โฆษกศาลยัน พิจารณาคดีเป็นกลาง-อิสระ เหตุวิวาทพ่อแม่ “ไวท์ ณวัชร์”

ไวท์ ณวัชร์
ภาพจาก อินสตาแกรม @ww.nawat

ปมคู่กรณีต่อยพ่อ-ตบหน้าแม่ “ไวท์ ณวัชร์” บนถนน อ้างตัวว่าเป็นลูกตุลาการศาล โฆษกศาลยืนยัน ไม่มีบุคลากรใช้ตำแหน่งโดยมิชอบได้ ศาลยุติธรรมพิจารณาคดีด้วยความเป็นกลางด้วยความเท่าเทียมและเป็นธรรม

วันที่ 3 สิงหาคม 2564 กรณีนายสุรศักดิ์ พุ่มโพธิงาม อายุ 58 ปี พ่อของนักแสดงหนุ่ม “ไวท์ ณวัชร์” ถูกชายคู่กรณีทำร้ายร่างกายด้วยการต่อย และตบหน้าภรรยา หลังเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน บนถนนราชพฤกษ์ ในพื้นที่ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ประเด็นนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโซเชียล กรณีที่มีการอ้างว่า คู่กรณีที่ทำร้ายร่างกายพ่อและแม่ของนักแสดงหนุ่ม เป็นลูกคนใหญ่คนโต ซึ่งเป็นบุคลากรศาลยุติธรรม

ต่อเรื่องนี้ ข่าวสด รายงานว่า นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า กรณีวิวาททำร้ายร่างกายบริเวณถนนราชพฤกษ์ ที่มีการกล่าวอ้างว่าคู่กรณีเป็นลูกของบุคลากรศาลยุติธรรมนั้น เมื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคลและมีหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินคดีตามกฎหมายในเรื่องนี้ศาลยุติธรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดและจะไม่มีบุคลากรคนใดใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบได้ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

โดยศาลยุติธรรมพิจารณาพิพากษาคดีด้วยความเป็นกลางอย่างอิสระ ไม่ว่าคู่ความจะเป็นใครต้องได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ยืนหยัดบนความถูกต้อง

ภาพจาก ข่าวสด

คู่กรณีเคยทำร้ายพนักงาน

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ข่าวสด รายงานว่า ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม นักแสดงหนุ่ม โพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์ที่พ่อแม่ถูกรถยนตร์ขับปาดหน้า แล้วคู่กรณีพยายามชักชวนให้เกิดการทะเลาะวิวาท โยนกระเป๋าและกุญแจรถตกสะพาน สร้างความวุ่นวายแล้วขับรถหนีไป โดยในส่วนหนึ่งของข้อความนั้น ระบุว่า

“ขอขอบคุณคนที่ช่วยหากุญแจรถและกระเป๋าของพ่อแม่ผมด้วยนะครับ และรวมถึงคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคน, พี่แท็กซี่ที่ส่งหลักฐานเพิ่มเติมมาให้และพร้อมจะเป็นพยานให้ อีกทั้ง ปั๊ม ปตท. ที่ช่วยเหลืออีกทางในการหาทะเบียนรถคู่กรณี ตอนนี้ผมได้ทราบแล้วว่าคู่กรณีเป็นใคร พอผมทราบ ผมจึงรู้ว่า ทางคู่กรณีเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายพนักงาน ผู้หญิงร้านไอโฟนมาแล้วที่ห้างดังห้างนึง เมื่อ 2 ปีก่อน”

ตำรวจบอก อย่าเพิ่งออกสื่อ

วันที่ 2 สิงหาคม 2564 ข่าวสด รายงานว่า ครอบครัวของไวท์ ณวัชร์ ได้เดินทางไปร่วมรายการโหนกระแสเพื่อเปิดเผยเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุ ซึ่งในช่วงหนึ่งของรายการ นายสุรศักดิ์ พ่อของไวท์ ได้เปิดเผยว่า ก่อนที่จะออกรายการเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์มาหาและบอกว่าอย่าเพิ่งออกสื่อ เพราะพ่อแม่คู่กรณีนั้นใหญ่โต มันไม่ถูก ยังทำสำนวนไม่เสร็จ

ซึ่งนายสุรศักดิ์ตอบว่า ตนเองไม่ได้พูดอะไรถึงพ่อแม่คู่กรณี เพียงแต่จะพูดถึงคู่กรณี เพราะตนเองเป็นฝ่ายเสียหาย เป็นฝ่ายโดนกระทำ ถ้าวันนั้นตายขึ้นมาจะทำอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบอกว่า แล้วแต่นะ ตำรวจเป็นกลางนะ ทางด้านหนุ่ม กรรชัย พิธีกรดำเนินรายการโหนกระแส ได้เปิดเผยว่า รายการติดต่อไปยังคู่กรณี แต่ได้รับแจ้งว่า จะไม่คุยกับใคร จะคุยกับตำรวจ อัยการ ที่ศาลเท่านั้น มึงไม่เกี่ยวอย่ามายุ่ง

ด้านไวท์เปิดเผยว่า คู่กรณีได้ส่งข้อความมาทางอินสตาแกรมของตน ว่า “มึงคิดว่าพ่อมึงถูกใช่มั้ย ไปคุยกันในศาล เดี๋ยวคุณก็รู้ หลักฐานไม่มีทาง เปลี่ยนความจริง เป็นดาราและอย่าโง่ เพราะเพื่อน ๆ กูก็รู้จักมึง ตอบกูดิ” ซึ่งทางหนุ่มไวท์ ไม่ได้ตอบโต้กลับไป ทำให้ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นสิ่งที่ชาวเน็ตจับตาดูทิศทางคดีอย่างใกล้ชิด