แคนดิเดตนายกบอลไทย ขึ้นเวทีดีเบตโชว์วิสัยทัศน์การบริหาร บิ๊กตุ๋ย-ธนะศักดิ์ สุระประเสริฐ ส่งตัวแทน ขณะที่ “มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” ไม่ไปเข้าร่วม ให้เหตุผลมีธุระเร่งด่วน
วันที่ 8 มกราคม 2567 ตามที่ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ภายใต้ความร่วมมือและสนับสนุนของมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ตลอดจนภาคีเครือข่าย กำหนดเปิดเวทีดีเบตโชว์วิสัยทัศน์แคนดิเนตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ห้องประชุมออดิทอเรียม ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย นั้น
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
การดีเบตครั้งนี้มีแคนดิเดตนายกบอลไทยเข้าร่วมกันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น นายคมกฤช นภาลัย, พอลลีน พยุริน งามพริ้ง, วงรค์ ทิวทัศน์ ในขณะที่ บิ๊กตุ๋ย-ธนะศักดิ์ สุระประเสริฐ มอบมายให้ นายยุทธนา ทวีสรรพสุข เป็นตัวแทน
ทั้งนี้ ข่าวสด รายงานว่า “มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” ไม่ได้ไปร่วมดีเบต โดยให้เหตุผลว่ามีธุระเร่งด่วน และไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วม
นายคมกฤช นภาลัย เผยถึงนโนบายและวิสัยทัศน์ว่า สำหรับตนการที่ทำข่าวฟุตบอลไทยมาร่วม 30 ปี ก็ได้เห็นวงการนี้ล้มลุกคลุกคลานมาโดยตลอด สิ่งแรกที่ต้องทำคือการแก้ไขข้อบังคับลักษณะปกครองสมาคมกีฬาฟุตบอล ต้องเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในข้อบังคับ โดยเฉพาะเรื่องของโหวตเตอร์ ปัจจุบันเราไปอ้างอิงมาจากฟีฟ่า แล้วก็ใช้กันมาอย่างยาวนาน ต้องคืนสิทธิในการเป็นโหวตเตอร์กับทุกสโมสรสมาชิก
อีกเรื่องก็คือคณะตุลาการ ซึ่งที่ผ่านมามักจะเห็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอุ้มทีมใหญ่ คนที่จะมาเป็นคณะกรรมการฝ่ายตุลาการควรจะต้องมีความรู้ความสามารถในวงการฟุตบอลอย่างแท้จริง หลายครั้งจึงเห็นการพิจารณาการตัดสินที่ผิดเพี้ยนไปจากวงการฟุตบอล สองสิ่งนี้เป็นสิ่งเบื้องต้นแรกที่เราจะต้องทำ เพื่อให้ฟุตบอลไทยเป็นของคนฟุตบอลอย่างแท้จริง
ส่วนอีกเรื่องที่จะต้องทำ คือ “เลิกฝันไปฟุตบอลโลก” ทุกวันนี้เลิกฝันได้เลยถ้าไม่กลับมาทำรากฐานฟุตบอลให้จริงจังโดยเฉพาะเรื่องของเยาวชน สิ่งสำคัญคือต้องมีโค้ชที่ดี วันนี้เรามีโค้ชดี ๆ มากมายที่ตกงาน เพราะฉะนั้นต้องเอาบุคลากรเหล่านี้ไปประจำตามศูนย์ต่าง ๆ และต้องมีงบประมาณให้ครูพละทั่วประเทศในการเข้ามาอบรมโค้ช
พอลลีน พยุริน งามพริ้ง เผยถึงนโนบายและวิสัยทัศน์ว่า อันดับแรกคือการทำให้ฟุตบอลเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับฟุตบอลไทย ทั้งฟุตบอลลีกภายใน รวมถึงทีมชาติ และกลไกในการพัฒนาเยาวชน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นโปรเจ็กต์ไม่ใช่กลไก สุดท้ายคือการสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการบริหารสมาคมฟุตบอลด้วยความบริสุทธิ์สุจริต
ส่วนเรื่องการพัฒนาทีมชาติไทยเป็นภารกิจหลักของทั้งสมาคมผ่านการทำงานกับผู้จัดการทีม สโมสรต่าง ๆ ส่วนการสร้างศักดิ์ศรีให้ทีมชาติไทย การกำหนดโปรแกรมให้สโมสรปล่อยตัวนักเตะ ต้องมีบทลงโทษโดยที่ไม่กังวลสายสัมพันธ์
“งานชิ้นแรกที่จะทำให้เสร็จภายใน 100 วัน คือการจัดการเรื่องบัญชี เรื่องงบดุล ในการหารายได้เข้าสมาคม อย่างต่อไปคือการทำทีมชาติไทยทั้งระบบ เราต้องฝันเรื่องฟุตบอลโลกต่อไป แต่ต้องเริ่มตอนนี้และเชื่อว่าอีก 12 ปีเราจะได้เห็นผลแน่นอน”
ด้านนายวรงค์ ทิวทัศน์ เผยถึงนโนบายและวิสัยทัศน์ว่า อยู่กับฟุตบอลไทยมาตั้งแต่อายุ 17 ปีทั้งการเป็นนักฟุตบอลรวมถึงบริหารไทยลีก ทำให้ค่อนข้างเข้าใจบริบท ได้รับการสื่อสารจากสโมสรและกระแสจากแฟนบอลโดยตรง ปัญหาที่เห็นมีอยู่ 3 ด้าน จึงเกิดเป็นนโยบายเรื่องแรกคือการปรับโครงสร้าง เรื่องที่สองคือการสร้างมูลค่า และด้านสุดท้ายคือการเพิ่มมาตรฐาน
เราจะเห็นจากวิธีการเลือกตั้งที่ให้สโมสรมาเป็นโหวตเตอร์ เป็นสภากรรมการเพื่อหวังผลเรื่องคะแนนเสียง ตรงนี้ยังไม่ติดใจเท่าไรนัก แต่ที่เห็นมาตลอดคือสภากรรมการที่มาจากสโมสรไม่เคยแก้ปัญหาในวงการฟุตบอลได้เลย ปัญหาต่าง ๆ จึงมาจากโครงสร้างที่ไม่เหมาะกับในปัจจุบัน ทุวันนี้ฟุตบอลเป็นอาชีพ มีมูลค่าการตลาด เศรษฐกิจหมุนเวียน สิ่งที่ต้องเปลี่ยนตือโครงสร้างอันดับแรก ทีมงานของผมจึงมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ
“สิ่งที่ต้องทำใน 100 วันแรกของการทำงานคือการแก้ปัญหาฟุตบอลลีก เรื่องหลัก ๆ คือเรื่องมาตรฐานของผู้ตัดสิน เรื่องที่สองคือเงินสนับสนุนสโมสรจะได้เมื่อไหร่ ดังนั้นเราต้องแก้มาตรฐานฟุตบอลลีกของไทยให้เร็วที่สุด”
สำหรับ นายยุทธนา ทวีสรรพสุข ตัวแทนของ บิ๊กตุ๋ย-ธนะศักดิ์ สุระประเสริฐ เผยถึงนโนบายและวิสัยทัศน์ว่า บิ๊กตุ๋ยอยู่กับฟุตบอลมานาน ความสำเร็จในการบริหารงานของผู้บริหารชุดนี้ส่วนหนึ่งมาจากการผลักดันในหลายโครงการ จริง ๆ ฟุตบอลไทยไม่ได้เลวร้าย แต่การที่มีนายกที่ไม่ใช่คนฟุตบอลเป็นปัญหา
“ภารกิจเร่งด่วน อย่างแรกคือต้องรีบตั้งเลขาธิการสมาคมซึ่งพี่ตุ๋ยตั้งคุณพาทิศ และประธานไทย ตามด้วยประธานเทคนิคทีมชาติ และปัญหาที่แก้ไม่ได้เลยตลอด 12 ปี นั่นคือเรื่องกรรมการ ที่จำเป็นต้องแยกออกจากสมาคมเพื่อความยุติธรรมในการตัดสิน รวมถึงการพัฒนาศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติให้เสร็จโดยเร็ว”