
กลุ่มควันเล็กๆ ที่ลอยขึ้นจากกระทะทองเหลือง พร้อมกับกลิ่นหอมเครื่องเทศแกงมัสมั่นที่กำจายออกไป ดึงดูดคนทั้งงานให้ชะเง้อชะแง้มองตาม
ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่วันสุดท้ายในการปฏิบัติหน้าที่ฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ปรุงเมนูท็อปลิสต์ระดับโลก อย่าง แกงมัสมั่นไก่ ตำรับวังยะหริ่ง พร้อมแจกจ่ายให้กับคณะผู้บริหารในกระทรวงได้ลองลิ้มชิมรสชาติที่ยืนหนึ่งมาโดยตลอด แม้กระทั่งบิ๊กอู๋เองที่ก็ยังยกนิ้วให้ ในงานส่งเสริมผู้ประกอบการอาหารไทย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต จ.นนทบุรี เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ
- กูรูตลาดทุน วิเคราะห์วิสัยทัศน์ตัวเต็ง รมว.คลัง “ไม่แย่ แต่ ไม่ใช่”
- ดวงรายสัปดาห์ 28 พฤษภาคม-3 มิถุนายน 2566
- บทสรุปพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022-23 อันดับ โควตายุโรป ทีมตกชั้น เลื่อนชั้น
เป็นอีกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน และภาคเอกชนอย่าง ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) และสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะให้พ่อครัวและแม่ครัวไทยประกอบอาหารที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีมาตรฐานเดียวกัน อันเป็นการส่งเสริมศักยภาพฝีมือคนไทย ต่อยอดการจ้างงาน สร้างอาชีพ เสริมรายได้ในช่วงเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลชุดใหม่
ผู้ประกอบการอาหาร กับตลาดแรงงานที่อ้าแขนรอ
พล.ต.อ.อดุลย์บอกว่า สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญประการหนึ่งคือ การพัฒนาครัวไทยสู่ครัวโลก เพราะนอกจากเราจะมีศักยภาพ ประเทศไทยยังเป็นแหล่งผลิตอาหารโลก มีรายการอาหารไทยขึ้นระดับโลกไม่เพียงมัสมั่น ยังมีแกงเขียวหวาน ผัดไทย สะเต๊ะ ฯลฯ
ผมเองเดินทางมาหลายประเทศ โดยเฉพาะที่อเมริกาได้รู้จักร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งที่รักษารสชาติอาหารไว้ แม้ว่าอาหารบางอย่างจะรสชาติออกเผ็ดสำหรับชาวต่างประเทศ แต่ก็ยังมีลูกค้าโดยเฉพาะดาราฮอลลีวู้ดเข้าคิวรอเป็นแถวยาว
รมว.กระทรวงแรงงานกล่าวอีกว่า งานส่งเสริมผู้ประกอบการอาหารไทย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” เป็นงานที่ตนเองมีความภาคภูมิใจ โดยได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนเศษที่ผ่านมาให้กระทรวงแรงงานไปดูไปสร้างให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการจ้างงาน และครั้งนี้เป็นเหมือนการประกาศศักดา เป็นความสำเร็จระดับหนึ่งในการส่งเสริมตลาดแรงงานด้านผู้ประกอบการอาหารไทย
“อาชีพผู้ประกอบการอาหารไทยเป็นตลาดแรงงานที่สำคัญและเปิดกว้างมาก ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานกรณีที่ไปทำงานในต่างประเทศจะมีรายได้เดือนละ 40,000-90,000 บาท”
ทั้งนี้ จากการสำรวจมีร้านอาหารไทยประมาณ 20,000 แห่งทั่วโลก ในประเทศไทยมีร้านอาหารประมาณ 200,000 กว่าร้าน ยังมีสถานทูตไทยทั้งสถานกงสุลที่ต้องการกุ๊กที่มีฝีมือด้านอาหารไทยไปทำงาน 168 แห่ง รวมทั้งบนเรือสำราญอีก 55 ลำ ถือเป็นตลาดแรงงานที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้ผมจึงนำนโยบายนี้มาขับเคลื่อนกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กับมติชน ว่าเราจะรักษามาตรฐานรสชาติอาหารไทย การปรุงที่ต้องได้มาตรฐานความปลอดภัย มีการเพิ่มเรื่องของการจัดโต๊ะเพื่อเสริมความรู้ในกรณีที่ต้องไปประกอบอาชีพในต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน โดยตั้งเป้าพัฒนาผู้ประกอบการอาหารไทยไม่ต่ำกว่า 15,700 คน
