สัมภาษณ์
เดินหน้าลงทุนเปิดโรงแรมใหม่ต่อเนื่องสำหรับกลุ่ม “เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” หรือ UHG ผู้ลงทุนและบริหารโรงแรมในระดับ 4 ดาวสัญชาติไทย
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “วุฒิพล ถาวรธวัช” กรรมการผู้จัดการ “เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” หรือ Urban Hospitality Group : UHG ผู้ลงทุนและบริหารโรงแรม ภายใต้แบรนด์ The Quarter ถึงภาพรวมของธุรกิจโรงแรมภายใต้การบริหาร รวมถึงมุมมองต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ดังนี้
- หวยงวด 2 พ.ค. เช็กสถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 2 พ.ค. 2567
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
ลุ้น “วีซ่าฟรี” ดึงจีนกลับ
“วุฒิพล” บอกว่า ภาพรวมของธุรกิจโรงแรมปีนี้ยังดีต่อเนื่องและชัดเจน แม้ว่าที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนจะยังเดินทางเข้ามาจำนวนไม่มากนัก แต่ก็มีนักท่องเที่ยวจากตลาดอื่นเข้ามาเติม อาทิ เกาหลี อาหรับ อเมริกา เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีกำลังการใช้จ่ายที่สูง โดยโรงแรมทุกแห่งในเครือ UHG ยังคงได้รับการตอบรับอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง
เนื่องจากทุกโรงแรมปรับตัวเร็วและมุ่งทำตลาดออนไลน์ ทั้ง Facebook, LINE Official Account ฯลฯ เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงสามารถปรับราคาขึ้น-ลงให้สอดรับกับดีมานด์ในตลาดได้ตลอดเวลาด้วย
อย่างไรก็ตาม มองว่าหลังจากรัฐบาลใช้มาตรการวีซ่าฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวจีนแล้ว จะมีแรงบวกเข้ามาอีกมาก เพราะมีผลช่วยลดอุปสรรคในการเดินทางมาไทยได้มาก ประกอบกับมาทันช่วงวันหยุดชาติจีน (Golden Week) หากมีคนจีนเข้ามาเที่ยวแล้วถ่ายรูปลง social ให้เห็นแหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร หรือแม้แต่คาเฟ่ใหม่ ๆ จะสามารถทำให้การเดินทางมาไทยกลับมาบูมได้อีกครั้ง
ปักธงเดอะ ควอเตอร์ อ่อนนุช
“วุฒิพล” บอกด้วยว่า จากการตอบรับที่ดีทำให้บริษัทยังสามารถเดินหน้าลงทุนในโครงการใหม่ได้ตามแผน โดยล่าสุดที่เปิดให้บริการคือ โครงการสุขุมวิท ฮิลล์ (สุขุมวิท 58) เป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยโรงแรมเดอะ ควอเตอร์ อ่อนนุช บาย ยูเอชจี (The Quarter Onnut by UHG) จำนวน 100 ห้อง 8 ชั้น อาคารสำนักงานสูง 20 ชั้น ขนาด 10,000 ตารางเมตร และมีพื้นที่รีเทล
“โครงการนี้เราเปิดให้บริการในส่วนของโรงแรมไปตั้งแต่ปลายปี 2565 และเปิดให้บริการในส่วนของอาคารสำนักงานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่าหลังจากเปิดให้บริการได้รับการตอบรับที่ดีทั้งในส่วนของโรงแรม อาคารสำนักงาน และพื้นที่รีเทล”
และให้ข้อมูลว่า ในส่วนของโรงแรมนั้นยังคงคอนเซ็ปต์เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส โดยทุก facility มาตรฐานเทียบชั้นโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่กำหนดราคาขายไว้ที่ประมาณ 1,800-2,200 บาทต่อคืน
อ่อนนุช-บางนา เทียบชั้น CBD
“วุฒิพล” บอกอีกว่า ปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจโรงแรม รวมถึงอาคารสำนักงานเริ่มขยายออกจากทำเลใจกลางเมือง (CBD) อาทิ สุขุมวิท สีลม ออกไปยังพื้นที่นอกซีบีดีกันมากขึ้น โดยมีรถไฟฟ้าเป็นตัวเชื่อมต่อการเดินทาง
โดยทำเล “อ่อนนุช-บางนา” เป็นอีกหนึ่งทำเลที่การแข่งขันเริ่มดุเดือดและเป็นน่านน้ำใหม่ เพราะนอกจากจะเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อการเดินทางแล้ว ยังเป็นทำเลที่ใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การเดินทางสะดวก ทั้งขาเข้าเมืองที่สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ และขาออกที่ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 20 นาทีสำหรับไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
“เดอะ ควอเตอร์ อ่อนนุช ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 58 ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุชกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางจาก ให้บริการห้องพักที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ทั้งการพักเพื่อการพักผ่อนและเพื่อธุรกิจ”
“วุฒิพล” บอกว่า ปัจจุบันย่านอ่อนนุช บางนา เป็นทำเลที่มีชีวิตชีวาตลอดทั้งวัน มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อาทิ โลตัส, บิ๊กซี, โรงภาพยนตร์เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางนา (กำลังรีโนเวตครั้งใหญ่), ห้างสรรพสินค้าเมกาบางนา, ทรูดิจิทัลพาร์ค (เฟส 1) และกำลังจะขึ้นเฟส 2, ห้างสรรพสินค้าบางกอกมอลล์ (กลุ่มเอ็มโพเรียม), ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) ฯลฯ และเป็นที่ตั้งของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง
เรียกว่า มีสีสัน สิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร ไม่แพ้ทำเลในย่านใจกลางเมือง
เชนอินเตอร์แห่ผุดเพียบ
ไม่เพียงเท่านี้ ปัจจุบันโรงแรมที่เป็นเชนอินเตอร์และผู้ประกอบการายใหญ่ได้เข้ามาลงทุนในทำเลอ่อนนุช บางนา เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนอีกด้วย อาทิ โรงแรมอวานี สุขุมวิท กรุงเทพฯ โรงแรมขนาดกว่า 300 ห้อง ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุช ที่เปิดให้บริการไปก่อนหน้าตั้งแต่ 4-5 ปีที่ผ่านมา
โรงแรมอินน์ไซด์ บายมิเลีย แบงค็อก สุขุมวิท (INN SiDE by Melia Bangkok Sukhumvit) สุขุมวิท 50 สูง 33 ชั้น ราว 200 ห้อง ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC
โรงแรม YOTEL Bangkok ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Cloud 11 (คลาวด์ อีเลฟเว่น) ของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ซึ่งมีแผนจะเปิดให้บริการในอีก 1-2 ปีนี้ และโรงแรมแมริออท ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้
จ่อเปิด “รัชโยธิน” ปี 2567
“วุฒิพล” ยังพูดถึงโรงแรมเดอะ ควอเตอร์ เจ้าพระยา โรงแรมสไตล์รีสอร์ต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ย่านคลองสาน) ด้วยว่า หลังจากเปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2565 พบว่าได้รับการตอบรับดีเกินคาด มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ราว 90% โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่
“ยอมรับว่าโรงแรมแห่งนี้เราได้รับอานิสงส์จากศูนย์การค้าไอคอนสยาม และกระแสของหนังเรื่อง King The Land บวกกับมีรถไฟฟ้าสายสีทองให้บริการ ทำให้เป็นเดสติเนชั่นใหม่ที่เป็นที่นิยมได้เร็วขึ้น”
ส่วนโครงการ “รัชโยธิน ฮิลล์” ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มูลกว่ากว่า 3,000 ล้านบาท มีอาคารสำนักงาน พื้นที่รีเทล และโรงแรมจำนวน 228 ห้อง สูง 32 ชั้นนั้น บริษัทได้ทำห้องตัวอย่างของสำนักงานและโรงแรมเรียบร้อยแล้ว การก่อสร้างคืบหน้าใกล้เสร็จแล้ว น่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2567 ตามแผนเดิม
โดยปัจจุบัน “เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” หรือ UHG มีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้ว 15 แห่ง รวม 2,050 ห้องพัก มากที่สุดในกรุงเทพฯ
