“แอร์ไลน์ไทย” รุกไต้หวัน ชี้อีก 3 ปีไทยแห่เที่ยวทะลุ 5 แสนคน

หลังรัฐบาลไต้หวันออกนโยบาย New Southbound หรือมุ่งสู่ใต้ เพื่อรุกดึงนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มาเที่ยวไต้หวันมากขึ้น โดยหนึ่งในเป้าหมายคือ ตลาดคนไทย

ล่าสุด ทางไต้หวันได้ประกาศขยายระยะเวลายกเว้นการขอวีซ่า (ฟรีวีซ่า) แก่คนไทยให้พำนักได้ 30 วัน ต่อไปอีก 1 ปี หรือจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 จากเดิมที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ไทยสมายล์-ไลอ้อนแอร์บิน ต.ค.นี้ ส่งผลให้สายการบินในไทยเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่สู่ไต้หวันอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มีสายการบินที่ให้บริการเส้นทางบินไทย-ไต้หวันอยู่แล้ว อาทิ การบินไทย, นกสกู๊ต, ไชน่า แอร์ไลน์, อีวีเอ แอร์ และไทเกอร์แอร์

“วิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ บอกว่า หนึ่งในแผนขยายเส้นทางบินใหม่ไปต่างประเทศของ ไทยสมายล์ช่วงครึ่งปีหลังนี้ คือ เส้นทางกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-เกาสง ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 2 ของไต้หวัน โดยเริ่มให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ที่ความถี่ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

เช่นเดียวกับ “อัศวิน ยังกีรติวร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ที่เปิดเผยว่า ไทยไลอ้อนแอร์เองก็เตรียมเปิดบินสู่ “ไต้หวัน” เส้นทางดอนเมือง-ไทเป ในเดือนตุลาคมนี้เช่นกัน

นกสกู๊ตอัดโปรฯรับเพิ่มเที่ยวบิน

ขณะที่สายการบิน “นกสกู๊ต” ได้ออกโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ ในงาน Taiwan One Time by TECO ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้นเอ็ม เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการจองตั๋วบินในช่วงกลางปี หลังนกสกู๊ตได้เพิ่มเที่ยวบินตรงสู่ไทเป เป็นวันละ 1 เที่ยวบิน ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ด้าน “โทนี่ อู่” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม บรูไน เมียนมา กัมพูชา และลาว บอกว่า ขณะนี้มีสายการบินเปิดให้บริการเส้นทางบินจากไทยไปไต้หวันอย่างต่อเนื่อง นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทย หลังรัฐบาลไต้หวันได้ประกาศยกเว้นการขอวีซ่าให้คนไทย มีผลตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชนของไต้หวันยังทำงานร่วมกันอย่างหนัก เพื่อดึงคนไทยไปเที่ยวไต้หวันมากขึ้น ทำให้มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด

อีก 3 ปีคนไทยแห่เที่ยว 5 แสน

โดยปี 2559 ที่ผ่านมามียอดคนไทยไปเที่ยวไต้หวันเกือบ 200,000 คน ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 57% เมื่อเทียบกับปี 2558 และเมื่อ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา การท่องเที่ยวไต้หวันได้เปิดสำนักงานการท่องเที่ยวในไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มดีกรีการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น เพราะเห็นความสำคัญและศักยภาพของตลาดคนไทย จากเดิมที่ดำเนินการทำตลาดผ่านสำนักงานในมาเลเซีย

การท่องเที่ยวไต้หวันจึงตั้งเป้าหมายสำหรับปี 2560 นี้ว่าจะมีคนไทยไปเที่ยวไต้หวันประมาณ 300,000 คน ซึ่งจากตัวเลขในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ พบว่ามียอดเดินทางคนไทยไปเที่ยวไต้หวันแล้วประมาณ 130,000 คน

ทั้งนี้ ยังคาดการณ์ด้วยว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า จำนวนคนไทยไปเที่ยวไต้หวันน่าจะขยายตัวมากขึ้น หรือทะลุ 500,000 คน แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 2 เป็นรองนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย

“กลอเรีย โฮเต็ล” รุกหนัก

“จอห์น เฉิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “กลอเรีย โฮเต็ล กรุ๊ป” เครือโรงแรมไต้หวัน หนึ่งในภาคเอกชนที่เข้ามาโปรโมตตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก กล่าวว่า เหตุผลที่ตัดสินใจมาทำตลาดเชิงรุกด้วยตัวเองในไทย เพราะมองว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้คนไทยรู้จักบริการของ “กลอเรีย โฮเต็ล กรุ๊ป” มากขึ้น

โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้น จากเดิมที่เน้นการทำตลาดผ่านบริษัทนำเที่ยวและตัวแทนจำหน่ายห้องพักอื่น ๆ เพียงอย่างเดียว

“หลังไต้หวันได้ประกาศฟรีวีซ่าแก่คนไทย ทำให้เห็นแนวโน้มการเติบโตของนักท่องเที่ยวไทยที่เข้าไปใช้บริการโรงแรม และช็อปปิ้งเอาต์เลตของกลอเรีย โฮเต็ล กรุ๊ป เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มียอดนักท่องเที่ยวไทยไปใช้บริการโรงแรมในกลอเรีย โฮเต็ล กรุ๊ป สูงขึ้น 10-15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว”

โดยโรงแรมบางแห่งของ “กลอเรีย โฮเต็ล กรุ๊ป” มีสัดส่วนลูกค้าคนไทยติดอยู่ใน 5 อันดับแรกที่เข้าใช้บริการสูงสุด

ขณะที่บางโรงแรมติดอยู่ใน 10 อันดับแรกด้านช็อปปิ้ง โดยที่เอาต์เลตของกลอเรียฯกรุ๊ป คนไทยนิยมไปช็อปปิ้งมากเป็นอันดับ 3 ของยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด เป็นรองเพียงนักท่องเที่ยวจีนและฮ่องกงเท่านั้น

พร้อมยังคาดหวังด้วยว่า การเข้ามาโปรโมตตลาดคนไทยด้วยตัวเองครั้งนี้ จะเห็นคนไทยซื้อห้องพักและช็อปปิ้งที่เอาต์เลตในกลอเรียฯกรุ๊ปเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

จากเทรนด์การขยายตัวอย่างมหาศาลของกลุ่มคนไทยเที่ยวไต้หวันนี้ นับเป็นโอกาสทองของทั้งธุรกิจสายการบินและโรงแรมที่พักไม่น้อยเลยทีเดียว