ท้องฟ้าสีเทา : เรื่อง
ข่าวประกาศจัดคอนเสิร์ต Liam Gallagher Live in Bangkok เป็นหนึ่งความดีใจของคนฟังเพลงสากลในเมืองไทย เพราะมันจะเป็นการเติมเต็มฝันของใครหลายคน ทั้งคนที่เคยดูโอเอซิส (Oasis) ซึ่งโหยหาอดีตอันแสนมีสีสันที่ขาดช่วงไปนานกว่าสิบปีแล้ว และคนที่ยังไม่เคยดูการแสดงสดของโอเอซิส ซึ่งได้แต่รอคอยให้สองพี่น้อง โนล และ เลียม กัลลาเกอร์ คืนดีกันซะทีเถอะ
วันที่ 12 มกราคม 2561 คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเลียม กัลลาเกอร์ เกิดขึ้นที่ไบเทค บางนา …สร้างความประทับใจให้ใครหลายคน และสร้างความผิดหวังให้หลายคนเช่นกัน
เลียมเดินขึ้นมาบนเวทีในเวลา 21.20 น. ไม่พูดทักทายอะไร เปิดโชว์ด้วยเพลง Rock ‘N’ Roll Star หนึ่งในเพลงดังของโอเอซิส ที่พาคนดูอารมณ์พุ่งขึ้นสู่จุดเดือดในทันที ต่อเพลงที่สองอย่างอารมณ์ต่อเนื่องเดือดเกินร้อยขึ้นไปอีกในเพลง Morning Glory อีกหนึ่งเพลงมัน ๆ ของโอเอซิสที่คนดูกระโดดโลดเต้นเมามันกันแทบสติหลุด
จากนั้นลดดีกรีความมันลงมาหน่อยด้วย Greedy Soul อีกหนึ่งเพลงสนุกที่มากับเสน่ห์ตรงการออกเสียงกวน ๆ สไตล์เลี้ยมเลียมที่เป็นสีสันในอัลบั้ม As You Were ต่อด้วย Wall Of Glass แทร็กเปิดอัลบั้มจังหวะกลาง ๆ ที่สนุกเพลิน ๆ
แล้วก็มาเข้าสู่เซต 3 เพลงจากอัลบั้ม As You Were เริ่มด้วยเพลงช้า ๆ Paper Crown ตามด้วย Bold และต่อด้วย For What It’s Worth เพลงช้าเพราะ ๆ ซึ่งเป็นเพลงจากอัลบั้มเดี่ยวของเลียมที่แฟน ๆ ร้องได้เสียงดังที่สุด
ตามมาด้วย Soul Love ของวงบีดีอาย (Beady Eye) เพลงจังหวะเรื่อย ๆ ซาวนด์แตกต่างจากเพลงอื่น ๆ ซึ่งโผล่มาในโชว์แบบเซอร์ไพรส์คนดู เพราะเซ็ตลิสต์ที่อื่นก่อนหน้านี้ไม่มีเพลงนี้อยู่ในโชว์ ก็ไม่รู้ว่าแฟน ๆ จะดีใจหรือเปล่าที่ได้ดู เพราะเท่าที่เห็นคนดูร่ำร้องอยากดูแต่เพลงโอเอซิส
ผ่านไปกว่าครึ่งทาง (ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าครึ่งทางแล้ว) และผ่านช่วงเนือย ๆ กลับมาสนุกคึกคักกันอีกครั้งในเพลง Some Might Say และ Slide Away สองเพลงของโอเอซิสที่แฟน ๆ ร้องกันเสียงดัง สลับไปที่สองเพลงผลงานเดี่ยว Come Back To Me กับ You Better Run แล้วกลับไปที่ผลงานของโอเอซิสอีกครั้งที่เพลงสนุกอารมณ์ดี Be Here Now แม้ว่าอารมณ์นักร้องไม่ได้ดีเหมือนอารมณ์เพลง
แล้วเข้าสู่ความมันที่สุดของโชว์ในเพลง Cigarettes And Alcohol ช่วงนี้แฟน ๆ คาดหวังว่าจะได้ดู Live Forever แต่พอจบเพลงและจะขึ้นเพลงใหม่ เลียมก็บอกว่า “เพลงนี้ชื่อว่า Wonderwall” สุดยอดเพลงฮิตของโอเอซิสเพลงนี้เป็นเพลงที่คนดูร้องกันเสียงดังที่สุดในคอนเสิร์ต
จบเพลง Wonderwall เลียมก็ลงจากเวทีไป ส่วนแฟน ๆ ยังยืนอยู่ต่อตะโกนอังกอร์กันหลายนาที ก่อนจะมีเสียงเพลงซึ่งไม่ใช่เสียงของเลียมดังขึ้น และไฟในฮอลสว่างขึ้น เป็นการบอกว่า คอนเสิร์ตจบแล้วจริง ๆ กลับบ้านกันเถอะ
สิ่งที่เป็นข้อดีของคอนเสิร์ตนี้คือ เลียมยังร้องเพลงได้ดี เป็นคอนเสิร์ตที่โชว์สนุกมากคอนเสิร์ตหนึ่ง และเซตลิสต์ดี เลียมเลือกเพลงมาดี เขาเลือกเพลงจากอัลบั้มเดี่ยว As You Were มาโชว์ 7 เพลง เท่ากันกับเพลงโอเอซิส และอีกหนึ่งเพลงของบีดีอาย
เพลงจากอัลบั้ม As You Were เป็นเพลงสนุก 4 เพลง กลาง ๆ 1 เพลง และช้า 2 เพลง ส่วนเพลงของโอเอซิส 6 ใน 7 เป็นเพลงเร็วที่ทำหน้าที่สร้างความสนุกให้คนดูได้เป็นอย่างดี และอีก 1 เป็นเพลงฮิตสุด ๆ ซึ่งเป็นเพลงอำลาที่ทำหน้าที่ของมันได้สมบูรณ์แบบ
ในข้อดีของเซตลิสต์มีที่ตินิดหน่อย ตรงเพลง Bold ที่อยู่ผิดที่ไปหน่อย เพราะดันมาคั่นกลางระหว่างสองเพลงช้า Paper Crown กับ For What It’s Worth ที่ควรจะเล่นต่อกันให้อารมณ์ต่อเนื่องไป ถ้าเอา Bold ไว้หลังสองเพลงนี้น่าจะดีกว่า เพราะด้วยจังหวะที่เริ่มจากช้าแล้วค่อย ๆ เร่งขึ้นไปสู่จังหวะกลาง น่าจะเชื่อมร้อยกับเพลงสนุก ๆ ได้สบาย
ส่วนสิ่งที่เป็นข้อเสีย และก่อให้เกิดกระแสดรามาตามมาคือ เลียมถูกวิจารณ์ว่าแสดงคอนเสิร์ตสั้นเกินไป ไม่คุ้มกับราคาบัตร และเขาออกอาการหัวเสียบนเวที แสดงกริยาอาการไม่ดีกับคนดู มีการเดากันว่าการที่เลียมอารมณ์เสียเป็นเหตุที่ทำให้เขาตัดเพลงฮิต Live Forever ออกไป ซึ่งคนดูจำนวนมากบอกว่าการไม่มี Live Forever และเวลาการแสดงที่สั้นมากทำให้คอนเสิร์ตไปไม่ถึงจุดพีก
เลียมใช้เวลาแสดงประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 7 นาที ถ้ามองในแง่เวลา ถือว่าน้อย แต่ก็น่าจะให้ความเป็นธรรมกับศิลปินด้วยตรงที่จำนวนเพลงที่แสดง 15 เพลง อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ก็ไม่ได้ถือว่าน้อยเกินไป หลายคอนเสิร์ตก็แสดงประมาณ 15-17 เพลง อีกทั้งตลอดการโชว์ก็เป็นโชว์ที่สนุก การแสดงของเลียมไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐานเลย
ช่วงสาย ๆ วันต่อมา เลียมก็เฉลยให้แฟน ๆ เข้าใจ โดยการทวีตขอบคุณคนดู และขอโทษที่หัวเสียเพราะซาวนด์ในคอนเสิร์ตห่วย
นอกจากการวิจารณ์ตัวศิลปิน ก็มีการวิจารณ์พฤติกรรมผู้ชมที่ไม่มีมารยาททำให้บรรยากาศแย่ รวมถึงวิจารณ์ผู้จัดในเรื่องการจัดการและความพร้อมต่าง ๆ ที่ต้องปรับปรุงหลายจุด
โดยส่วนตัวคิดว่า ต่อให้ไม่มีประเด็นซาวนด์แย่ ไม่มีประเด็นพฤติกรรมคนดูที่ทำให้เลียมอารมณ์เสีย คอนเสิร์ตนี้ก็ไม่น่าจะผ่านไปแบบราบเรียบอยู่ดี เพราะเลียมมีทัศนคติว่า ร็อกสตาร์ต้องทำอะไรพัง ๆ ฉิบหายวายป่วงเข้าไว้ ต้องมีเรื่องมีราวไม่มากก็น้อยพอให้เป็นเสน่ห์ เดาว่าถ้าไม่หงุดหงิดเรื่องหนึ่งก็ต้องหงุดหงิดอีกเรื่องหนึ่ง หรือต่อให้ไม่หงุดหงิดอะไรเลย ก็คงไม่ได้แสดงความอารมณ์ดีอะไรมากมาย สิ่งที่จะดีกว่านี้คือเพลง Live Forever จะไม่โดนตัดออกจากโชว์แค่นั้น
เลียมก็คือเลียม ที่แฟนโอเอซิสน่าจะรู้พิษสงของเขาดี และคอนเสิร์ตนี้ก็สนุกแบบพัง ๆ ตามสไตล์ Rock ‘N’ Roll Star ที่เลียมยึดมั่นมาตลอดนั่นแหละ
ผู้เขียนลองนึกภาพคอนเสิร์ตเลียมที่ผ่านไปแบบสนุกราบเรียบ เลียมอารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยเยอะ ๆ อย่างสุภาพ แล้วถามตัวเอง เราจะชอบเลียมในแบบที่ไม่ใช่เลียมคนเดิมหรือเปล่า ? และได้คำตอบในใจแล้ว …