Suki Masa สุกี้สไตล์คันไซ ชิมแล้วติดใจจนนึกอยากกินซ้ำๆ

สุกี้ หรือสุกียากี้ หนึ่งในอาหารยอดนิยมของชาวเอเชียที่คนไทยคุ้นเคยกันดี หากินได้ง่าย มีทุกระดับ ตั้งแต่ร้านสุกี้ราคาแพง ร้านเชนใหญ่ที่มีอยู่ในแทบทุกห้าง ร้านอาหารตามสั่งในโรงอาหาร หรือร้านอาหารข้างทางแต่ถ้าไปดูในรายละเอียดจริง ๆ สุกี้นั้นก็ยังมีแยกสไตล์ย่อยลงไป ซึ่งสุกี้แบบที่คนไทยเราคุ้นเคยกันนั้นจะเป็นสุกี้ญี่ปุ่นสไตล์คันโต ส่วนสุกี้ญี่ปุ่นอีกสไตล์ที่ไม่ค่อยมีในไทยก็คือ สไตล์คันไซ

สุกี้มาสะ (Suki Masa) ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นร้านแรก ๆ ที่ชูความเป็นร้านสุกี้สไตล์คันไซ เข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบทานสุกี้แบบญี่ปุ่น ซึ่งทีมงาน “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” ได้ไปชิมมาแล้ว และเมื่อเจอของดีก็อยากมาแนะนำบอกต่อกันไป

ก่อนที่เราจะได้ชิมสุกี้อร่อย ๆ เก๋-ศริสา นฤปกรณ์ เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่า สุกี้คันไซแตกต่างจากสุกี้สไตล์อื่นตรงที่มีลักษณะเป็นสุกี้ผัดคลุกเคล้ากับซอสบนกระทะพอขลุกขลิก กรรมวิธีการกินสุกี้สไตล์คันไซแบบดั้งเดิม คือ นำเครื่องปรุงสามอย่าง ประกอบด้วย น้ำตาล สาเก และโชยุ ลงไปผสมกันบนกระทะที่ไฟร้อนแล้วคนส่วนผสมไประยะหนึ่งจนน้ำตาลละลายและเคี่ยวเข้ากันเป็นซอสข้น ๆ แล้วจึงนำเนื้อลงไปผัด ตามด้วยผักและเส้น พอได้ระดับความสุกที่ต้องการแล้วก็กินได้เลย แต่คนญี่ปุ่นนิยมนำเนื้อจากกระทะร้อน ๆ มาชุบไข่สดก่อนกินเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อย

ในเวลาต่อมา มีการดัดแปลงเพื่อให้กรรมวิธีการกินง่ายขึ้น โดยนำส่วนผสมทั้ง 3 ผสมกันเป็นน้ำซอสที่เรียกว่า “วาริชิตะซอส” แล้วใช้ซอสตัวนี้เทลงบนกระทะแทนการให้ส่วนผสมทั้งสามมาผสมเองบนกระทะ นอกจากจะทำให้กินง่ายขึ้น ยังเป็นการควบคุมรสชาติของน้ำซอสให้เสถียรด้วย เพราะถ้าให้คนกินผสมเอง บางคนอาจจะใส่หวานหรือเค็มเกินไป อาจจะได้สุกี้ที่รสชาติไม่อร่อย

ให้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาชิมลิ้มรสชาติอาหารของร้านสุกี้ที่เพิ่งเปิดใหม่ แต่ประสบการณ์และคุณภาพไม่น้อยแน่นอน เพราะเจ้าของร้านนี้ทำร้านซูชิมาสะ (Sushi Masa) มาก่อน และยังเคยไปเรียนทำอาหารที่ญี่ปุ่น รวมถึงได้สูตรมาจากเซ็นเซชาวโอซากา-เป็นคนภูมิภาคคันไซตัวจริงเลยด้วย

ที่ร้านมีเนื้อสัตว์ให้เลือกทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อแกะ และซีฟู้ด ในส่วนเนื้อวัวที่เป็นพระเอกของร้านนั้น เจ้าของร้านบอกว่า คัดเลือกเนื้อวากิวเกรดพรีเมี่ยมมาจากแถบตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลว่ารสชาติความเป็นเนื้ออร่อยพอเหมาะ มีไขมันกำลังดี ไม่มันเกินไปเหมือนเนื้อจากทางเหนือ

เจ้าของร้านแนะนำให้ชิม 3 เมนู โดยเลือกเนื้อสัตว์ตามความนิยมของชาวญี่ปุ่น คือ สุกี้เนื้อ ชาบูหมู ส่วนซีฟู้ดแนะนำให้กินเป็นนาเบะน้ำซุปกิมจิ ซึ่งแต่ละอย่างที่แนะนำมานั้นก็เข้ากันดีสุด ๆ

ไฮไลต์ของร้านแน่นอนต้องอยู่ที่ สุกี้สไตล์คันไซ เมื่อกระทะร้อนได้ที่ พนักงานก็จะเทน้ำซอสวาริชิตะลงไปเพียงเล็กน้อย แล้ววางหอมใหญ่ลงไปพร้อมกับเนื้อ เมื่อเนื้อสุกแล้วก็นำออกจากกระทะแล้วก็เอาผักและเส้นบุกลงไปผัดต่อ เนื้อวากิวที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีส่งกลิ่นหอมโชยเตะจมูกตั้งแต่อยู่บนกระทะ พอคีบเข้าปากแล้วบอกได้เลยว่า ดีมาก เนื้อดีด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว ยิ่งบวกกับรสชาติเค็มหวานเข้มข้นของน้ำซอสวาริชิตะแล้วก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก แม้ว่าร้านได้เตรียมเครื่องปรุงน้ำจิ้มไว้เผื่อสำหรับคนไทยด้วย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เลย เพราะรสชาติดีอยู่แล้ว

ถัดมาหม้อที่สอง คือ ซีฟู้ดนาเบะ หม้อไฟน้ำซุปกิมจิรสชาติเข้มข้น กับซีฟู้ดสด ๆ เข้ากันดี ถูกปากคนไทยมาก ๆ ถ้าใครรู้สึกว่ารสชาติยังไม่จัดจ้านก็สามารถขอกิมจิเติมเพิ่มความเปรี้ยวความเผ็ดอีกได้

หม้อสุดท้าย ชาบูชาบู น้ำซุปทงคัตสึ หรือน้ำซุปกระดูกหมูสีนวล ที่ผ่านการต้มเคี่ยวประมาณ 8 ชั่วโมง เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อหมู ชุดผัก และเส้นพิเศษที่สั่งมาจากร้านเก่าแก่อายุร้อยปีที่ญี่ปุ่น พอน้ำซุปเดือดแล้วก็เติมหมู เติมผักลงไปตามใจชอบ หม้อนี้รสชาตินวล ๆ ซดคล่องคอดี

นอกจากที่แนะนำ 3 เมนูนี้ก็ยังมีอีกหลายเมนูให้เลือกทานกันตามความชอบ และนอกจากรสชาติความเป็นญี่ปุ่นในทุกเมนูแล้ว บรรยากาศการตกแต่งร้านก็ทำให้เผลอรู้สึกว่าอยู่ในญี่ปุ่นจริง ๆ โดยร้านออกแบบเป็นสองชั้น มองโดยภาพรวมจะเห็นเป็นบ้านเรือนญี่ปุ่น ชั้นล่างออกแบบให้เหมือนบ้านเรือนที่มีตรอกให้เดินตรงกลาง ส่วนชั้นบนนั้นเหมือนนั่งอยู่ภายในบ้าน

สำหรับใครที่สนใจจะไปทาน ร้านสุกี้มาสะ ตั้งอยู่ที่ชั้นจี นอร์ธวิง ศูนย์การค้าสยามพารากอน เปิดให้บริการเวลา 10.30-22.00 น. (ปิดรับออร์เดอร์ 21.30 น.) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2129-4880 และ 06-1392-9777