ดูไบเปิดแผนเศรษฐกิจ 10 ปี 8.7 ล้านล้านดอลลาร์ มุ่งเป็นฮับการเงินโลก

ดูไบเปิดแผนเศรษฐกิจ
A general view of Burj Khalifa, the tallest building in the world, on the day of the New Year's Eve celebrations in Dubai, United Arab Emirates, December 31, 2022. REUTERS/Satish Kumar

มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการเงินโลก ดูไบเปิดแผนเศรษฐกิจ 10 ปี มูลค่า 8.7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 296 ล้านล้านบาท

ชีก โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มักตูม (Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum) ในฐานะผู้ปกครองนครดูไบ ทวีต เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2023 เปิดเผยแผนเศรษฐกิจ 1 ทศวรรษของนครดูไบ มูลค่า 32 ล้านล้านเดอร์แฮม (ประมาณ 8.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งเป้าจะเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก

“ดูไบจะขึ้นไปเป็น 1 ใน 4 ศูนย์กลางทางการเงินของโลก ด้วยมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (foreign direct investment : FDI) เพิ่มขึ้นเป็น 650,000 ล้านเดอร์แฮมในทศวรรรษข้างหน้า นักลงทุนกว่า 300,000 คน การลงทุนจากทั่วโลกจะช่วยสร้างดูไบให้เป็นเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดของโลก” 

REUTERS/Mohammed Salem/File Photo

แผนเศรษฐกิจนี้ครอบคลุมการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศที่จะเพิ่มเป็นสองเท่าในทศวรรษข้างหน้า (2024-2033) เพื่อยกระดับสถานะของนครดูไบให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก โดยตั้งเป้าว่าการค้าระหว่างประเทศจะเติบโตจาก 14.2 ล้านล้านเดอร์แฮม หรือประมาณ 3.87 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในทศวรรษนี้ (2014-2023) ขึ้นไปเป็น 25.6 ล้านล้านเดอร์แฮม หรือประมาณ 6.97 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2033 

และพยายามที่จะดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (foreign direct investment : FDI) ให้ได้ปีละประมาณ 60,000 ล้านเดอร์แฮม หรือประมาณ 16,335 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดทั้งทศวรรษ ซึ่งจะทำให้มูลค่ารวมสูงถึง 650,000 ล้านเดอร์แฮม หรือประมาณ 176,967 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2033 เพิ่มขึ้นจากทศวรรษนี้ที่ทำได้ปีละ 32,000 ล้านเดอร์แฮม หรือประมาณ 8,712 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

Bloomberg รายงานว่า ในปี 2022 เศรษฐกิจของดูไบยังคงฟื้นตัวหลังการระบาดของโควิด-19 และในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้วเติบโต 4.6% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) แต่แผนการสำหรับการเติบโตในระยะยาวนี้เกิดขึ้นเมื่อนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกที่น่ากลัว กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) คาดว่า 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2023 นี้ โดยสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีนต่างก็ชะลอตัวพร้อมกัน 

ดูไบกำลังพยายามกระตุ้นภาคการผลิตและโลจิสติกส์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 700,000 ล้านเดอร์แฮม หรือประมาณ 19,057 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 10 ปีข้างหน้า จาก 512,000 ล้านเดอร์แฮม เมื่อทศวรรษก่อน 

เมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมืองนี้เป็นเมืองหลวงทางการค้าของภูมิภาคนี้มานานกว่าทศวรรษ แต่ซาอุดีอาระเบียพยายามที่จะขยายบทบาทในฐานะศูนย์กลางธุรกิจและการค้าภายใต้แผนพัฒนาวิสัยทัศน์ ‘Saudi Vision 2030’ ของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (Mohammed bin Salman) 

ดูไบได้นำการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายมาใช้และคลายข้อจำกัดทางสังคม เพื่อรักษาเสน่ห์ที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติและผู้มีทักษะสูง เริ่มต้นปีนี้ด้วยการยกเลิกภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 30% และเมื่อปีที่แล้วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ยกเลิกกฎหมายการห้ามคู่รักที่ไม่ได้แต่งงานอยู่กินด้วยกัน และเปลี่ยนวันทำงานเป็นวันจันทร์-ศุกร์ เพื่อให้คนทำงานมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์อย่างสากล จากเดิมที่หยุดวันศุกร์และเสาร์ นอกจากนี้ ยังแนะนำวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติให้สามารถทำงาน อยู่อาศัย และเรียนได้โดยไม่ต้องมีสปอนเซอร์

แม้ว่านโยบายและกฎระเบียบด้านการย้ายถิ่นฐานที่เอื้ออำนวยจะทำให้บริษัทสามารถจัดตั้งธุรกิจในดูไบได้ง่าย แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะดูไบกำลังอยู่ภายใต้การตรวจสอบระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ดึงดูดกลุ่มนักลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี และเศรษฐีรัสเซียเข้าเมือง