ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “คานิท” (Canitt) แบรนด์เสื้อผ้าสตรีหรู จัดแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่นออทั่ม วินเทอร์ 2017 ภายใต้ชื่อ “รีไวดริ่ง” (Rewildling) ที่บริเวณร้านคานิท ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม โซนไทยไทย
โดย ขนิษฐา ดรุณเนตร ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ประจำแบรนด์เผยถึงเเรงบันดาลใจว่า ได้จับคู่แรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าผ่านความงดงามของผลงานศิลปะของสองศิลปินดังจากสองยุค ได้แก่ อันโตนิโอ คอร์ราดีนี (Antonio Corradini) ประติมากรผู้โด่งดังจากยุครอคโคโค และ แคส เบิร์ด (Cass Bird) ช่างภาพชื่อดังจากกรุงนิวยอร์ก ถ่ายทอดเป็นเสื้อผ้าดีไซน์หรูที่ผสานความงดงามจากผลงานของสองศิลปินเวลาเอาไว้ได้อย่างน่าหลงใหล
ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ประจำแบรนด์ เล่าว่า “คานิท” (Canitt) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แดซลิ่ง” (Dazzling), “เอนนิกแมททิค” (Enigmatic) และ “แมกนิฟฟิเซนท์” (Magnificent) สามคำที่สามารถบ่งบอกถึงเอกลักษณ์การดีไซน์ได้เป็นอย่างดี ที่นำความงดงามทางแฟชั่นในแต่ละยุคสมัยมาผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ของหญิงสาวในยุคปัจจุบัน ให้สนุกไปกับการสร้างสรรค์ลุคใหม่
“ผู้หญิงในแบบฉบับของคานิท เป็นผู้หญิงที่มีความทันสมัย ชื่นชอบในความหรู แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ผสานความเซ็กซี่อย่างมีระดับเอาไว้”
โดยความงดงามของผลงานศิลปะที่ทางทีมดีไซน์ได้หยิบยกมาใช้เป็นแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบคอลเลกชั่นนี้ เริ่มจากผลงานปั้นของประติมากรชื่อดัง อันโตนิโอ คอร์ราดีนี (Antonio Corradini) จากยุครอคโคโค ซึ่งมีจุดเด่นของเส้นสายที่สื่อถึงส่วนโค้งเว้าของหญิงสาวได้อย่างวาบหวาม รวมถึงดีเทลอันน่าสนใจของผืนผ้าที่ทอดแนบไปกับเรือนร่างของผู้หญิงจนเกิดเป็นผลงานศิลปะเสมือนจริง
และผนวกกับความสวยงามน่าหลงใหลจากผลงานภาพถ่ายของ แคส เบิร์ด (Cass Bird) ช่างภาพดังจากมหานครนิวยอร์ก ที่สามารถถ่ายทอดจริตของผู้หญิงในทุกอิริยาบถได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเผยเสน่ห์เฉพาะตัวของหญิงสาวผ่านภาพถ่ายได้อย่างน่าประทับใจ
ขนิษฐา กล่าวว่าในคอลเลกชั่น “รีไวดริ่ง” (Rewildling) จึงหมายถึงการถ่ายทอดเสน่ห์อันร้อนแรงที่แฝงอยู่ในตัวของผู้หญิงผ่านการออกแบบเสื้อผ้าดีไซน์หรูที่ผสานความเฟมินีนตามแบบฉบับของ “คานิท” เอาไว้ได้อย่างลงตัว สะท้อนถึงความงามอันเพียบพร้อมของผู้หญิงยุคใหม่ที่สวยครบสมบูรณ์แบบ
“จุดเด่นของคอลเลกชั่นนี้เรายังคงการออกแบบเสื้อผ้าที่สามารถช่วยขับเน้นส้วนโค้งเว้าให้หญิงสาวได้เผยเสน่ห์อันเย้ายวนและสง่างามเมื่อสวมใส่ชุดของคานิทเอาไว้ในทุกคอลเลกชั่น แต่ในคอลเลกชั่นนี้เราได้เพิ่มเรื่องของเทคนิค รวมถึงการเลือกใช้วัสดุในการตัดเย็บลงไปเพื่อช่วยเพิ่มรายละเอียดให้เสื้อผ้ามีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อย่างการเลือกใช้เนื้อผ้าก็จะแตกต่างจากซีซั่นที่แล้ว เพราะในคอลเลกชั่นนี้เราเลือกใช้ผ้าซาตินนำเข้าจากประเทศอิตาลีที่เหมาะกับการจับเดรปที่สุด รวมถึงการใช้โลหะสีทองมาตัดเย็บเข้ากับเนื้อผ้าเพื่อช่วยดึงดูดสายตาให้กับชุดมากยิ่งขึ้น รวมถึงลายพิมพ์ซิกเนเจอร์ประจำซีซั่น โมเดิร์น มาเบิ้ล (Modern Marble) ที่เกิดจากการลดทอนเส้นสายของรูปทรงเรขาคณิต เพราะเมื่อผนวกเข้ากับเนื้อผ้าที่พลิ้วไหวจะทำให้ชุดเดรสสามารถสื่อถึงคาแรคเตอร์อันอ่อนหวานและแข็งแกร่งของหญิงสาวผู้สวมใส่ได้ในขณะเดียวกัน”
โดยซีซั่นนี้เสื้อผ้าที่ช่วยขับเน้นส่วนโค้งเว้าในรูปทรงนาฬิกาทราย (Hourglass Silhouette) ได้ถูกเพิ่มจุดเด่นด้วยเทคนิคพิเศษอย่างการจับเดรป การอัดพลีท รวมถึงการซ้อนเลเยอร์ผ้าตาข่ายสลับสีที่ช่วยพรางรูปร่างได้เป็นอย่างดี และอีกหนึ่งเนื้อผ้าที่เป็นไฮไลท์เด่นประจำคอลเลกชั่นนี้คือผ้าตาข่ายทูลล์ประดับกากเพชรที่ถูกนำมาตัดเย็บเป็นชุดเดรสดีไซน์โก้หรู รวมถึงผ้าซิลค์ซาตินและผ้าซิลค์ชีฟองพิมพ์ลายที่มาในชุดเดรสสุดพลิ้วไหวเพิ่มความสนุกให้การแต่งตัวรับลมหนาวนี้
ผ่านการถ่ายทอดความงามอันน่าหลงใหลด้วยการเลือกใช้โทนสีครีม (Ivory Wildness), สีแดงเข้ม (Ruby Red) และสีส้มหมอก (Amber Tangerine) ผ่านการคัดสรรจากผลงานศิลปะและมู้ดแอนด์โทนจากภาพถ่ายของ แคส เบิร์ด (Cass Bird) ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงได้ในทุกมุมมอง และที่สำคัญโทนสีเหล่านี้ยังสามารถเข้ากับทุกเฉดสีผิวของผู้หญิงไทยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย