ททท.จ่อยกระดับเมือง “ระยอง” สู่ลักเซอรี่เดสติเนชั่น

ททท.เตรียมปรับแผนกระตุ้นเที่ยวระยองครั้งใหญ่อีกครั้ง เผยพร้อมยกระดับเป็น luxury destination รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมี่ยม มั่นใจพร้อมทุกด้าน ทั้งแหล่งท่องเที่ยว โรงแรมพี่พัก การเดินทาง

นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เปิดเผยว่า ยอมรับว่าจากเหตุการณ์การพบผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นชาวอียิปต์เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ทำให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองได้รับผลกระทบอย่างหนักอีกครั้งหลังจากที่ทุกภาคส่วนได้กลับมาเปิดให้บริการเต็มที่กันอีกครั้งเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

นายอัครวิชย์กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.สำนักงานระยองอยู่ระหว่างการประเมินข้อมูลและผลกระทบอีกครั้งก่อนที่จะปรับแผนกลยุทธ์ เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทย อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าสำหรับจังหวัดระยองนั้นเป็นจังหวัดที่มีจุดขายหลากหลายและชัดเจน ทั้งเรื่องของการท่องเที่ยวทางทะเล การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ที่สำคัญยังเดินทางสะดวกไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาโดยในแผนปี 2564 นี้ ททท.สำนักงานระยอง มีแผนยกระดับให้จังหวัดระยองเป็น luxury destination หรือแหล่งท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีกำลังในการซื้อสูงเนื่องจากมองว่าระยองเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อย่างมาก ทั้งโรงแรม, อาหาร, แหล่งท่องเที่ยว, ทรัพยากรทางธรรมชาติ, นักท่องเที่ยวไม่แออัด, สนามกอล์ฟรวมถึงอาหารทะเลและผลไม้

“ก่อนหน้านี้เราได้คุยกับกลุ่มบริษัททัวร์แล้วว่าเราจะยกระดับเมืองระยองให้เป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่มีความลักเซอรี่ และเปลี่ยนภาพลักษณ์ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล, ผลไม้, อาหารถิ่น, ชุมชน,สนามกอล์ฟ ฯลฯ ให้ได้มาตรฐานและมีความเป็นพรีเมี่ยม โดยตามแผนเราจะร่วมกับบริษัททัวร์ให้จัดทริปเที่ยวระยองแบบหรูหรา มีระดับ นักท่องเที่ยวมาแล้วได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ”นายอัครวิชย์กล่าว

และเพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวในกลุ่มลักเซอรี่ของจังหวัดระยอง ททท. สำนักงานระยองได้คุยกับกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เตรียมความพร้อม รวมถึงสายการบิน เพื่อให้เปิดเส้นทางบินข้ามภาคเข้ามาที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาด้วย อาทิ เส้นทางเชียงใหม่-อู่ตะเภา, อุดรธานี-อู่ตะเภา และในอีกหลาย ๆ เมืองทั่วทุกภาคของประเทศสำหรับความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวของระยองนั้น นายอัครวิชย์กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดระยองมีโรงแรม ที่พัก รองรับทุกระดับจำนวนประมาณ 18,000 ห้อง โดยในปี 2562 ที่ผ่านมาพบว่า จังหวัดระยองมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 7-8 ล้านบาทคิดเป็นกลุ่มคนไทยในสัดส่วนราว80% ที่เหลือ 20% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งถือว่ายังเป็นจำนวนที่เหมาะสม ไม่โอเวอร์ซัพพลายเหมือนเมืองท่องเที่ยวหลักโดยมีตัวเลขอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 60-70% (ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19)

“ในช่วงที่เจอวิกฤตโควิด-19 โรงแรมปิดให้บริการชั่วคราวไปเกือบ 100% รวมทั้งร้านอาหาร และล่าสุดก่อนที่จะกลับมาทยอยเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งได้ลงทุนเพิ่ม เนื่องจากหวังว่าสถานการณ์โดยรวมน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ทันฟื้นตัวได้ชัดเจนก็มาเจอกรณีของทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อไวรัสทำให้นักท่องเที่ยวมีการยกเลิกการจองห้องพักแล้วเฉลี่ยราว 70-80%”

นายอัครวิชย์กล่าวและว่าส่วนตัวอยากให้คนไทยทุกคนเข้าใจว่ายังสามารถเดินทางมาเที่ยวจังหวัดระยอง ในพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องได้ตามปกติ เนื่องจากพื้นที่ที่พบเชื้อไวรัสโควิดและได้รับผลกระทบนั้นอยู่ในเมืองเป็นหลัก ซึ่งทางเทศบาลก็ได้ทำความสะอาดและฉีดฆ่าเชื้อไปแล้ว ขณะที่โรงแรมที่อยู่ในโซนอื่น ๆ ก็ยังเปิดให้บริการได้ตามปกติ