้องผ่าน รพ.ชุนชม ปัญหาที่จะตามมา หากคนไข้มากมายจะตรงไป รพ. ใหญ่เลยโดยตรง

1. เตียงไม่พอ
2. คนไข้ได้รับการตรวจและรักษาช้ากว่าเดิม
3. หมอมีเวลาให้คนไข้แต่ละคนน้อยกว่าเดิม มีโอกาสเกิดความผิดพลาด ได้มากขึ้น
4. รพ. ขาดทุนมากขึ้น
5. ระบบสาสุข พังเร็วขึ้น
6. อนามัย / รพ.ชุมชน จะถูกยุบในอนาคต เพราะค่าใช้จ่าย ค่ายา ค่าบำรุงรักษา ไม่คุ้มงบประมาณที่จะจ่ายให้

เพจหมอบ่นไม่เห็นด้วยกับอนุทิน
จากเพจ หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor