ทางการจีนเตรียมทุ่มลงทุนด้าน “ชิป” มากขึ้นเพื่อขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโลก การเคลื่อนไหวดังกล่าวเพื่อรับมือการมาตรการกีดกันทางการค้าสหรัฐ ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศ หลังเมื่อเมษายนที่ผ่านมา สหรัฐประกาศแบนการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์จาก ZTE บริษัทจากจีน
เซาธ์ ไชน่า มอนิ่ง โพสต์ รายงานว่า ในวันศุกร์นี้ “ติง เหวินวู” ประธานกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งชาติจีน หรือ “บิ๊กฟัน” ได้ขึ้นกล่าวสปีชในงานสมาร์ทเอ็กซ์โป เมืองฉงชิ่ง ระบุว่า ประเทศจีนต้องทุ่มลงทุนครั้งใหญ่ในการพัฒนา “ชิป” ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาในอนาคต เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างจะเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่อำนวยความสะดวกวิถีชีวิตผู้คนมากขึ้น หลังจากโดนกีดกันจากสหรัฐที่แบน ZTE ไม่ให้ส่งออกสินค้า
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- หวยงวด 2 พ.ค. เช็กสถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
โดยบิ๊กฟันด์ เป็นกองทุนที่ก่อตั้งปี 2014 โดยรัฐบาลปักกิ่ง เพื่อที่จะหนุนประเทศให้กลายเป็นผู้นำด้านอุตฯเซมิคอนดักเตอร์ สามารถผลิตชิปคุณภาพระดับสูงที่ใช้อย่างแพร่หลายในประเทศในฐานะซัพพลายเชนหลัก โดยเล็งสนับสนุนสตาร์ตอัพและเซมิคอนดักเตอร์สตาร์ตอัพ รวมไปถึงสำนักวิจัยและพัฒนาต่างๆ
ปัจจุบัน สำนักวิจัยเบิร์นสไตน์ ระบุว่า จีนเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนกว่า 90% ผลิตคอมพิวเตอร์บุคคลกว่า 65% สมาร์ททีวีอีกกว่า 67% แต่ทั้งนี้ จีนต้องนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างชาติเพื่อเข้ามาประกอบ โดยเฉพาะในส่วนของชิป โดยมีมูลค่าชิปนำเข้าโดยจีนกว่า 260,000 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีก่อน
แม้ว่าจีนจะเป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ของโลกก็ตาม แต่ในเรื่องชิป คุณภาพยังไม่สูงนักหากเทียบกับบางประเทศที่มีโนว์ฮาวระดับสูง ดังนั้นเป้าหมายใหม่ของจีนคือการพัฒนาชิปที่สามารถเป็นซัพพลายเชนหลักในประเทศได้
โดยบิ๊กฟันด์ประกาศจะร่วมงานกับนักลงทุน ปิดจุดบกพร่องและเสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ โดยเฉพาะด้านหน่วยประมวลผลกลางและกราฟิก ซึ่งปัจจุบัน จีนครองตลาดเซมิคอนดักเตอร์ระดับล่างถึงกลางของโลกอยู่ และจำเป็นที่จะต้องขยับเพื่อครองตลาดระดับสูงเพื่อลดการขาดดุลการค้าให้ได้
ติง ระบุถึงตลาดขนาดใหญ่ของจีนด้วยว่า เป็นโอกาสที่สำคัญที่สุด โดยต้องเร่งพัฒนาให้จีนเป็นประเทศอุตสาหกรรมอัจฉริยะให้ได้
ทั้งนี้ บิ๊กฟันด์เล็งระดมทุนเพิ่มรอบที่ 2 มูลค่า 150,000-200,000 แสนหยวน เพื่อเดินหน้าตามแผนการดังกล่าว โดยทุนดังกล่าวจะทุ่มให้กับชิปคอมพานีทุกระดับ ทั้งที่ใช้ในรถยนต์อัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ หรือไอโอที (internet of things)
รัฐบาลจีนเองก็ตั้งเป้าระยะสั้นเช่นกัน ที่จะเพิ่มรายได้จากการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในระหว่างปี 2015-2020 เพื่อเป็นผู้นำซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์ทุกรูปแบบในปี 2030