“วันนี้จึงถือเป็นการประกาศศักยภาพของอาหารไทย เป็นงานสุดท้ายที่ผมภูมิใจอยากเห็นพี่น้องไทยได้สร้างชื่อเสียงเป็นกุ๊กระดับโลกต่อไป” และว่า
“ปีที่ผ่านมาอัตราว่างงานน้อยมาก คือ 29 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 300,000 กว่าคน มีพี่น้องไปทำงานต่างประเทศกว่า 400,000 คน ส่งเงินกลับบ้านปีละ 40,000 ล้านบาทต่อปี ผมคิดว่าประเทศไทยในยุคนี้การจ้างงานของเรายกระดับขึ้นมากทีเดียว”

ทางด้าน จรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า นโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกเป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.อดุลย์ รมว.แรงงาน ให้ความสำคัญมาก ได้ปลุกปั้นมาตลอด วันนี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว อาหารไทยเป็นที่เชิดหน้าชูตาคนไทยมาตลอด โดยมีการสั่งสมกันมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย
สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือ เอกลักษณ์ของอาหารไทย วัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นการประกาศศักดาให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่า อาหารที่สั่งสมมาจากบรรพบุรุษเป็นร้อยๆ ปีจนมีเอกลักษณ์นั้นเป็นอย่างไร และให้รู้ว่าวันนี้การสร้างมาตรฐานอาหารไทยคืออะไร ซึ่งรวมไปถึงรสชาติและการจัดวางภาชนะ ช้อนส้อมบนโต๊ะอาหาร การเสิร์ฟ ฯลฯ
สารพันกิจกรรมดีดี อิ่มอร่อยกับเมนูเด็ดจากแดนไกล
ภายในงานนอกจากกิจกรรมบนเวที โดยมีการมอบเงินรางวัลและเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะการประกวดแข่งขัน แกงมัสมั่นไก่ จากงาน World Best Food Dish by CNN มอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานระดับ 1 ที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 400 คน ยังเชิญวิทยากรพิเศษเจ้าของเมนูมัสมั่นอันลือลั่น ตำรับวังยะหริ่ง โดย สุกัญญา หมั่นวิเศษ วิทยากรวัย 58 ปี จากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 24 ยะลา มาสำแดงฝีมือให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันคนละเล็กละน้อย
หลังจากประธานเปิดงาน ชั่วเวลาไม่ถึงชั่วโมงมัสมั่นไก่ก็หมดลงอย่างรวดเร็ว กระนั้นก็ยังคงมีว่าที่ลูกค้ามาเมียงๆ มองๆ ขอชิมน้ำแกงมัสมั่นที่เหลืออยู่จนแทบขอดกระทะ สุขใจกันทั้งผู้ชิมและผู้ปรุง


สุกัญญาเล่าถึงที่มาของสูตรลับแกงมัสมั่นไก่ว่า ได้มาจากวังยะหริ่ง ที่ปัตตานี โดยเมื่อยังเป็นเด็กน้อยเธอได้รับการอุปการะจาก นางขัตติยะ หาสาเมาะ ผู้ซึ่งเคยอยู่ในวังยะหริ่งช่วงเวลาหนึ่ง 10 ปีที่ต้องช่วยงานในครัว แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อเพราะอยากไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนบ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งในชีวิต เมื่อกระแสความนิยมอาหารพื้นเมืองมาเธอจึงเริ่มปัดฝุ่นความรู้เดิม และเป็นที่มาของ “แกงมัสมั่นไก่ ตำรับวังยะหริ่ง”
อีกหนึ่งกิจกรรมที่มีลูกค้าแวะเวียนเข้าไปเฝ้ารอเวลาจะได้ชิมตั้งแต่ก่อนเปิดงานคือ บูธสาธิตอาหารของเยาวชนที่กำลังเก็บตัวเตรียมเข้าร่วมการแข่งขัน World Skill Kazan2019 ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ในเดือนสิงหาคมนี้
ภูมินทร์ หิรัญสุนทร จากวิทยาลัยดุสิตธานี และ ภรรษมนต์ เมธีวัชรธนาพรณ์ จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา สองนักศึกษาตัวแทนประเทศไทย บอกว่างานนี้เนื่องจากมีโจทย์ให้ทำอาหารไทย จึงนำเอาคอนเซ็ปต์ของ “พะแนงไก่” มาออกแบบโดยใช้เทคนิคอาหารตะวันตก เสริมด้วย “กะหล่ำปลีน้ำปลา” ที่ใช้กะหล่ำปลีห่อด้วยไก่ปั่นกับครีมปั้นเป็นก้อนนึ่งให้สุกแล้วราดด้วยน้ำปลา ส่วนเมนูขนมหวานเป็น “ข้าวเหนียวมะม่วง”
ชั่วพริบตา เมนูคาว-หวานทั้ง 20 ชุด กับ 50 คำชวนชิมเล็กๆ ก็หมดลง

คึกคักสุด 15 คอร์สอบรม ฟรี มติชนอคาเดมีจัดให้
ที่ถือเป็นอีกไฮไลต์ของงานส่งเสริมผู้ประกอบการอาหารไทย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” คือ การอบรมการประกอบอาหารไทย 15 เมนู อาทิ หมูปิ้งชุบชีวิต สูตร อ.พนัส แย้มสกุล คุกกี้ข้าวโอ๊ต-พีนัทบัตเตอร์ สุดยอดน้ำยำ ซาลาเปาออมทรัพย์ สลัดโรล สมู๊ตตี้ ชานมไข่มุก ยำข้าวแหนมทอด ไส้กรอกอีสาน ข้าวเหนียวมูน อ.พเยาว์ ฯลฯ
อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นงานชุมนุมคนรักอาหารและการครัวอย่างแท้จริง หลายต่อหลายคนแม้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์จะเปิดร้านทำเป็นอาชีพเสริม แต่ก็สมัครเข้ามาตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้อย่างเต็มที่
บางคนถึงกับยอมลางานมาเพื่อการนี้ และมาได้เพื่อนกลุ่มใหม่ใจตรงกันในงาน เช่น “พี่เอ๋” อาชีพข้าราชการ ที่ให้สัมภาษณ์แต่ออกตัวไม่ขอออกนามบอกว่า ทันทีที่ทราบข่าวจากเพื่อนทางเฟซบุ๊กรีบตรงไปสมัครเข้ารับการอบรมพร้อมกับทำเรื่องลางานมาโดยเฉพาะ
“ตอนแรกจะเลือกลงคอร์สหมูปิ้ง แต่เต็มซะก่อน จึงเลือก ‘ข้าวหมูทอด’ บอกเลยว่าไม่เสียใจ เพราะเทคนิคและสิ่งที่วิทยากรสอนดีมาก และรสชาติที่ได้ชิมก็อร่อยมาก ติดตามเฟซบุ๊กมติชนอคาเดมีเป็นประจำ แต่ไม่มีโอกาสได้สมัครเรียน วันนี้มาคนเดียวแต่มาแอดเพื่อนสร้างกลุ่มไลน์ได้เป็นร้อยคน
มองว่าทุกวิชาเราควรจะได้รับความรู้จึงเดินเข้าไปทักทายกับทุกกลุ่มเพื่อว่าจะแลกเปลี่ยนความรู้กันในกลุ่มคนรักการทำอาหาร วันนี้เรายังมีอาชีพ แต่หลังเกษียณอาจจะได้ใช้เป็นอาชีพหลัก เพราะวิทยากรสอนดีบอกทุกอย่างแม้กระทั่งการเลือกซื้อข้าว ต้องขอบคุณจริงๆ โครงการดีๆ อย่างนี้ควรจะทำมากๆ รวมทั้งในต่างจังหวัดด้วยจะเป็นประโยชน์อย่างมาก”
เช่นเดียวกับ สุขุม คงคารัตน์ พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเรือที่ตลาดน้ำวัดไทร วัย 57 ปี เป็นผู้เข้าอบรมสาธิตการทำอาหารที่แม้จะลงคอร์สหมูปิ้งชุบชีวิต แต่ใช้เวลาว่างทุกขณะในการเก็บเกี่ยวความรู้จากวิทยากรท่านอื่นๆ ด้วยความสนใจ
สุขุมเล่าว่า ทีแรกมาเป็นเพื่อนภรรยาที่มาลงคอร์สสมู๊ตตี้ แล้วถือโอกาสลงเรียนด้วย เผื่อว่าจะทำเป็นอาชีพเสริมได้


“วิทยากรสอนครบ ถ้าให้คะแนนเต็มสิบผมให้มากกว่า 8 พึงพอใจเลยครับ วิชาชีพเหล่านี้รู้ไว้ใช่ว่า เมื่อมีโอกาสจะได้ใช้ ระหว่างที่วิทยากรหมักหมูผมจึงเดินเก็บความรู้จากกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ ผมเองเป็นคนทำอาหารอยู่แล้ว โดยเฉพาะขนมผมทำเป็นตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่บางอย่าง เช่น ซาลาเปา เราไม่มีความรู้ก็จะไปยืนดูยืนฟังก็จะพอเข้าใจ” สุขุมบอกพร้อมกับรอยยิ้ม
ในภาคบ่ายหลังจากผู้เข้าร่วมอบรมการประกอบอาหารทั้ง 15 เมนู รับเกียรติบัตรผ่านการอบรมแล้ว ต่างแยกย้ายกลับด้วยความสุขใจ กับโครงการดีๆ ส่วนหนึ่งของการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานไทย โดยเฉพาะด้านผู้ประกอบการอาหารไทย ที่ตลาดยังเปิดอีกกว้าง