ผอ.ใหม่ “ทีเส็บ” กางแผนยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์

ผอ.”ทีเส็บ” คนใหม่ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณอยุธยา” กางแผนยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ ชู “4 แนวทาง 5 กลยุทธ์” มุ่งกระจายรายได้ หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้ไมซ์ตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 50% เท่ากับรายได้ต่างประเทศภายใน 4 ปีนี้

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งว่า ได้วางเป้าหมายมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดประชุม สัมมนา การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และแสดงสินค้า (ไมซ์) โดยอาศัยปัจจัยด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลผลักดันให้ตลาดไมซ์เติบโตคู่ขนานไปกับการพัฒนาประเทศ และสอดรับการลงทุนด้านธุรกิจไมซ์ของภาคเอกชน ที่มีแผนขยายศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าเพิ่มในอนาคต

ความท้าทายของทีเส็บคือ การทำตลาดอุตสาหกรรมไมซ์ในภาวะตลาดต่างประเทศชะลอตัว พร้อมไปกับภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งปัจจุบันมีหลายปัจจัยที่ต้องจับตา

นอกจากนี้ จีดีพีไทยปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตต่ำสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไทยเองยังมีหนี้ครัวเรือนสูงสุด ทำให้การตั้งเป้าหมายจำนวนนักเดินทางและรายได้ด้านไมซ์เข้าประเทศไทย วางการเติบโตไว้ที่ประมาณ 5% ต่อปี

โดยคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2560 (ตุลาคม 2559 – กันยายน 2560) จะมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ต่างชาติเดินทางเข้าในประเทศไทยรวม 27.1 ล้านคน สร้างรายได้ 155,000 ล้านบาท แบ่งเป็นนักเดินทางกลุ่มไมซ์ต่างประเทศ 1,109,000 คน สร้างรายได้ประมาณ 101,000 ล้านบาท และนักเดินทางกลุ่มในประเทศ 26 ล้านคน สร้างรายได้ 54,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากสถิติในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าประเทศไทยมีรายได้จากธุรกิจไมซ์ทั้งในและต่างประเทศ 150,000 ล้านบาท โดยในปี 2559 สมาคมประชุมนานาชาติของโลก หรือ ICCA ได้จัดอันดับไทยให้เป็นเมืองที่มีจำนวนการจัดประชุมสูงถึง 151 งาน

นายจิรุตถ์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทีเส็บได้วาง 4 แนวทางในการสร้างไมซ์ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาประเทศ ประกอบด้วย 1.เติบโตคู่ขนานกับการพัฒนาประเทศ เน้นการรักษาตลาดเดิม และเพิ่มตลาดใหม่ 2.เติบโตในตลาดที่มีศักยภาพ มุ่งเน้นภูมิภาคที่มีความเติบโตสูง และมีความเชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ได้แก่ เขตอาเซียน อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

3.เติบโตอย่างเท่าเทียม โดยขยายโอกาสให้อุตสาหกรรมไมซ์เติบโตอย่างเหมาะสมในจังหวัดที่มีศักยภาพ และ 4.เติบโตอย่างเข้มแข็ง ซึ่งจะต้องพัฒนาระบบภายในให้ตอบโจทย์ พัฒนาองค์กรและกฎระเบียบต่าง ๆ ให้รองรับการดำเนินงานในอนาคตได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้กำหนด 5 กลยุทธ์ที่เป็น QUICK WIN ด้วย ได้แก่ 1.ส่งเสริม สนับสนุน ผลักดัน และยกระดับ ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำไมซ์ในเวทีโลก 2.เป็นผู้นำการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งในภาครัฐและเอกชน เน้นทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยงานรัฐและเอกชน 3.กระจายเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมไมซ์สู่ภูมิภาค เน้นการชูธุรกิจไมซ์เป็นแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างรายได้สู่ท้องถิ่น ผลักดันอุตสาหกรรมแสดงสินค้าไทยสู่ภูมิภาคเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับเมืองไมซ์

4.ผลักดันใช้นวัตกรรม และสร้าง MICE Intelligence เพื่อสนับสนุนและยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน ช่วยสร้างประสบการณ์และความน่าสนใจให้แก่การจัดงานไมซ์ ผ่านโครงการ MICE Intelligence & MICE Innovation และ 5.ผลักดันทีเส็บในฐานะองค์กรที่มีความโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล