ธนาคารกลางเตือนเอง เศรษฐกิจเยอรมนีเข้าภาวะถดถอยในไตรมาสนี้ และจะอ่อนแอต่อไป

มิวนิก เยอรมนี
จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ นครมิวนิก ประเทศเยอรมนี

ธนาคารกลางเยอรมนีเตือนว่า เยอรมนีมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในไตรมาสนี้ และด้วยหลายปัจจัยลบทำให้เศรษฐกิจเยอรมนีที่อ่อนแอมาตั้งแต่ปี 2022 จะยังอ่อนแอต่อไป 

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2024 ดอยช์ บุนเดสแบงก์ (Deutsche Bundesbank) หรือธนาคารกลางสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กล่าวเตือนในรายงานประจำเดือนว่า เยอรมนีมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสนี้ เนื่องจากอุปสงค์ภายนอกอ่อนแอ ผู้บริโภคยังคงระมัดระวัง และการลงทุนในประเทศถูกระงับด้วยต้นทุนการกู้ยืมที่สูง 

เศรษฐกิจเยอรมนีอยู่ในภาวะต้องดิ้นรน นับตั้งแต่การรุกรานยูเครนของรัสเซียเริ่มขึ้นเมื่อต้นปี 2022 ส่งผลให้ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น และเศรษฐกิจขนาดใหญ่ซึ่งเน้นพึ่งพาอุตสาหกรรมมีอัตราการเติบโตเป็น 0% หรือติดลบมาเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมของยูโรโซนและสหภาพยุโรปทั้งหมด 

บุนเดสแบงก์เตือนว่า สำหรับตอนนี้ความอ่อนแอยังคงมีอยู่ โดยให้เหตุผลว่า อุปสงค์ของอุตสาหกรรมต่างประเทศมีแนวโน้มลดลง และคำสั่งซื้อที่รอการส่งมอบกำลังลดน้อยลง กล่าวคือไม่มีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาเติม 

“เศรษฐกิจเยอรมนียังคงไม่มีการฟื้นตัว ผลผลิตอาจลดลงอีกครั้งเล็กน้อยในไตรมาสแรกของปี 2024 และด้วยการที่ผลผลิตทางเศรษฐกิจลดลงติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง เศรษฐกิจเยอรมนีจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค” บุนเดสแบงก์กล่าว  

“ช่วงเวลาของความอ่อนแอในเศรษฐกิจเยอรมนีที่ดำเนินมานับตั้งแต่เริ่มสงครามรุกรานรัสเซียกับยูเครนจะยังคงดำเนินต่อไป” 

ธนาคารกลางเยอรมนีระบุอีกว่า บริษัทจำนวนมากต่างก็ระงับการลงทุน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงเป็นประวัติการณ์ เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้งการเติบโตของค่าจ้างที่สูงก็ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และการนัดหยุดงานในภาคส่วนสำคัญ ๆ เช่น การขนส่ง ก็อาจส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสนี้เช่นกัน

แม้ว่าแนวโน้มจะอ่อนแอ แต่ธนาคารกลางเยอรมนีคาดว่าจะไม่มีความเสื่อมถอยในระดับที่สำคัญในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นฉนวนของเศรษฐกิจมาจนถึงขณะนี้ และแม้เยอรมนีจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็จะไม่เกิดในวงกว้างและไม่ยืดเยื้อเป็นเวลานาน

ส่วนการหยุดชะงักของการขนส่งในทะเลแดงนั้น บุนเดสแบงก์กล่าวว่าจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีกำลังสำรองจำนวนมาก และเนื่องจากค่าขนส่งเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของต้นทุนสินค้าโดยรวม 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเยอรมนีได้โต้แย้งการคาดการณ์ที่มืดมนนี้ โดยให้เหตุผลว่า นี่เป็นเพียง Perfect Storm ของปัญหาต้นทุนพลังงานที่สูง อุปสงค์ของจีนที่อ่อนแอ และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจชั่วคราว แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดคำถามต่อพื้นฐานของกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจ