ททท. ผนึก “ยูเนสโก-เอ็กซ์พีเดีย” เซ็นปฏิญญาท่องเที่ยวยั่งยืนฉบับแรกของโลก!! ดันโรงแรม-ทัวร์ลดใช้ซิงเกิลยูสพลาสติก ผลักดันวัฒนธรรมท้องถิ่น

ททท. ผนึกยูเนสโก-เอ็กซ์พีเดีย เซ็นปฏิญญาท่องเที่ยวยั่งยืนฉบับแรกของโลก ดันโรงแรม-ทัวร์ลดใช้ซิงเกิลยูสพลาสติก-คืนกำไรสู่ชุมชน ปลดล็อกท่องเที่ยวไทยทะยานต่อ พร้อมต่อเอ็มโอยูเอ็กซ์พีเดียร์ หลังดันที่พักเมืองรองโต 25% 

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เปิดเผยว่า ททท.ได้จับมือกับเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป และองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เซ็นปฏิญญายูเนสโกเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนหรือ The UNESCO Sustainable Tourism Pledge ซึ่งถือเป็นโครงการระดับโลกโครงการแรกของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย

มร. ฌอง-ฟิลิปป์ โมโนด รองประธานสายงานกิจกรรมองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป นะ

โดยมีจะเน้นผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ มุ่งให้ความสำคัญกับความยั่งยืน “ด้านสิ่งแวดล้อม” โดยเฉพาะเรื่องการลดละเลิกการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งและ “ความหลากหลายทางวัฒนธรรม” โดยเฉพาะการสนับสนุนวัฒนธรรมท้องถิ่นและชุมชน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง ผ่านการจูงใจผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภาคธุรกิจและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยไตรภาคี

นายเอร์เนสโต อ็อตโตเน อาร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการทั่วไปด้านวัฒนธรรรม องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)

ฟากนายเอร์เนสโต อ็อตโตเน อาร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการทั่วไปด้านวัฒนธรรรม องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) อธิบายว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยในปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกรวมกว่า 1.4 พันล้านคน ปฏิญญาเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมีจุดมุ่งหมายคือเป็นการเปลี่ยนจากคำพูดให้เป็นการลงมือปฏิบัติ เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดปริมาณขยะในภาคการท่องเที่ยวและเสริมบทบาทของด้านวัฒนธรรมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีการเซ็นปฎิญญาในลักษณะนี้และอาจเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญที่จะยกระดับการดำเนินการสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงระดับโลก ทั้งนี้ ขั้นตอนการเข้าร่วมของผู้ให้บริการท่องเที่ยวและโรงแรมคือการแสดงความจำนงผ่านเว็บไซต์ของปฏิญญาและปฏิบัติตามแนวทางการลดละเลิกพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งและสนับสนุนการเข้ามามีส่วนร่วมของชุมชนก็จะได้แบดจากยูเนสโก เพื่อแสดงต่อนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่าโรงแรมได้รับการรับรองภายใต้ปฏิญญา

ด้านนายอัง ชู พิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ ภาคพื้นเอเชียของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป กล่าวว่า ในการสนับสนุนปฏิญญา เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปจะร่วมแสดงแบดของปฏิญญาผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของเอ็กซ์พีเดียและร่วมติดตามคอมเม้นต์ต่างๆ เพื่อมอร์นิเตอร์โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม นอกจากปฏิญญาดังกล่าว เอ็กซ์พีเดียร์ก็ยังได้ต่ออายุบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) กับ ททท. หลังเริ่มทำข้อตกลงร่วมกันในปี 2561 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมายังแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดใหม่ต่าง ๆ อาทิ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน 

โดยความพยายามดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการด้านที่พักในเชียงรายผ่านทางเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปนั้นเพิ่มขึ้น 25% ต่อปี โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเป็นนักเดินทางท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงและมีการใช้จ่ายกว่า 10% สำหรับค่าที่พักในแต่ละวัน โดยประมาณ 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้เลือกจองโรงแรมระดับสี่หรือห้าดาวสูงกว่านักท่องเที่ยวในประเทศถึง 1.5 เท่า 

ทั้งนี้ ในบันทึกความเข้าใจที่มีการต่ออายุฉบับนี้ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปจะสนับสนุนเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของ ททท. โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ เน้นการเจาะกลุ่มคุณภาพรายกลุ่ม (Segment) ได้แก่ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง มีความใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Go high) กลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ (Go New Customer) และการกระตุ้นการเดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Go Low Season) รวมทั้งใช้ระบบดิจิทัล เป็นเครื่องมือหลักที่ใช้ในการเข้าถึงลูกค้า (Go Digital) อีกด้วย