เมื่อ 6 มี.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เตรียมจัดประชุมระดับผู้นำที่เขตปลอดทหาร หรือดีเอ็มซี ในเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งจะถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของทั้งสองชาติ ภายหลังคณะผู้แทนของเกาหลีใต้เดินทางไปหารือกับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ขณะที่ทางการเกาหลีเหนือระบุว่ายินดีล้มเลิกโครงการพัฒนาและการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์หากความมั่นคงของเกาหลีเหนือได้รับการรับรอง และไม่มีภัยคุกคามทางทหารจากสหรัฐอเมริกา
การกลับลำทางนโยบายนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นทั้งที่ผ่านมาเกาหลีเหนือเคยยืนยันหนักแน่นว่า อาวุธนิวเคลียร์ ไม่ใช่เครื่องต่อรอง และจะไม่ยอมล้มเลิกการครอบครองอาวุธดังกล่าว ทว่า ล่าสุด นายชุง อุยยอง ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงเกาหลีใต้ที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเกาหลีใต้เพิ่งกลับมาจากกรุงเปียงยาง ระบุว่า ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือจะยอมระงับโครงการชั่วคราว หากความปลอดภัยของ คิม จองอึน และความมั่นคงของชาติได้รับการรับรอง เพราะเกาหลีเหนือถือว่าชาติมีความเสี่ยงต่อการโดนสหรัฐรุกรานและโจมตีด้วยกำลังทหาร
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
นอกจากนี้ นายคิมยังระบุว่า ยินดีที่จะหารือกับทางการสหรัฐอเมริกาอย่างไม่มีเงื่อนไข เพื่อนำไปสู่การยุติโครงการนิวเคลียร์ด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางการสหรัฐตั้งเงื่อนไขว่าเกาหลีเหนือจำเป็นต้องดำเนินมาตรการตามข้อเรียกร้องของสหรัฐเพื่อแสดงความจริงใจก่อน สหรัฐจึงจะยอมหารือด้วย
ด้านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ กระบอกเสียงพรรคคนงานเกาหลีเหนือ ระบุว่า ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือยินดีต้อนรับคณะผู้แทนของฝ่ายเกาหลีใต้อย่างอบอุ่น โดยคณะผู้แทนของเกาหลีใต้มอบจดหมายของประธานาธิบดีมุน แจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ ที่เสนอให้ทั้งสองชาติจัดการประชุมระดับผู้นำ ขณะที่นายคิม หารือแลกเปลี่ยนทัศนะ และบรรลุข้อตกลงกับเกาหลีใต้อย่างน่าพอใจ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงรับประทานอาหารร่วมกันที่สำนักงานใหญ่พรรคคนงานเกาหลีเหนือที่กรุงเปียงยาง
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนโยบายการต่างประเทศ มองว่า เกาหลีเหนือกำลังดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่แยบยลมีเป้าประสงค์ต้องการดึงเกาหลีใต้ออกห่างจากสหรัฐ และบิดเบือนปัญหาคาบสมุทรเกาหลี โดยพยายามทำให้ประชาคมโลกเห็นว่าสหรัฐกลายเป็นตัวปัญหา มากกว่าผู้นำการแก้ไขปัญหา
ที่มา ข่าวสดออนไลน์