“อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ชนะ “สิงโตคำราม” อังกฤษ 3-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ได้สำเร็จ ที่ประเทศโปรตุเกส เมื่อคืนวันที่ 6 มิถุนายน
เกมรอบรองชนะเลิศ ของลีกเอ อังกฤษขยับนำก่อน 1-0 จากจุดโทษของมาร์คัส แรชฟอร์ด ในนาทีที่ 32 แต่ครึ่งหลัง นาทีที่ 73 มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ กองหลังเนื้อหอม มาทำประตูตีเสมอให้อัศวินสีส้ม ก่อนหมดเวลา 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาทีออกไป
นาทีที่ 97 ไคล์ วอล์กเกอร์ กองหลังสิงโตคำรามมาทำเข้าประตูตัวเอง เนเธอร์แลนด์นำ 2-1 ก่อนที่นาทีที่ 11 ควินซี่ พรอเมสจะมากดประตูปิดกล่องให้เนเธอร์แลนด์ชนะ 3-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับโปรตุเกส
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
สำหรับรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันในคืนวันที่ 9 มิถุนายน เวลา 01.45 น.
สถิติที่น่าสนใจของเกมนี้
- อังกฤษแพ้เนเธอร์แลนด์ 3 จาก 4 เกมหลังสุด (ชนะ 1 แพ้ 3)
- มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าอังกฤษยิงไปแล้ว 4 ประตูใน 7 นัดหลังสุด และยิงประตูก่อนนาทีที่ 25 ได้ถึง 3 ลูก
- ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ของอังกฤษ ที่ลงเล่นทีมชาติ ครบ 50 นัด ด้วยอายุ 24 ปี 180 วัน ผู้เล่นที่อายุน้อยสุด คือ เวย์น รูนี่ย์ 23 ปี 159 วัน และไมเคิล โอเว่น 23 ปี 179 วัน
- มัทไธจ์สเดอลิกต์กองหลังเนเธอร์แลนด์ทำประตูให้ทีมชาติได้ 2 นัดติดต่อกันก่อนหน้านี้ลงเล่น 14 นัดทำประตูไม่ได้เลย
- ไคล์ วอล์กเกอร์ เป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่ทำเข้าประตูตัวเองในรอบ 3 ปี หลังจากที่อีริค ไดเออร์ เคยทำเข้าประตูในแมตช์กับออสเตรเลีย เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2016
- เมมฟิส เดปาย ดาวยิงกังหันสีส้ม มีส่วนร่วมกับประตูขอทีมชาติ 23 ประตู ใน 21 แมตช์ โดยยิงไป 13 ประตู และแอสซิสต์ 10 ประตู
ที่มา:มติชนออนไลน์
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย