เปิดช่องพนันถูกกฎหมาย สะท้อนอะไรในอเมริกันเกมส์

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

“เมื่อความคิดไม่ตรงกัน การพนันก็เกิดขึ้น” ช่างบ่งบอกนิสัยดั้งเดิมของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการวางเดิมพันเพื่อพิสูจน์จุดยืนทางความคิดของตัวเองที่เหนือกว่าผู้อื่นโดยมีรางวัลเป็นผลประโยชน์ที่จับต้องได้ ซึ่งพฤติกรรมนี้ทำให้บางคนสร้างตัวได้ ขณะเดียวกันก็หมดตัวกันจนถึงแก่ชีวิตมามากมาย และสิ่งที่พนันกันมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ย่อมต้องพนันผลแข่งกีฬา โดยหลายประเทศกำหนดให้ “การพนันผลแข่งกีฬา” เป็นสิ่งผิดกฎหมาย

หนึ่งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและถกเถียงเรื่องการวางเดิมพันพนันผลแข่งกีฬามายาวนานคือ สหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่รัฐสภาผ่านร่างกฎหมาย “คุ้มครองกีฬาอาชีพและสมัครเล่น” ที่เรียกกันว่า “Professional and Amateur Sports Protection Act” เมื่อปี 1992 ทำให้การพนันกีฬาทั่วประเทศเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ยกเว้นบางรัฐเท่านั้น (กฎหมายไม่ครอบคลุมถึงวางเดิมพันระหว่างบุคคลและพนันแข่งสัตว์ทั้งหลาย)

ข้อยกเว้นในข้อกฎหมายเมื่อปี 1992 เปิดทางให้กับรัฐเนวาดา ที่มีแหล่งอุตสาหกรรมการพนันขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่าง “ลาสเวกัส” นั่นเอง ซึ่งรัฐเนวาดา เป็นพื้นที่เดียวในประเทศที่จะวางเดิมพันการแข่งกีฬาแบบลงเกมเดียวได้ ขณะที่ข้อกฎหมายนี้ยังยกเว้นให้การพนันกีฬาบางประเภทในรัฐโอเรกอน, มอนแทน่า และเดลาแวร์ ที่เปิดให้พนันกีฬาบางรูปแบบก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะบังคับใช้

แต่สถานการณ์ทั้งหมดมีแนวโน้มเปลี่ยนโฉมในเวลาอันใกล้นี้ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ศาลสูงสุดของสหรัฐตัดสินด้วยผลคะแนน 6 ต่อ 3 ให้ยกเลิกข้อกฎหมายเมื่อปี 1992 ซึ่งมีอายุ 25 ปี โดยให้เหตุผลว่า กฎหมายข้อนี้ขัดแย้งกับบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมของรัฐธรรมนูญสหรัฐ ฉบับที่ 10 โดยข้อถกเถียงคือรัฐบาลกลางมีอำนาจควบคุมการออกกฎหมายของแต่ละรัฐหรือไม่ จากที่ข้อกฎหมายเมื่อปี 1992 ทำให้ทุกรัฐไม่สามารถกำหนดระเบียบของตัวเองว่าด้วยการพนันกีฬา

ผลการตัดสินของศาลหมายความว่าแต่ละรัฐจะสามารถตั้งข้อกำหนดเกี่ยวกับการพนันกีฬาของตัวเองได้แล้ว ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญหลังจากที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ที่เป็นตัวตั้งตัวตียกประเด็นข้อถกเถียงนี้มาต่อสู้ทางกฎหมายเป็นเวลาหลายปีและเคยแพ้คดีมาก่อนแล้ว จนกระทั่งเปลี่ยนแนวทางหลายครั้งและมาได้ผลลัพธ์เมื่อยื่นเรื่องสู่ศาลสูงตามที่รายงานข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลกในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม

รายงานข่าวเผยว่ามีรัฐที่เห็นด้วยกับรัฐนิวเจอร์ซีย์ไม่ต่ำกว่า 12 รัฐ แต่จุดยืนของรัฐนิวเจอร์ซีย์ตลอดหลายปีที่ผ่านมาถูกคัดค้านจากรัฐบาลกลาง, สมาคมกีฬาระดับมหาวิทยาลัยแห่งชาติ และ 4 องค์กรหลักจากอเมริกันเกมอย่างเอ็นบีเอ (บาสเกตบอล), เอ็นเอฟแอล (อเมริกันฟุตบอล), เอ็นเอชแอล (ฮอกกี้น้ำแข็ง) และเมเจอร์ ลีก เบสบอล ก็โต้แย้งต่อศาลว่าการออกกฎหมายให้พนันกีฬาได้จะส่งผลต่อความใสสะอาดในเกม

ช่วงที่กฎหมายคุ้มครองกีฬาอาชีพและสมัครเล่นในสหรัฐบังคับใช้ควบคู่กับระเบียบภายในองค์กรที่จัดแข่งอเมริกันเกมระดับเมเจอร์ ทำให้กีฬากระแสหลักของอเมริกันชน

ส่วนใหญ่เป็นแฟร์เกมที่ไม่ค่อยพบบุคคลในวงการเกี่ยวข้องกับการล็อกผลแข่ง แตกต่างจากกีฬากระแสหลักชนิดอื่นในยุโรปอย่างฟุตบอล หรือเทนนิส ซึ่งมักมีข่าวตรวจจับกลุ่มนักกีฬาหลายครั้ง

แต่เมื่อศาลสูงตัดสินแบบนี้ ผู้เชี่ยวชาญและผู้คร่ำหวอดในวงการกีฬาเห็นตรงกันว่าอาจได้เห็นการพนันกีฬากระจายไปหลายรัฐในเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และเป็นไปได้ว่า ทั้ง 32 รัฐอาจมีพนันกีฬาให้เล่นภายใน 5 ปีนี้ด้วย

ซึ่งคนที่ยิ้มคือบริษัทรับพนันที่ส่งสัญญาณเตรียมใช้ประโยชน์จากช่องทางที่เปิดใหม่อย่างเต็มที่ นั่นย่อมหมายถึงโอกาสของการหารายได้ทางธุรกิจ และเงินที่แพร่สะพัด

ในระบบเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล ถ้าดูจากตัวเลขของหน่วยงานอิสระที่เก็บสถิติด้านการพนันในสหรัฐ ซึ่งพบว่าตัวเลขเดิมพันพนันกีฬาใต้ดินไม่ต่ำกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

การปะทะกันทางมุมมองความคิดจากหลายฝ่ายที่มีต่อการวางเดิมพันเกี่ยวกับผลแข่งกีฬาในสหรัฐมีหลายมิติ

ทับซ้อนและค่อนข้างแตกต่างหลากหลาย บางกลุ่มเปลี่ยนมุมมองหรือยอมถอยหลังให้การพนันบางรูปแบบเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ อย่างเอ็นบีเอ และเมเจอร์ ลีก เบสบอล ที่เคยคัดค้านหัวชนฝาก็ต้องยอมรับว่าการพนันบางรูปแบบไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ก็ต้องเรียกร้องให้รัฐออกกฎหมายควบคุมดูแลการพนันให้อยู่ในกรอบเพื่อรักษาชื่อเสียงความใสสะอาดในเกมเอาไว้

แม้ตัวองค์กรกีฬาต่าง ๆ จะคัดค้าน แต่อีกด้านคือพวกเขาก็อ้าแขนรับผลประโยชน์จากการพนันบางรูปแบบ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องแลกกับการลงทุนมากกว่าเดิมในแง่การตรวจสอบ รณรงค์กับผู้เล่นให้เล่นอย่างใสสะอาด และถ้าพิจารณาจากข้อเท็จจริงว่าการพนันกีฬาก็แพร่หลายกันอยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่ถูกรวมเข้าไปอยู่ในระบบแบบถูกต้อง ซึ่งก็หมายความว่า เมื่อมีการพนัน ไม่ว่าจะถูกหรือผิดกฎหมาย กีฬาก็ย่อมมีช่องโหว่สำหรับการคอร์รัปชั่นเช่นเดียวกับวงการอื่น

แม้การตัดสินของศาลสูงเหมือนการเปิดประตูครั้งสำคัญ แต่การต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบลงง่าย ๆ ลีกต่าง ๆ ที่ยังไม่ไว้วางใจมีแนวโน้มกดดันให้รัฐสภาออกระเบียบกลางที่ส่งผลแบบเดียวกันในแต่ละรัฐ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ช่วงแรกน่าจะเป็นทีของฝ่ายรัฐนิวเจอร์ซีย์และผู้สนับสนุนการพนันกีฬาถูกกฎหมายไปก่อน แต่หลังจากนั้นอีก 1-2 ปีอาจได้เห็นรัฐสภาลงมืออะไรบางอย่างในเชิงรายละเอียดเกี่ยวกับการพนันกีฬาอีกครั้ง