จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา สถานการณ์ไฟป่า “เมนโดชิโน คอมเพล็กซ์” (Mendocino Complex Fire) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ลุกลามเป็นวงกว้างรุนแรงถึง 2 วัน กลายเป็นปรากฏการณ์ความเสียหายที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของรัฐแห่งนี้
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า พื้นที่ความเสียหายที่ไฟป่าลุกลามอย่างหนักในรัฐแคลิฟอร์เนียขยายเป็นวงกว้างถึง 283,800 เอเคอร์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเปลวเพลิงได้เพียง 30% ของพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น ทั้งนี้ รายงานระบุว่า เหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นมา ทำลายสถิติไฟป่า “ไฟป่าโธมัส” (Thomas Fire) ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2017 โดยเผาทำลายไปถึง 281,893 เอเคอร์
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ทั้งนี้ นายไบรอัน เฮอร์ลีย์ นักอุตุนิยมวิทยาจากศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติ ระบุว่า เหตุการณ์ไฟป่าเกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนียอยู่บ่อยๆ สาเหตุหลักนั้นมาจากความแห้งแล้งที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ของสหรัฐอเมริกา ขณะที่ อุณหภูมิร้อนจัดแต่สูงสุดที่ 110 องศาฟาเรนไฮต์ และมีลมแรงถึง 15 ไมล์ต่อชั่วโมง จึงทำให้เปลวไฟนั้นพัดพาไปยังพื้นที่โดยรอบได้ง่าย
ขณะที่ นักสังคมและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า แถบพื้นที่แห้งแล้งในสหรัฐฯ ไม่ได้มีเพียงในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น แต่มีอีกหลายพื้นที่ อีกทั้งประชาชนยังต้องพึ่งพาการทำเกษตรกรรมเป็นรายได้หลักด้วย